รูปข้างบนนี้เป็น “ม้าแก้วอุปการ” ที่จักรพรรดิ์อินเดียโบราณเขาขยายอำนาจไปทั่วอาณาจักร โดย “พิธีอัศวเมธ” ปล่อยม้าแก้วที่คัดเลือกฟูมฟักปลุกเสกหญ้าน้ำมา ๓ ปี เดินทางออกไปเยี่ยมเยือนบ้านเมืองต่างๆพร้อมกองทัพ บ้านใดเมืองใดยอมอยู้ใต้ขัณฑสีมา ก็จะทำพิธีต้อนรับม้าแก้วด้วยดีพร้อมถวายบรรณาการ ถ้าใครไม่ยอมก็ต้องสู้รบกัน ยอมกันแล้วหรือชนะกันแล้วก็ต้องให้ทหารมาสมทบ จนเติบกล้าเป็นทัพใหญ่ให้ม้าแก้วพาไปยังเมืองอื่นอีก ผ่านไปเป็นเมืองๆจนรวมอาณาจักรได้ใหญ่โต แล้วจบด้วยการมาชุมนุมเข้าเฝ้าจักรพรรดิ์กันทั้งแผ่นดิน จากนั้นก็บูชายัญม้าแก้วที่แสนเหน็ดเหนื่อยส่งขึ้นสวรรค์ให้เขาไปพักผ่อน ก็เป็นอันจบพิธีอัศวเมธในที่สุด
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก มาถึงเมืองไทย พ.ศ.นี้ ก็มีคนปล่อยม้าแก้วอีกเหมือนกัน โดยหลังจากเตรียมการสร้างฐานไว้ในรัฐธรรมนูญรองรับ “นายกฯคนนอกวงการเมือง”ที่พรรคเชิญมาอยู่ในบัญชีเรียบร้อยแล้ว ลุงตู่ก็ปล่อยม้าแก้วประชารัฐ ออกรวบรวมผู้มีบุญตามหัวเมืองต่างๆจนสำเร็จเป็นพรรค เหลือแต่เพียงหลังเลือกตั้งเท่านั้นว่า ชาวบ้านกับกลุ่มหัวเมืองอื่นพรรคอื่นที่เหลือ จะยอมสมทบด้วยโดยดุษฎีหรือไม่ หรือจะต้องให้ใช้กำลังกันอีก (โปรดสังเกตหอกใบพายในมือทหารที่ยืนใส่นาฬิกา ๒๓ เรือนตามภาพ )
กุศโลบายม้าแก้วของลุงตู่ จะใช้ได้หรือไม่ในสังคมการเมืองไทยปัจจุบันนับเป็นปัญหาที่น่าวิเคราะห์มาก ซึ่งผมก็ขอขบคิดมาเสนอตามกำลัง ดังนี้
ถาม คนเราจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ลงสมัคร ส.ส. และไม่เป็นหัวหน้าพรรคได้อย่างไร
ตอบ ก็ต้องให้คนตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาหนุน โดยเขียนรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ให้นั่งรออยู่ในบัญชีนายกฯที่พรรคนั้นเสนอ จะได้ไม่เกิดปัญหาประท้วงขับไล่กันอีก เหมือนคราวพฤษภาทมิฬ
ถาม แล้วทำไมป่านนี้ลุงตู่ยังไม่ประกาศตัวรับเชิญอยู่ในบัญชีนายกฯอีก ยิ่งนานยิ่งเสียแต้มไปทุกวัน
ตอบ เขาต้องเว้นระยะให้ดูเนียนๆว่า เป็นคนนอกการเมือง ที่รักบ้านรักเมืองมากแล้วทนคำกราบไหว้วิงวอนไม่ได้จริงๆ จึงยอมเข้ามาแปดเปื้อนด้วย
ถาม จะมาเป็นนายกฯในระบบผู้แทน ทำไมกลัวแปดเปื้อนด้วย เห็นประชาชนเป็นอะไร
ตอบ ท่านไม่ได้ลง สส. ท่านเข้ามาช่วยเป็นคนกลางสร้างบ้านเมืองต่อไปอีกสักระยะเท่านั้น
ถาม พรรคม้าแก้วอย่างนี้จะไปรอดหรือครับ
ตอบ ในแง่บริหารแล้ว พรรคม้าแก้วจะลำบากมาก เริ่มจากไม่มี ผู้นำ-ผู้ตาม ที่แท้จริง พากันมาจับกลุ่มตั้งซุ้มหนุนคนกลางเท่านั้น นโยบายก็ไม่ต้องคิดอะไร ได้แต่ชูยุทธศาสตร์ชาติแห้งๆของ คสช. แล้วก็เดินเป็นกลางขอเสียงโดยสุภาพเงียบๆไปตลอดเท่านั้น ไม่มีการนำสร้างพลังอะไรให้สังคมเลย
ถาม ก็เลยเป็นกลางจริงๆ
ตอบ ครับ..คือสะเทิน..นิ่งไปตลอด ไม่หือไม่อือกับใครเขาเลย
ถาม แล้วเมื่อรับเข้ามามีชื่อในบัญชีนายกฯแล้ว ลุงตู่จะเข้ามาคุม เข้ามาบริหารพรรคประชารัฐได้ไหม
ตอบ ไม่ได้ครับ เพราะฐานะยังเป็นคนนอกพรรคอยู่ กฎหมายห้ามไม่ให้เข้ามาครอบงำพรรค มีที่อยู่นิ่งๆในบัญชีนายกฯเท่านั้น
ถาม พรรคสมัยนี้..เขาแปลกๆนะครับ...ไม่มีหัวหน้าตัวจริง
ตอบ การเลือกตั้งคราวนี้ถูกทำให้เป็นการเลือกเพื่อไทยหรือ คสช.เท่านั้น ไม่ต้องรณรงค์สู้กันในนโยบายใดๆเลย มันถูกทำให้เป็นการ“เลือกข้าง”ไม่ใช่ “เลือกตั้ง”เลือกทิศทางบ้านเมืองใดๆ จึงไม่จำเป็นต้องมีผู้นำเป็นหัวหน้าโบกธงจริงๆ
ถาม ทำตัวเป็นคนนอก ดีวิเศษอย่างนี้ แล้วถ้าได้เป็นนายกฯจริงๆ คุณท่านจะอยู่กับ บรรดา สส.ได้หรือ
ตอบ ผมว่าน่าเป็นห่วง ส.ส.มากกว่านะครับว่า จะอยู่กับคุณท่านได้อย่างไร ส่วนภายนอกพรรคนั้นเมื่อทำการเมืองแบบอยู่เหนือการเมืองอย่างนี้ ม้าแก้วก็จะถูกรุมตีข้างเดียวไปตลอด ซึ่งเมื่อตัวตนไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็อาจหมดสภาพได้ทุกเมื่อ คุณอย่าไปเชื่อที่เขาบอกว่าแบเบอร์แน่ๆ
ถาม จะอยู่นานแบบป๋าท่านได้ไหม หรือเสร็จเลือกตั้งก็วุ่นเลยแบบคุณสุจินดา
ตอบ ห่วงบ้านเมืองดีกว่าครับว่าจะอยู่อย่างไร
ถาม อาจารย์ว่าลุงตู่ผิดหรือ..ที่คิดจะเป็นนายกฯต่อไปอีก
ตอบ มันไม่ได้ผิดหรือถูกที่ตรงจุดนี้ มันผิดตั้งแต่ไม่ลงมือปฏิรูปการเมืองให้สำเร็จ จนในที่สุดก็ต้องสร้างม้าแก้วขึ้นมาเพื่ออยู่ต่อ อยู่ต่อไปแบบครึ่งๆกลางๆ ทำตัวเป็นนายกฯโปรดสัตว์ผู้ยาก มีสภาผู้แทนเป็นไส้ติ่ง เช่นรัฐธรรมนูญนี้
สัญญาว่า..ขอเวลาอีกไม่นาน...นานเป็น ๕ ปีแล้ว...ลงเอยอย่างนี้เองหรือ?
หมายเหตุ:ชื่อบทความเดิม “ม้าแก้ว”ของลุงตู่ เขียนโดยแก้วสรร อติโพธิ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับวันที่ 30 มกราคม 2562
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |