2 ก.พ. 62 - ที่สนามฟุตซอลบางกอกอารีน่าหนองจอก เขตหนองจอก กทม. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และคณะกรรมการบริหารพรรค เปิดตัวว่า ที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค 350 เขต และบัญชีรายชื่อ 150คน พร้อมประกาศนโยบายพรรคชุดแรก ภายใต้สโแกน “รวมพลังสร้างชาติให้ยั่งยืน” โดยมีสมาชิกพรรคและประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน
นายอุตตม ปราศรัยบนเวทีถึงนโยบายของพรรค ว่าพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ 3 พันธกิจหลัก โดยเฉพาะสวัสดิการประชารัฐ ที่มุ่งเน้นขจัดความเหลื่อมล้ำ โดยการสานต่อนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องบัตรประชารัฐ ที่จะขยายเพิ่มเติมให้พี่น้องประชาชนที่มีคุณสมบัติ แต่ตกหล่นให้ได้รับสิทธิครบถ้วน รวมไปถึงการเพิ่มสิทธิต่างๆในบัตรประชารัฐตามคอนเซ็ปท์ “เพิ่มคน เพิ่มสิทธิ์”
นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐยังเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง หนี้สินประชาชน ด้วยนโยบายการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี เพราะกองทุนหมู่บ้านดำเนินการมายาวนาน แต่ยังไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ของสมาชิกผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้ต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาชดใช้ เสียดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ เห็นถึงความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนในจุดนี้ จึงต้องการแก้ปัญหาให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยแนวทางที่เรียกว่า “พักหนี้ ฟื้นฟู เติมทุน ให้โอกาส”
อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญ คือ เศรษฐกิจประชารัฐ เพื่อปากท้องและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ที่ดูแลเรื่องการเกษตรกับนโยบาย “เกษตรประชารัฐ 3 เพิ่ม 3 ลด” คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มทางเลือก และเพิ่มนวัตกรรม ลดหนี้ ลดต้นทุน และลดความเสี่ยง มุ่งเน้นยกระดับภาคการเกษตร พัฒนาศักยภาพ ให้มีรายได้ เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้าไปดูแลเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ
เช่น ราคาข้าว ด้วยการเพิ่มค่าชดเชยค่าเกี่ยวข้าว จากเดิมทั้งค่าชะลอการขายข้าวหรือค่าเก็บและค่าเกี่ยว อยู่ที่ไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ เพิ่มเป็นค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท และเพิ่มจำนวนไร่เป็นไม่เกิน 20 เพราะจากการลงพื้นที่รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนา ทราบมาว่า ส่วนใหญ่ไม่มีที่เก็บ เมื่อเกี่ยวข้าวแล้วจึงต้องขายในทันที ดังนั้นการเพิ่มค่าเกี่ยวจึงช่วยเหลือได้ตรงจุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เพียงพอต่อต้นทุนและมีเงินใช้จ่าย ตรงกับสโลแกนที่ว่า “ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม”
นายอุตตม กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่พรรคให้ความสำคัญคือ ปัญหาที่ดินทำกิน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งออกสารสิทธิ์ในที่ดินซึ่งประชาชนมีกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย การเดินหน้าพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นกรณีโต้แย้งระหว่างรัฐกับราษฎร และปัญหาสำคัญเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.โดยเสนอนโยบายปรับเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็น ส.ป.ก.4.0 คือให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่น ที่มีคุณสมบัติตามที่ ส.ป.ก.กำหนดได้เข้าทำประโยชน์แทนได้ โดยได้รับค่าสิทธิ์เดิมจากการโอนสิทธิในที่ดินนั้น ขณะที่ ส.ป.ก.ก็จะได้ค่าธรรมเนียมจากการโอนสิทธิ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามนโยบายนี้ยังคงวัตถุประสงค์กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของ ส.ป.ก.เช่นเดิมและใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรเป็นหลัก แต่หากพื้นที่ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเกษตรสามารถเปลี่ยนการใช้ที่ดินได้ตามความเหมาะสมและสภาพพื้นที่จริง
นายอุตตม ยืนยันว่า ทุกนโยบายของพรรคที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนไม่ใช่การขายฝัน แต่ทำให้เกิดขึ้นได้จริงทุกเรื่องหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นหากพี่น้องประชาชนอยากก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งสี แบ่งฝ่าย ไม่อยากกลับไปอยู่ในวังวนเดิม กินดี อยู่ดี ในสภาพบ้านเมืองที่สงบ 24 มีนาคมนี้ อย่าลืมออกไปใช้สิทธิ แล้วกาเลือกผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |