รองโฆษก ตร.เผยคำสั่ง "เทพโจ๊ก" สอบตม.สระแก้ว-ปัตตานี เหตุเพราะปล่อยกองกำลังชาวกัมพูชาหลบเข้า-ออกประเทศ มีการฝึกการต่อสู้ในช่วงเวลากลางคืน เป็นภัยและกระทบต่อความมั่นคง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ลงนามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการที่ ศปก.สตม. และแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 32/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ร.ต.ท.อนุกุล รัตโนดม รอง สว.ตม.จ.สระแก้ว, ร.ต.ต.หญิงสาริศา สฤษฎ์วีรดา รอง สว.อก.ตม.จ.สระแก้ว, ร.ต.อ.หญิงจุฬาลักษณ์ มอรร์ รอง สว.อก.บก.ตม.6, ร.ต.ท.หญิงกนกรักษ์ ต้นโลห์ รอง สว.อก.ตม.จ.สระแก้ว, ด.ต.นาวิน ฉัตรสกุลปัญญา ผบ.หมู่ ตม.จ.สระแก้ว, ร.ต.ต.สมชาย ไล้สมบุญ รอง สว.อก.ตม.จ.สระแก้ว และ ด.ต.หญิงเยาวเรศ สุขนิรันดร์ ผบ.หมู่ ตม.จ.สระแก้ว
และคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 34/2562 ลงวันที่ 30 ม.ค.62 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.ท ธีร์รชสิษ เจี่ยงเพ็ชร สว.ตม.จ.ปัตตานี, ร.ต.อ.ชิติสรรค์ คงขำ รอง สว.ตม.จ.ปัตตานี และ ร.ต.ท.สุธรรม ขวัญเทียร รอง สว.ตม.จ.ปัตตานี
เขากล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกิดความเป็นธรรม ให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 10 นายไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.สตม. โดยขาดจากต้นสังกัด มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ม.ค. เจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนปอเนาะมัตรอลาตุลฟาละห์ หมู่ 4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการฝึกการต่อสู้ในช่วงเวลากลางคืน
"กลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มีบางส่วนหนังสือเดินทางหมดอายุ และบางส่วนไม่มีหนังสือเดินทาง จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยเข้ามาในประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว จึงมีการตั้งกรรมการสอบตำรวจ ตม.จ.สระแก้ว และ ตม.จ.ปัตตานี ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่พักอาศัยของชาวกัมพูชากลุ่มดังกล่าว"
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เน้นย้ำนโยบายการป้องกันอาชญากรรมในทุกพื้นที่ กวาดล้างคนต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง แยกคนร้ายออกจากคนดี ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่คนต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่
พ.ต.อ.กฤษณะระบุว่า ในหลักการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีอำนาจพิจารณาปฏิเสธการเข้าเมือง และผลักดันบุคคลออกนอกประเทศได้หากมีการกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง และบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมหรือประวัติสุ่มเสี่ยงที่เป็นภัยและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ให้เรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกนาย การปฏิบัติหน้าที่จะต้องเกิดความชัดเจนในการใช้ดุลยพินิจ ยึดหลักตามกรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่สามารถกระทำได้
ในส่วนของการสืบสวนข้อเท็จจริงนั้น ทางคณะกรรมการจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว ตามกรอบของระยะเวลา มีความโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับการป้องกันเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะเพิ่มความเข้มการออกป้องกันปราบปรามบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง และชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุเกี่ยวกับความมั่นคงเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |