ปัจจุบันกระแสของวีอาร์ (VR : Visual Reality) ค่อนข้างได้รับความนิยมและเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา อุตสาหกรรม และที่เห็นเด่นชัดคือธุรกิจคอนเทนต์เกมในต่างประเทศมูลค่าของตลาดนี้มีจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะในเอเชียตลาดที่น่าสนใจและมีขนาดใหญ่คือจีน ที่มีมูลค่าของตลาดนี้สูงถึง 37,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับประเทศไทยนั้น VR เข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้วทั้งในรูปแบบที่ใช้บนโมบาย อุปกรณ์ประเภทสวมใส่อย่างแว่นตา ซึ่งปลุกกระแสฮอตฮิตได้เป็นอย่างดี มีบริษัทไทยไม่กี่รายที่ได้รับโอกาสจากเงินทุนต่างชาติให้ผลิตคอนเทนต์เพื่อป้อนตลาดในต่างประเทศ และหากให้ยกตัวอย่างบริษัทที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จเรื่องนี้ และเป็นที่ยอมรับจากตลาดจีนคงหนีไม่พ้น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด
โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญากับบริษัท Ningbo Inception Media เป็นที่ปรึกษาของเซี่ยงไฮ้ นิวมาร์จิน เวนเจอร์ แคปิตอล จำกัด (Shanghai NewMargin Venture Capital Co., Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนบริหารเงินของจีน ในการผลิตเกม Home Sweet Home Episode 2 และเกม Number 6 เข้าสู่ตลาดจีน
นายธนัช จุวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เราเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ก่อตั้งมากว่า 10 ปีแล้ว แต่มีความกระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ตัวเองในการมุ่งสู่ความสำเร็จในโลกแห่งอุตสาหกรรม Visual effect-Animation โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาความสามารถในการผลิตและขยายธุรกิจคอนเทนต์ไปสู่ระดับสากล สำหรับผลงานที่สร้างโอกาสและชื่อเสียงให้กับบริษัทคือการได้ผลิตเกม Home Sweet Home Episode1 ใช้เงินลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท และเปิดตัวไปเมื่อช่วงกันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นกระแสตอบรับดีมาก และนอกจากนี้ยังมีเกม Number5 ที่กระแสดีไม่แพ้กัน เพราะเกมทั้ง 2 คงความมีเอกลักษณ์ความเชื่อแบบไทยอิงจากเรื่องลึกลับทำให้เกิดความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจในการเล่น
อีกทั้งที่ผ่านมาได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DEPA เพื่อเข้าร่วมแสดงผลงานและจับคู่ทางธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั้งจีน ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา และแคนาดา เพื่อเปิดตลาดและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากบริษัทต่างประเทศ โดยวางแผนขยายตลาดแบบใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างความรับรู้
ทั้งนี้ มองว่าการได้ร่วมสัญญากับบริษัท Ningbo Inception Media เป็นโอกาสที่สำคัญของบริษัทในการขยายธุรกิจเกม Visual Effect Animation เข้าสู่ตลาดจีนอย่างจริงจัง และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่นักพัฒนาด้านดิจิทัล คอนเทนต์ และคอมพิวเตอร์กราฟิกไทยจะก้าวเข้าสู่ตลาดต่างชาติ
สำหรับเกม Home Sweet Home Episode 2 นั้น บริษัทวางเป้าหมายที่จะขยายไปทั่วโลก และจีนเป็นตลาดเป้าหมายที่มีจำนวนคนเล่นเป็นจำนวนมากอันดับต้นๆ ของโลก และจากปัจจัยดังกล่าวย่อมส่งผลให้เกิดรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้เรียนรู้การทำธุรกิจเกมในตลาดใหญ่
“ส่วนแผนระยะยาวในช่วง 3-5 ปี บริษัทจะเน้นทำในสิ่งที่ตนเองถนัด คือการพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์ให้มีความทันสมัยรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงขยายความสามารถโดยการตั้งสาขาในต่างประเทศและร่วมมือกับบริษัทไทยอื่นๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับไทยผ่านพันธมิตรการค้าในต่างประเทศ นอกจากนี้จะพัฒนาและผลิตทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของบริษัท” นายธนัชกล่าว
เห็นแบบนี้แล้วก็คงต้องเอาใจช่วยและร่วมกันผลักดันให้บริษัทไทยก้าวออกไปสู่ตลาดโลกมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาปัญหาหลักของธุรกิจนี้สำหรับบริษัทไทยแล้ว ไม่ใช่ความสามารถในการพัฒนาคอนเทนต์หรือความคิดสร้างสรรค์ แต่เป็นการขาดเงินทุนสนับสนุน อีกทั้งการกระตุ้นให้บริษัทเหล่านี้ผลิตคอนเทนต์ที่เป็น IP ก็จะส่งผลรวมที่ดีต่อประเทศอย่างมาก.
นัจกร สุทธิมาศ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |