พบค้ายาในโซเชียล ถึงหมื่นเครือข่าย


เพิ่มเพื่อน    


    ห้วง 3 เดือนที่ผ่านมา จับยาบ้าได้กว่า 200 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์ 243 ล้านบาท ป.ป.ส.เผยทำงานเชิงรุกร่วมกับเมียนมา ลาวและจีน จัดชุดปฏิบัติการกว่าพันนายปิดล้อมสามเหลี่ยมทองคำแหล่งผลิตยาเสพติด สกัดสารตั้งต้นได้ 2 ล้านตัน จับตากลุ่มค้าทางสื่อโซเชียล คาดอาจมีถึง 1 หมื่นเครือข่าย
    ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วันที่ 29 มกราคมนี้ นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหาร ร่วมแถลงผลการขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติด รอบ 3 เดือน ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส. นายนิยมกล่าวว่า ผลการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในรอบ 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2561 ถือเป็นห้วงแห่งการทำงานเชิงรุกนอกประเทศ เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการสกัดกั้น ปราบปรามแหล่งผลิตที่เป็นต้นตอของปัญหายาเสพติดภายในประเทศ สามารถทำลายศักยภาพการผลิตได้จำนวนมาก ส่วนภายในประเทศเป็นห้วงแห่งการทำงานเชิงคุณภาพเพื่อวางรากฐานการป้องกัน จัดกลไกการบำบัดรักษาอย่างครบวงจร ส่งผลให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการปราบปราม สกัดกั้น และลดความต้องการใช้ยาเสพติดในระยะเร่งด่วน โดยกำหนดให้มีแผนปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดได้โดยตรง ส่งผลให้ระดับปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมายมีความเข้มข้นและจริงจังเพิ่มมากขึ้น 
    นายนิยมกล่าวว่า ป.ป.ส.เน้นการปิดล้อมยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญ โดยไทยร่วมมือกับเมียนมา ลาว และจีน จัดชุดปฏิบัติการมากกว่า 1,000 นาย เพื่อสกัดกั้นสารตั้งต้น โดยสกัดกั้นนำเข้าสารตั้งต้นได้ 2 ล้านตัน และเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ สามารถทำลายศักยภาพแหล่งผลิตยาเสพติดไม่ให้เข้าพื้นที่ทางภาคเหนือได้ โดยสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ไม่ให้เข้าประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 54.26 ของปริมาณยาบ้าที่จับกุมได้ทั่วประเทศ (ปี 2561 สกัดกั้นได้ร้อยละ 40.53) สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน โดยทุกหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดดำเนินการจับกุมยาเสพติดที่สำคัญ ของกลางยาบ้ามากกว่า 200 ล้านเม็ด ส่วนใหญ่จับได้ตามแนวชายแดน หรือห่างจากชายแดนไม่มาก ยึดทรัพย์ได้ 243 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับ 3 เดือนเดียวกันในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา
    เลขาฯ ป.ป.ส.กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติการในจังหวัดและพื้นที่ทุกจังหวัด มีการเพิ่มปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชน ซึ่งมีการแพร่ระบาดยาเสพติด 84,000 หมู่บ้าน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 8 หมื่นคดี มีผู้กระทำผิด 90,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นตัวการสำคัญในคดีจำหน่ายยาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้กว่า 30,000 ราย การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้เน้นยกระดับนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการคัดกรองกว่าได้มากกว่า 5,000 คน จากเป้าหมาย 1 หมื่นคน 
    ในส่วนของการใช้สื่อโซเชียลแพร่กระจายยาบ้า นายนิยมกล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ส.ร่วมกับตำรวจจัดชุดติดตามเครือข่ายค้ายาเสพติดในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีหลายเครือข่ายอาจถึงหลัก 10,000 เครือข่าย โดยจะไม่จับกุมด้วยวิธีล่อซื้อ เพราะวิธีการดังกล่าวจะจับกุมได้เฉพาะรายตัว เป้าหมายการจับกุมของ ป.ป.ส.ต้องการทำลายเครือข่ายทั้งหมด จึงจะติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของแต่ละกลุ่มว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร หรือแค่เพียงติดต่อกันเป็นครั้งคราว กรณีที่เป็นข่าวทั้งแก๊งเทพโซโลและแก๊งมันทุกเม็ด จากการติดตามพบว่ามีพฤติการณ์ล่อลวงเยาวชนเข้ามาเป็นเครือข่ายค้ายา และจัดส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุภัณฑ์ครั้งละไม่เกิน 200-1,000 เม็ด มีการจัดโปรโมชั่นจ่ายเงินหลังรับยาเสพติด แต่หากไม่ยอมจ่ายจะใช้ความรุนแรงในการทวงเงินเช่นเดียวกับเงินกู้นอกระบบ ซึ่งแก๊งค้ายาที่ประกาศตัวในโซเชียลไม่ใช่เครือข่ายใหญ่ เพราะรายใหญ่จะไม่แสดงตัวเพื่อเลี่ยงปัญหา มักจะเปลี่ยนชื่อเพจและวิธีการซื้อขายเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่
    "ฝากเตือนเยาวชนไว้เลย หากคิดว่าจะเข้าไปสู่ขบวนการนี้เพื่อหาเงิน ต้องพึงระวัง ไม่ใช่แค่จะโดนตำรวจจับ แต่จะโดนกลุ่มพวกนี้เล่นงานด้วย" นายนิยมกล่าว และว่า ปัจจุบันยาเสพติดที่ยังน่าห่วงและระบาดมากที่สุดในประเทศคือ ยาบ้า รองลงมาคือไอซ์ ซึ่งพบการเสพบ้าง แต่ส่วนใหญ่ถูกส่งต่อไปต่างประเทศ ส่วนที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังอีกตัวคือเคตามีน เพราะมากกว่าร้อยละ 50 แพร่ระบาดในสถานบริการ
    ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สาย เข้าสู่ชั้นในของประเทศ โดยใช้ถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางลำเลียง จึงได้ประสานกำลังระหว่าง บก.ปส. ตำรวจ สภ.แม่สาย และ ป.ป.ส.วางกำลังที่หมู่ 4 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ห่างจากพื้นที่ชายแดนเพียงเล็กน้อย ต่อมาพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กค 4964 พะเยา จอดอยู่บริเวณดังกล่าว จึงทำการตรวจสอบ ที่กระบะซึ่งเป็นตู้ทึบ เมื่อเปิดออกดูพบกระสอบฟางสีรุ้งจำนวน 25 ใบ แต่ละใบบรรจุยาบ้า รวมแล้วประมาณ 4 ล้านเม็ด จึงจับกุมนายสุรชัยที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวส่งตำรวจ บก.ปส.3 สอบสวนดำเนินคดี
    ชุมพร ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8, นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร, พล.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ผบก.ภ.ชุมพร, พ.อ.สุรศักดิ์ ชื่นสุวรรณ เสนาธิการ มทบ.44, พ.อ.ฐิติพงษ์ อินวะษา รอง ผบ.ร.25, นายสราวุธ ภักดี ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 4 ราย ประกอบด้วย นายกันตินันท์ รักษาดี อายุ 34 ปี, น.ส.สุภาวดี จี้ฟู อายุ 30 ปี, นายธนาวุฒิ ทองจริง อายุ 27 ปี และ น.ส.ขนิษฐา ตาลศรี อายุ 36 ปี ของกลางยาบ้า 8 แสนเม็ด
    พล.ต.ท.พงษ์วุฒิกล่าวว่า เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.มาบอำมฤต ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ บ้านพละ ถนนเพชรเกษม ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านมาตามถนนเส้นทางสายรองเลียบชายทะเล จึงสนธิกำลังทหารออกสกัดจับกุมทั้งรถนำเส้นทางและรถขนยาบ้าพร้อมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ที่บริเวณบ้านปากคลอง ถนนเลียบชายทะเลอ่าวไทยสายบางสะพาน-ชุมพร ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร สอบสวนทั้ง 4 ให้การว่าเป็นนายหน้าซื้อขายรถยนต์ให้เต็นท์รถในภาคเหนือเป็นอาชีพบังหน้า แล้วรับจ้างขนยาบ้าจากเมียนมาด้าน จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งให้เอเยนต์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 
    พิษณุโลก ที่ สภ.พรหมพิราม พ.ต.ท.ปฏิพล มหัทธนวิศิษฎ์ รอง ผกก.(ป) พร้อมด้วยนายเทิดเกียรติ พรมจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานข่าว ปปส.ภ.6 นายสุธี นาคะไพฑูรย์ ปลัดอำเภอพรหมพิราม ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้า 66,000 เม็ด โดยเมื่อเช้าวันเดียวกัน ชาวบ้านแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยเป็นยาบ้า ตกอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หมู่ 4 ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม ไปตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้า ถูกรถที่วิ่งผ่านทับส่วนหนึ่งแตกละเอียด คาดว่าคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ หรืออาจพบด่านตรวจข้างหน้า จึงโยนยาบ้าทิ้ง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับแก๊งมันทุกเม็ดหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"