พุทธศาสนิกชน-ศิษยานุศิษย์นับแสนอาลัยร่วมส่ง "หลวงพ่อคูณ" ครั้งสุดท้าย เปล่งเสียง "สาธุ" ดังตลอดเส้นทางเคลื่อนสรีรสังขารจาก มข.ถึงเมรุลอย ทัพนางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์ส่งดวงวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ นายกฯ ทอดผ้ามหาบังสุกุล ประกอบพิธีขอขมาก่อนถวายเพลิงในเวลา 22.15 น. "พระองค์โสมฯ" ประทานดอกไม้จันทน์
ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สถานที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 29 มกราคม พิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า เวลา 08.45 น. พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธัมมฺธโช) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ จากนั้นสาธุชนจากทั่วทั้งโลกได้ร่วมถวายจตุปัจจัยไทยทาน และถวายผ้าไตร ที่ มข.ได้กำหนดการทอดถวายรวม 40 ชุด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณจากทั่วทั้งโลก ได้เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม สวดมาติกาบังสุกุล ถวายภัตตาหารเพล วางดอกไม้จันทน์ และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จนล้นห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณยายคำมั่น วงกาญจนรัตน์ น้องสาวของครูใหญ่หลวงพ่อคูณ รวมทั้งคุณตาซ่อน ฉัตรพลกรัง น้องชายของครูใหญ่หลวงพ่อคูณ พร้อมคนในครอบครัว เดินทางมาร่วมพิธีการดังกล่าวตั้งแต่เช้า โดยคุณยายคำมั่นกล่าวว่า เห็นบรรยากาศที่ประชาชนจำนวนมากมาร่วมส่งหลวงพ่อ รู้สึกปลื้ม และดีใจที่ทุกคนมาร่วมต่อบุญบารมีให้กับหลวงพ่อ ซึ่งเชื่อว่าด้วยศรัทธาบุญของทุกคนจะส่งหลวงพ่อสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า มข.ได้ประสานการทำงานร่วมกับจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้งานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้นเป็นไปตามลำดับขั้นตอนและขนบอีสาน ซึ่งตั้งใจทำงานเพื่อให้งานออกมาสัมฤทธิผลที่สุด ทั้งนี้ หากผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องประการใด ในนามของจังหวัดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และขอให้สาธุชนที่เดินทางมาร่วมงานนั้นใจเย็น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือการได้ปฏิบัติตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณอย่างเคร่งครัดที่สุด
"หลังการถวายเพลิงที่ฌาปนสถานฯ เสร็จสิ้น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลา 05.00 น. วันที่ 30 ม.ค. อัฐิธาตุของครูใหญ่หลวงพ่อคูณจะไหลลงสู่โลงสเตนเลส ที่อยู่ด้านล่างสุดของเตาเผาทั้งหมด โดยมีบุคคลสำคัญ 4 คน ทำหน้าที่ล็อกกุญแจเพื่อนำโลงดังกล่าวไปลอยอังคารที่ จ.หนองคาย ส่วนตัวผมเองนับเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัวจังตระกุล ที่ได้เป็น 1 ใน 5 ของผู้แทนสาธุชนทั่วทั้งโลก ที่ได้จุดไฟถวายเพลิงแด่หลวงพ่อ ในเวลา 22.15 น. ตามขนบอีสานที่ มข.นั้นกำหนด" นายสมศักดิ์ระบุ
ผู้ว่าฯ ขอนแก่นกล่าวว่า หลังจากนำโลงสเตนเลสที่บรรจุอัฐิธาตุของครูใหญ่หลวงพ่อคูณจากฌาปนสถานฯ ไปยัง จ.หนองคายแล้วนั้น เป็นหน้าที่ของ จ.หนองคายในการที่จะนำอัฐิธาตุของท่านไปลอยอังคาร และในช่วงของการนำอัฐิธาตุลงเรือของกองทัพเรือเพื่อไปลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขงตามพินัยกรรมนั้น ตนเองนั้นเป็นหนึ่งในบุคคลที่จะต้องลงเรือลำเดียวกันกับหลวงพ่อ ซึ่งถือเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่จะได้ถวายงานท่านจนถึงวาระสุดท้าย และเมื่อได้ลอยอังคารท่านลงสู่แม่น้ำโขงบริเวณพระธาตุกลางน้ำแล้วนั้น คณะจะเดินทางกลับทันที ส่วนการกันพื้นที่ในน่านน้ำของแม่น้ำโขงนั้นเป็นหน้าที่ของ จ.หนองคาย ร่วมกับกองทัพเรือ ตำรวจตะเวนชายแดน และตำรวจน้ำ ซึ่งหวังว่าจะไม่มีสาธชุนทั้งจากฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านพยายามที่จะเข้ามาแย่งตักน้ำหรือตักอังคาร หรือข้าวตอกดอกไม้หลังเสร็จสิ้นพิธีการ เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายแล้ว ยังจะเป็นการเคารพครูใหญ่หลวงพ่อคูณ เพื่อให้ท่านนั้นได้ลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขง ตามที่ท่านได้สั่งเสียไว้ในพินัยกรรม
ต่อมา เวลา 11.30 น. นายกำปั่น ข่อยนอก หรือ กำปั่น บ้านแท่น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงโคราช) นำคณะขับร้องเพลงโคราช ร่วมขับร้องบทเพลงโคราช บริเวณด้านหน้าสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ โดยเป็นบทเพลงที่หลวงพ่อคูณชอบฟังและร้องอยู่เป็นประจำ และบทเพลงที่คณะได้แต่งขึ้นเพื่อถวายความอาลัยด้วยเนื้อเพลงที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของหลวงพ่อคูณที่เป็นคนที่รูปร่างหน้าตาไม่ดี แพ้อำนาจเงิน พร้อมกับสอดแทรกคติธรรมคำสอนว่า “เงินเป็นทาสกู กูจะไม่ยอมเป็นทาสเงิน” นอกจากนี้ยังร้องเพลงสรรเสริญคุณงามความดีของหลวงพ่อคูณ รวมถึงร้องเพลงชื่นชมชาวโคราช ชาวขอนแก่น และนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มข. ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนมารับฟังจำนวนมาก
พระองค์โสมฯ ประทานดอกไม้จันทน์
จากนั้น เวลา 14.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.มิตรอนันต์ จันทร์โสภา เป็นผู้แทนพระองค์ นำดอกไม้จันทน์ประทานวางหน้าสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ก่อนที่ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และครูใหญ่หลวงพ่อคูณ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 โดยมีพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในครูใหญ่หลวงพ่อคูณ และคนในครอบครัวครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวจนล้นห้องประชุม
สำหรับขั้นตอนประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เริ่มจากประธานนักศึกษาอ่านคำไว้อาลัยครูใหญ่ ก่อนที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. อ่านหมายรับสั่ง จากนั้น รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และผู้ว่าฯ ขอนแก่นจะทำการทอดผ้าบังสุกุล และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ
หลังจากการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้วเสร็จ คณะทำงานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเคลื่อนสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จากศูนย์ประชุมฯไปยังฌาปนสถานฯ โดยกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ยกโลงไม้จันทน์หอมที่บรรจุสรีรสังขารของครูใหญ่หลวงพ่อคูณขึ้นรถเทพพนมหมายเลขทะเบียน 4 น 1777 กทม. ที่มีการประดับตกแต่งด้วยบุษบกอย่างสวยงาม จากนั้นได้เข้าสู่ขั้นตอนของการจัดรูปขบวน เริ่มจากรถนำขบวนของตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น 1 คัน รถนำขบวนของตำรวจทางหลวง 2 คัน ตามด้วยรถขนเครื่องอัฐบริขาร ตาลปัตรพัดยศ และเครื่องไทยธรรม ต่อด้วยรถบรรจุสรีรสังขาร รถพระภิกษุสงฆ์ และรถผู้บริหาร มข.
โดยระหว่างสองข้างทาง ตั้งแต่ลงจากเวทีมาจนถึงรถที่จัดเตรียมไว้นั้น มีสาธุชนจำนวนมากต่างพากันนั่งลงกับพื้นเพื่อก้มกราบครูใหญ่หลวงพ่อคูณและเปล่งเสียงสาธุตลอดเวลา ทั้งนี้ เมื่อขบวนพร้อม เจ้าพนักงานประจำรถบรรจุสรีรสังขารหลวงพ่อคูณได้บีบแตร 3 ครั้ง เพื่อส่งสัญญาณการเคลื่อนขบวน ขณะที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข., นายสมศักดิ์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น และ พล.ต.สมชาย ครภาฉาย ผู้บัญชาการ มทบ.23 ที่นั่งไปกับรถบรรจุสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ทำการโปรยทานด้วยดอกคูณบุญ เพื่อเป็นการบอกกล่าวและเปิดทางให้กับครูใหญ่หลวงพ่อคูณตามความเชื่อ
ทั้งนี้ ในช่วงของการเคลื่อนสรีรัสงขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จากศูนย์ประชุมไปยังฌาปนสถานฯ ระยะทาง 16 กิโลเมตรนั้น ตลอดทั้ง 2 ข้างทางต่างมีสาธุชนมารอกราบและร่วมส่งดวงวิญญาณครูใหญ่หลวงพ่อคูณเต็มสองฟากถนน หลายคนได้วิ่งเข้ามาแย่งกันเก็บเหรียญคูณบุญ ที่ มข.โปรยทานตลอดทางรวมกว่า 30,000 เหรียญฯ ขณะที่บางคนได้โยนกระเป๋าเงิน, ผ้าห่ม, ผ้าเช็ดหน้า, กระเป๋าเดินทาง, หมวกกันน็อก หรือแม้กระทั่งเสื้อแจ็กเกตที่ตนเองสวมใส่เข้าไปใต้ท้องรถเคลื่อนสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ โดยเมื่อขบวนรถผ่าน เจ้าของต่างได้พากันไปเก็บกลับคืนพร้อมยกมือสาธุท่วมหัวเพื่อความเป็นมงคลให้กับตนเองและครอบครัว
นายกฯ ทอดผ้ามหาบังสุกุล
กระทั่งเวลา 15.00 น. ขบวนอัญเชิญสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณได้เคลื่อนมาถึงฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำ ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น โดย รศ.ดร.นิยม วงษ์พงศ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. นำทีมช่างนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ รวมทั้งทีมช่างศิลป์จิตอาสา กระทำพิธีรับขบวนสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย รศ.นพ.ชาญชัย และ พล.ต.สมชาย ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาส ช่วยกันยกโลงไม้จันทน์หอมที่บรรจุสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณลงจากรถ ก่อนตั้งขบวน โดยเริ่มจากขบวนตาลปัตรพัดยศ เครื่องอัฐบริขารและผ้าไตร
โดยมีพระธรรมวิสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง พร้อมด้วยพระพรหมมังคลาจารย์ ในฐานะประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ร่วมในการจูงขบวนและสวดบริกรรมคาถา ตามลำดับขั้นตอน โดยขบวนได้ขึ้นตรงบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าซึ่งตรงกับส่วนของหัวนกฯ ก่อนที่จะเลี้ยวขวา ขึ้นสะพานพญานาคและวนขวารอบนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก 1 รอบ ก่อนที่โลงบรรจุสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณจะเข้าไปในฐานตัวนกตรงปีกด้านขวาและบรรจุเข้าไปในเตาเผาทันที โดยมีคณบดีคณะแพทยศาสตร์คอยกำกับควบคุมและทำการล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา
ต่อมาเวลา 18.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประกอบพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุล ในการถวายเพลิงสรีรสังขารพระเทพวิทยาคม โดยหลังจากพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุลแล้วเสร็จ ได้มีพิธีการฆ่านกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ ตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณอีสาน โดยเชื่อว่านกหัสดีลิงค์สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้ ทั้งนี้ เมื่อนางสีดาใช้ธนูยิงเข้าที่ลำตัวของนกหัสดีลิงค์และอาญา 4 และแม่ทัพช่วยกันใช้หอกแทงนกจนตาย ได้มีอุจจาระออกมาเป็นผลไม้มงคลให้นางสีดานำกลับไปที่เมืองตัวเองที่อุบลราชธานี โดยพิธีดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งผลไม้ที่ออกมาทางด้านหลังนั้นจะอุปมาเป็นอุจจาระของนกหัสดีลิงค์ ถือว่าเป็นของมงคลที่ทางครูบาอาจารย์ได้หลงเหลือไว้ให้ชิ้นสุดท้าย และของมงคลเหล่านี้จะสงวนเก็บไว้ภายในอนุสรณ์สถานพร้อมอัฐบริขารต่างๆ ของหลวงพ่อคูณต่อไป
จากนั้น เป็นการรำสํสการ บูรพาจารย์พระเทพวิทยาคม โดยนักศึกษาของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. จำนวน 99 คน และพิธีขอขมาครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ด้วยเครื่องสักการะ 25 ชุด โดยผู้ขอขมาคนแรกคือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามด้วย รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. และ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร มข. จากนั้นผู้บริหารยืนเรียงเป็นวงกลมรอบนกหัสดีลิงค์ โดยมีพระครูสีลสาราภรณ์ และพระอาจารย์จารย์รูธรรมยอดแก้ว ดำเนินพิธีขอขมา โดยมีนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ และนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ ก้มกราบสรีรสังขารพร้อมผู้บริหารทั้งหมดเป็นอันเสร็จพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างพิธี สาธุชนจำนวนมากได้ฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในงานเพื่อต้องการเห็นพิธีใกล้ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปิดกั้นแรงศรัทธาได้ จึงปล่อยให้เข้าไป และคอยดูแลความเรียบร้อย ก่อนที่จะเชิญคนที่เข้ามาให้ออกจากพื้นที่ เพื่อเตรียมประกอบพิธีถวายเพลิงสรีรสังขารครูใหญ่พระเทพวิทยาคม ในเวลา 22.15 น. ตามกำหนดการต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |