พลังประชารัฐคึกคัก "อุตตม" ลั่นหาก "บิ๊กตู่" ตอบรับ พรรคจะไร้เทียมทานแน่นอน "สมศักดิ์" เหน็บเพื่อไทยโม้กวาด ส.ส. 250 คน แต่ส่ง 250 เขต เล่นแรงมือมืดเผาป้ายหาเสียงทายาทปุ้มปุ้ย "กำนัน" ไปอำนาจเจริญ เสียงต้อนรับเกินคาด หวัง 50 เก้าอี้ "เจ๊หน่อย" ทำได้หมด แต่งกี่เพ้าบุกเยาวราช ฟุ้งปลดทุกข์ให้ประชาชน คุยมาที่ 1
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พรรคการเมืองลงพื้นที่ ปราศรัยหาเสียง เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมกันอย่างคึกคัก หลายพรรคทยอยเปิดนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งต่างๆ และต่างประกาศว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
ที่สนามฟุตซอลบางกอกอารีน่าหนองจอก เขตหนองจอก กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และคณะกรรมการบริหารพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค 350 เขต และบัญชีรายชื่อ 150 คน พร้อมประกาศนโยบายพรรคชุดแรก ภายใต้สโลแกน “รวมพลังสร้างชาติให้ยั่งยืน” โดยมีสมาชิกพรรคและประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน
จากนั้นนายอุตตมกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรื่องที่ตนจะต่อยหนักคือนโยบายที่เราจะอาสาทำงานให้ประเทศไทย พรรค พปชร.มีอายุแค่ 3 เดือน เป็นน้องใหม่ แต่พร้อมที่จะเดินสู่สนามเลือกตั้ง เรามีนโยบายที่จะก้าวสู่ชัยชนะไปด้วยกันในเวลา 50 วัน
"เราเลือกข้างแล้ว แต่ไม่ใช่พวกอ้างประชาธิปไตยแต่แท้จริงเป็นเผด็จการรัฐสภา ถ้าจะก้าวไปสู่ประชาธิปไตย เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนเพื่อให้หลุดจากปัญหาที่บั่นทอนประเทศ"
เขากล่าวว่า 4 ปีที่แล้วเศรษฐกิจประเทศโตไม่ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้เพิ่มเป็น 4.2 เปอร์เซ็นต์ มีนักลงทุนมั่นใจมาลงทุนกว่า 9 แสนล้านบาท การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 3 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะประเทศสงบสุข
นายอุตตมกล่าวว่า หลายพรรคโจมตีว่าที่ผ่านมารัฐบาลนี้ไม่มีผลงาน ขอให้กลับไปดูว่าสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมานั้นเกิดได้มีจริง แต่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข ที่ผ่านมาปัญหาที่บั่นทอนประเทศคือความเหลื่อมล้ำที่พูดทุกรัฐบาล แต่ยังไม่เห็น แต่รัฐบาลนี้ดำเนินการเพื่อแก้ไข ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แก้หนี้นอกระบบ เช่นเดียวกับพรรค พปชร. ที่มีนโยบาย 7-7-7 ภายใต้ 3 พันธกิจ คือ สวัสดิการประชารัฐ เพิ่มคน เพิ่มสิทธิ์ที่จะได้บัตรเป็น 2-3 ล้านคน เศรษฐกิจประชารัฐ เช่น แก้หนี้นอกระบบ และพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี “พักหนี้ ฟื้นฟู เติมทุน ให้โอกาส”
ไร้เทียมทานแน่นอน
นายอุตตมกล่าวว่า พรรคแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยเร่งออกเอกสารสิทธิในที่ดินที่ประชาชนมีกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นกรณีโต้แย้งระหว่างรัฐกับราษฎร และนโยบายปรับเปลี่ยนที่ดิน สปก. 4-01 เป็น สปก. 4.0 ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่น ที่มีคุณสมบัติตามที่ ส.ป.ก.กำหนดได้เข้าทำประโยชน์แทนได้ โดยได้รับค่าสิทธิ์เดิมจากการโอนสิทธิ์ในที่ดินนั้น ส่วน ส.ป.ก.ก็จะได้ค่าธรรมเนียมจากการโอนสิทธิ์ดังกล่าว โดยคงวัตถุประสงค์กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของ ส.ป.ก.เช่นเดิม และใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรเป็นหลัก หากพื้นที่ไม่เหมาะสมทำการเกษตร สามารถเปลี่ยนการใช้ที่ดินได้ตามความเหมาะสมและสภาพพื้นที่จริง ซึ่งนโยบายต่างๆ จะทำจริงไม่ขายฝันเพื่อให้ได้คะแนน
“พวกผมทั้ง 4 คนได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมติของพรรคมาเป็นนายกฯ ของพรรค ถ้าท่านมากับเราในครั้งนี้ พรรคเราจะไร้เทียมทานแน่นอน จากนี้ให้ทุกคนลงพื้นที่ เราจะสนับสนุนขุนพลของเราอย่างเต็มที่ พร้อมส่งแกนนำไปช่วยในการเลือกตั้งเพื่อให้ได้ชัยชนะ แล้วพวกเราจะไปพบกันในรัฐสภา” นายอุตตมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจบการปราศรัยนายอุตตมได้ถามกองเชียร์ว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ ถ้าอยากได้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ส่งเสียงดังๆ ทำให้กองเชียร์ส่งเสียงเฮลั่น พร้อมตะโกน “พล.อ.ประยุทธ์ๆ” เป็นระยะๆ
จากนั้นได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต 350 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ขึ้นบนเวทีตามรายภาค พิธีกรได้ประกาศชื่อนายอุตตม นายสมคิด ปิดท้ายด้วย พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคพลังประชารัฐ เรียกเสียงเชียร์จากกองเชียร์ "ลุงตู่ๆๆๆ" อย่างกึกก้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่พรรคพลังประชารัฐยังไม่สามารถเปิดเผยลำดับ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อทั้ง 150 คน เนื่องจากมีการนำรายชื่อเข้ามาเพิ่มในภายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุน จึงทำให้แกนนำ พปชร.ขอประชุมเพื่อจัดลำดับให้เรียบร้อยต่อไปในวันที่ 3 ก.พ.นี้
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองอื่นบอกว่าจะกวาด 250 คน แต่ส่ง 250 เขตนั้น จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะบางจังหวัดดูแล้วไม่ได้ คิดว่าเขาจะได้บัญชีรายชื่อมากกว่าเขต
เขายังกล่าวถึงการลงพื้นที่แล้วมีบุคคลมาตามถ่ายคลิปด้วยว่า พรรคการเมืองอื่นคงจับจ้องตนเป็นพิเศษในฐานะที่เป็นประธานรณรงค์หาเสียง แต่มั่นใจว่าไม่เคยทำผิดกฎหมาย เพราะเวลาพูดอะไรมีหลักการ และจากที่ทำการเมืองมาตั้งแต่ปี 2526 ก็ไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย การหาเสียงเป็นไปตามกรอบ ส่วนบุคคลที่ตามมาถ่ายคลิปนั้น เป็นอดีตข้าราชการ ซึ่งตนก็ให้ทีมงานไปสอบถามว่าบันทึกภาพวิดีโอทำไม อยากเตือนผู้สมัครคนอื่น ต้องระมัดระวังด้วย อย่าทำอะไรที่ดูหมิ่นเหม่ ขอให้อ่านกฎระเบียบให้ชัดเจน
เผาป้ายพลังประชารัฐ
ส่วนหลังเปิดนโยบายการลงพื้นที่จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า นโยบายดี บางทีก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะส่วนกลางช่วยผู้สมัครได้จำนวนมาก ซึ่งประชาชนต้องการตัวบุคคล 40-50% และนโยบายพรรค 50-60% โดยสังเกตดูได้จากนักการเมืองในอดีตที่คิดว่าตัวเองเก่งมาก แต่สอบตก เพราะประชาชนฟังนโยบายที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 1 ก.พ. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่บริเวณถนนราษฎร์บูรณะ ระหว่างซอย 37 และ 38 พร้อมกับนายไกรเสริม โตทับเที่ยง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 24 (ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ) ของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากถูกมือดีเผาป้ายหาเสียง
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ตนมาให้กำลังใจนายไกรเสริม เพราะป้ายหาเสียงเพิ่งจะติดได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมง อีกทั้งอยู่ติดถนนใหญ่ยังถูกเผา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าเราจะไม่ยอมแพ้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐทุกคนอาสาเข้ามาเป็นตัวแทนให้กับประชาชน
ด้านนายไกรเสริมกล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่าป้ายหาเสียงของตนที่เพิ่งดำเนินการติดตั้งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 1 ก.พ. เกิดไฟลุกไหม้เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. โดยมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาพบเห็นและช่วยดับไฟไว้ได้ ขอชื่นชมพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยดับไฟ จนตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาทำดี ตนขอชื่นชมในความมีน้ำใจ และโชคดีที่เขตเรามีคนดีๆ แบบนี้
วันเดียวกันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือกำนันสุเทพ ประธานคณะทำงานเดินรณรงค์สมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมทีมงาน เดินคารวะแผ่นดินในพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและแจกใบปลิวรับสมาชิกพรรค รปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคณะเดินผ่าน พ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายซื้ออาหารการกิน ขอถ่ายรูป จับมือ ยกมือสู้ๆ ตลอดเส้นทางเดิน แม่ค้าบางคนถึงกรี๊ดเสียงดังลั่นตลาดสด และบอกว่าเห็นแต่ในทีวี พอมาเห็นตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีก ซึ่งนายสุเทพเดินยกมือไหว้และทักทายคำว่า ขอให้มีความสุข เฮง เฮง เฮง ตลอดทางที่เดินผ่าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองอำนาจเจริญ คอยอำนวยความสะดวก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลติดตามถ่ายภาพตลอดเวลา
"กำนัน"ขอ 50 ที่นั่ง
นายสุเทพกล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญ มี 2 เขตเลือกตั้ง พรรค รปช.ส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 เขต 2 คน คือ เขตเลือกทั้งที่ 1.พ.ท.วิรัตน์ มิลภา ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2.นายเฉลียว บุญมาลี โดยตั้งใจจะ ส.ส.เขตครบ 350 เขต 350 คน ส่วน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อส่ง 150 คน แบ่งเป็น ผู้หญิง 75 คน และผู้ชาย 75 คน ซึ่งพรรค รปช.ตั้งเป้าได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตและ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อรวมกันจะได้ ส.ส. 50 ที่นั่ง นโยบายหลักคือแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประชาชนเป็นหลัก ส่วนปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่เกิดขึ้นใน กทม.และจังหวัดปริมณฑล ไม่ต้องแก้อะไร เพราะมีกฎหมาย ขอให้ปฏิบัติจริงจังก็จะแก้ปัญหาได้
ที่ย่านเยาวราช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมแกนนำพรรค เดินหาเสียง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ใส่ชุดกี่เพ้าให้เข้ากับช่วงเทศกาลตรุษจีน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะขอเข้ามาปลดความทุกข์ให้กับประชาชนทุกคน แม้ว่าพรรคจะส่ง ส.ส.ระบบเขตเพียง 250 เขต แต่ใจว่าจะเป็นพรรคที่มี ส.ส.อันดับ 1
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตจันทบุรีทั้ง 3 เขต
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จ.จันทบุรี ได้ส่งผู้สมัครหน้าใหม่ครบทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 ดร.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ อดีตรอง นายก อบจ.จันทบุรี สมัยปัจจุบัน, เขต 2 นายชาติชาย วรพิพัฒน์ อดีตกำนัน ต.วังใหม่ นายายอาม และเขต 3 นายชรัตน์ เนรัญชร ลูกชาย อดีต ส.จ.สอยดาว
นายอภิสิทธิ์กล่าวกับชาวจันทบุรี โดยชูนโยบาย ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต แก้จน สร้างคน สร้างชาติ โอกาสนี้ได้เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่บริเวณตลาดเจริญสุข มีชาวบ้านมายื่นเอกสารปัญหาในแต่ละเขต ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนชาว จ.จันทบุรี ต้องการการแก้ไข อาทิ ด้านเกษตร ราคาผลไม้ ราคายางตกต่ำ ผลไม้ควรได้รับการส่งเสริมด้านการลดต้นทุน แปรรูป และหาช่องตลาดต่างประเทศ ปัญหาการประมงพื้นบ้าน และประมงชายฝั่ง ชาวบ้านออกเรือไม่ได้ จับสัตว์น้ำไม่ได้ ควรแก้กฎหมาย
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า แนวคิด “Home Office อยู่บ้านก็ทำงานได้” เป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดปัญหาการจราจร ลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษ อย่างละ 25% ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐจะทำงานที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน จากบุคลากรที่ทำงานในลักษณะที่เหมาะสม และ สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาสนับสนุนหน่วยงานภาคเอกชน ใช้มาตรการทางภาษีแก่บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการทำงานที่บ้าน ต่อมาคือแนวคิด “Digital Home School อยู่บ้านก็เรียนได้” เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดปัญหาจราจร ลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษ สร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว
“จะเห็นได้ว่าแนวนโยบายกรุงเทพฯ สะดวก สบายของพรรคภูมิใจไทย เป็นสิ่งเราได้เริ่มนำเสนอมาตั้งแต่แรก เป็นสิ่งที่ทำได้จริง เห็นผลแก่พี่น้องชาว กทม.ชัดเจน นโยบายของเราจึงเปรียบเป็นของแท้ เพราะทุกนโยบายที่เราเสนอได้ผ่านการศึกษาอย่างลงลึกและรอบด้าน จึงมั่นใจว่าเราเป็นต้นแบบที่ทำได้จริงแน่นอน” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |