ขยับเข้าสู่เดือน กุมภาพันธ์ เป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...อีกแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ก็จะถึงเดือน มีนาคม วันที่ 29 วันแห่งการ เลือกตั้งที่รัก กันอีกไม่นาน-ไม่ช้า ซึ่งถ้าว่ากันตามประสา เซียนม้า ก็คือใกล้ๆ จะถึงช่วง โค้งวัดเบญจะ กันอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล โค้งที่บรรดาเซียนๆ ทั้งหลายอาจพอสรุปได้บ้างว่า ใครจะเบียด ใครจะแซง ใครจะนำหน้าเข้าเส้นชัย ระหว่างม้าเต็ง ม้ามืด หรือม้าคอกไหนต่อคอกไหน ก็ตามแต่...

                                                              --------------------------------------------------

      ส่วนระหว่างที่กำลังใกล้เข้าโค้งวัดเบญจะนั้น...โดยสรุปรวมๆ แล้ว น่าจะยังคง เกาะกลุ่ม กันอยู่ ไม่ว่าม้าคอก พลังประชารัฐ ที่ยังเบียดกันไป-เบียดกันมากับม้าคอก เผาไทย แบบชนิดตามหายใจรดต้นรอกันไปเรื่อยๆ โดยมีม้าคอก ประชาธิกัด วิ่งดมหางม้าอยู่ห่างๆ ทิ้งระยะไปจากกลุ่มที่สอง ที่มีม้าคอก ภูมิใจไทย เป็นตัวนำ ไปประมาณไม่กี่ศอก-ไม่กี่วา โดยกลุ่มนี้ต่างก็ผลัดกันแซงหน้า-แซงหลัง ระหว่างม้าคอก ชาติพัฒนา, ชาติไทยพัฒนา, ไทยรักษาชาติ, เพื่อชาติ, รวมพลังประชาชาติไทย ฯลฯ จนแทบไม่รู้หมู่ รู้จ่า ว่าสุดท้ายแล้ว...ใครจะเป็น  ตัวแปร หรือเป็นแค่ ฮอยไถแป้ กันแน่...

                                                                ---------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...หลังจากที่เจอกับฝุ่นพิษ ควันพิษ และเจอกับ มึงลองมาไล่กูสิ ฯลฯ เข้าไปเป็นระลอกๆ ดูเหมือนว่า จ๊อกกี้ ของม้าคอกพลังประชารัฐ ออกจะมึนน์น์น์ๆ เบลออ์อ์อ์ๆ อยู่พอสมควรเหมือนกัน ขณะที่ม้าคอก เผาไทย ที่ทำท่า เหี่ยวปลาย ลงไปก่อนหน้านี้ กลับดูกระเหี้ยนกระหือรือขึ้นมาอย่างเป็นพิเศษ กระแทกส้นเท้า ส้นตีน เร่งฝีเท้าม้า ชนิดกะจะเบียด กะจะแซง ตรงโค้งวัดเบญจะให้จงได้ ไม่ต่างไปจากม้า ประชาธิกัด ที่ได้จังหวะ ได้โอกาส ส้มหล่น อะไรประมาณนั้น ขยับบังเหียนตามมาติดๆ ชนิดเล่นเอาบรรดา เซียนม้า ต้องบิดไป-บิดมา แทบหัวใจวายเอาเลยก็ว่าได้...

                                                               --------------------------------------------------------

      สรุปรวมความแล้ว...การเลือกตั้งเที่ยวนี้ จะว่าดูยากก็ยาก จะว่าดูง่ายก็ง่าย เพราะออกจะเป็นอะไรที่มีสิทธิ์ พลิกไป-พลิกมา หรือสามารถ หักปากกาเซียน ได้เสมอๆ คือแม้ว่า ดูง่าย ในแง่ที่ไม่ว่าม้าคอกไหนต่อคอกไหน พรรคไหนต่อพรรคไหน จะเบียดจะแซงกันยังไงก็ตาม แต่สุดท้าย...ม้าที่ถูกขับ ถูกควบ โดยจ๊อกกี้อย่าง บิ๊กตู่ นั่นแหละ ย่อมต้องเข้าป้าย เข้าเส้นชัย ในฐานะที่ออกสตาร์ทเลยกว่าม้าตัวอื่นๆ ไปถึง 250 เมตร หรือ 250 เสียง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...การเข้าเส้นชัยโดยมีเสียงติดกระเป๋าอยู่ประมาณ 250 เสียงเอาไว้ก่อนล่วงหน้า มันคงยังไม่ถึงกับ ชนะขาด  โดยเฉพาะถ้าหากปล่อยให้ม้าคู่แข่งกวาดเสียง มาได้ในระดับ 200-300 ชัยชนะที่ว่าก็ยังอาจเป็นชัยชนะที่ไม่ถึงกับครบถ้วน สมบูรณ์ ชนิดแม้ชนะแล้วแต่อาจ ตกม้าตาย เอาง่ายๆ...

                                                              ------------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าหากจ๊อกกี้...ออกอาการมึนน์น์น์ๆ เบลออ์อ์อ์ๆ ออกมา มึงลองมาไล่กูสิ อยู่บ่อยๆ โอกาส ตกม้าตาย วันใด-วันหนึ่ง...ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย คือจะเอาอารมณ์ความรู้สึกคนไทย ไปเทียบกับคนฟิลิปปินส์ เอาความหยาบ ความถ่อย ของ ดูเตอร์เต มาเทียบกับ บิ๊กตู่ นั้น มันคงไม่น่าจะถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก แม้ ความเป็นนายกรัฐมนตรี คงไม่ถึงกับต้องเป็น นายแสนดี วจีไพเราะ อะไรกันมากมาย แต่ถ้าดันคิดเอา ดูเตอร์เต   หรือเอา ทรัมป์บ้า เป็นแบบอย่าง โอกาสที่จะตาย...กับ...ตาย ย่อมมีสูงเอามากๆ ดังนั้น...ใครที่เป็นห่วง-เป็นใย บิ๊กตู่ ในเรื่องนี้ ก็อย่าถึงกับต้องออกมา เชียร์ ให้เข้ารก-เข้าพง ยิ่งไปกว่านี้อีกเลย หันมาดึงๆ-รั้งๆ เอาไว้มั่ง นั่นแหละดี น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ต่อส่วนรวม มากกว่า รสนิยม ส่วนตัวเป็นไหนๆ...

                                                              -----------------------------------------------------------

      ว่ากันว่า...ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของการแข่งม้าเที่ยวนี้ หรือการเลือกตั้งเที่ยวนี้นั้น สุดท้าย...น่าจะวัดตัดสินกันที่สนามแข่ง สนามเลือกตั้งแถวๆ อีสานและภาคเหนือนั่นแหละเป็นสำคัญ รวมทั้ง รสนิยม ที่ เปลี่ยนไป ของบรรดา คนรุ่นใหม่ หรือคนอายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป ที่มีอยู่ประมาณ 5 ล้าน 6 ล้านคน อันเป็นองค์ประกอบ หรือส่วนเสริม ซึ่งไม่อาจละเลยกันได้ง่ายๆ คือมันมีทั้ง อารมณ์-ความรู้สึก แบบเก่า-แบบใหม่ ผสมปนเปกันจนยากที่จะหาข้อสรุป หาข้อวินิจฉัยได้ชัดๆ ดังนั้น...สิ่งสำคัญมันจึงน่าจะอยู่ที่ ความถูกต้อง-เป็นธรรม หรือความพยายามเดินตาม ครรลอง-คลองธรรม ให้มากๆ เข้าไว้นั่นแหละ ถึงจะ เข้าท่า ที่สุด เพราะไม่ว่าแพ้หรือชนะ แต่อย่างน้อย...ความถูกต้อง-เป็นธรรมนั่นเอง ที่จะกลายเป็นตัว ควบคุม และ กำกับ ไม่ให้ทิศทางของบ้านเมือง ต้องออกไปทางเละเทอะ เลอะเทะ หรือต้องหวนกลับไปสู่ ทศวรรษแห่งความมืดมน กันอีกจนได้ เนื่องจากไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ม้าตัวไหน คอกไหน จะเข้าเส้นชัยก็แล้วแต่ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุข นั่นแล...

                                                               -----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Chinese proverb... The silkworm weaves its cocoon and stays inside, therefore it is imprisoned; the spider weaves its web and stays outside, therefore it is free.- ตัวไหมชักใยไหมอยู่ในรังไข่ จึงถูกจองจำ แมงมุมชักใยอยู่ภายนอก จึงเป็นอิสระ...

                                                               -------------------------------------------------------------