“บิ๊กแป๊ะ” สั่งตำรวจเตรียมพร้อม 100% ดูแลช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะพื้นที่คนไทยเชื้อสายจีนจัดงานใหญ่ หวั่นมีผู้ไม่หวังดีก่อเหตุ! หอการค้าฯ ประเมินเงินกระฉูดในรอบ 11 ปีถึง 5.8 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ.ที่มีการจัดงานในหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต, สุพรรณบุรี, นครสวรรค์ และอุดรธานี ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าในเชิงรุกดูแลความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว 100% โดยสั่งการให้ทุกกองบัญชาการบูรณาการร่วมกัน
“ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามหาข่าว กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีอาจอาศัยช่วงวันเวลาก่อเหตุความวุ่นวาย ออกตรวจตราการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด ในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น รวมทั้งการยิงปืนขึ้นฟ้า และได้สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจเข้มการเดินทางเข้า-ออกประเทศของนักท่องเที่ยว และได้สั่งให้ตำรวจในท้องที่อำนวยความสะดวกจราจร โดยเฉพาะในพื้นที่จัดงานไม่ให้ติดขัด พร้อมประชาสัมพันธ์ประกาศให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องเพลิงไหม้ โดยเฉพาะการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ รวมทั้งการเผาสิ่งของเซ่นไหว้” พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงตรุษจีน 2562 มีเงินสะพัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการสำรวจในรอบ 11 ปี ที่ 58,398 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.7% จากปี 2560 ที่เงินสะพัด 56,860 ล้านบาท เป็นผลจากสินค้ามีราคาแพงขึ้นและการจับจ่ายที่มากขึ้น แต่อัตราการขยายตัวที่ 2.7% ถือเป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี จากปี 2556 ที่ขยายตัวถึง 11.6% เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลผลจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกาและจีน การเจรจาเบร็กซิต และเศรษฐกิจไทยที่การส่งออกชะลอตัวลง รวมทั้งจากราคาพืชผลการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
“หากแยกเป็นภูมิภาค พบว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการจับจ่ายมากที่สุด 22,219 ล้านบาท รองลงมา ภาคกลาง 14,412 ล้านบาท, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8,730 ล้านบาท, ภาคใต้ 7,546 ล้านบาท และภาคเหนือ 5,490 ล้านบาท” นายธนวรรธน์กล่าว
นายธนวรรธน์ยังกล่าวว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงตรุษจีน ได้แก่ การซื้อของเซ่นไหว้ที่ส่วนใหญ่ยังซื้อที่ตลาดสด รวมทั้งห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และการซื้อผ่านออนไลน์ สอดคล้องผลสำรวจที่พบว่าประชาชนมีการใช้ช่องทางเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณการซื้อของเซ่นไหว้และมูลค่าการซื้อของเซ่นไหว้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 พบว่าประชาชนมีการซื้อกระดาษน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีมูลค่าที่ลดลงถึง 21.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า สถานที่คนไทยเชื้อสายจีนอยากไปสักการะและขอพร ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ, วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพฯ, วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยุธยา, วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา และวัดบำเพ็ญจีนพรต กรุงเทพฯ ตามลำดับ ทั้งนี้ พรที่ต้องการ ได้แก่ สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อายุยืนยาว ร่ำรวยเงินทอง มีโชคลาภ หมดหนี้สิน กิจการก้าวหน้า การค้ารุ่งเรือง ความเจริญในหน้าที่การงาน และทุกคนในครอบครัวมีความสุข
นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การท่องเที่ยวของไทยน่าจะคึกคัก เพราะเป็นเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงตรุษจีน จึงส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินในช่วงนี้เพิ่มมากขึ้น โดยช่วงวันที่ 4-10 ก.พ. มีปริมาณเที่ยวบินให้บริการ รวมทั้งหมด 21,999 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 3,143 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 10,773 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศ 8,869 เที่ยวบิน และเที่ยวบินผ่านน่านฟ้า 2,357 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 คิดเป็น 6.4% โดยวันที่ 5 ก.พ. จะมีปริมาณเที่ยวบินมากที่สุดอยู่ที่ 3,229 เที่ยวบิน
“สนามบินที่มีเที่ยวบินมากที่สุด 6 อันดับในระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ. คือ สนามบินสุวรรณภูมิ 7,709 เที่ยวบิน, สนามบินดอนเมือง 5,650 เที่ยวบิน, สนามบินภูเก็ต 2,708 เที่ยวบิน, สนามบินเชียงใหม่ 1,847 เที่ยวบิน, สนามบินกระบี่ 633 เที่ยวบิน และสนามบินอู่ตะเภา 613 เที่ยวบิน” นายสมนึกกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |