ผลวิจัยเตือน ชาวอังกฤษมากกว่า 12,000 คน เสี่ยงเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจและหลอดเลือดในช่วง 10 ปีข้างหน้า เหตุจากเบร็กซิตที่ทำผักและผลไม้นำเข้าราคาแพงขึ้น
แฟ้มภาพ ลูกค้าเดินเลือกสินค้าประเภทผักและผลไม้ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่กรุงลอนดอน / AFP
ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนตีพิมพ์ในวารสารบีเอ็มจีโอเพน เมื่อวันอังคารที่ 29 มกราคม คาดการณ์ว่า เบร็กซิตหรือการที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีผลในวันที่ 29 มีนาคมปีนี้ จะทำให้ชาวอังกฤษเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดราว 12,400 คน ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
คริสโตเฟอร์ มิลเลต จากหน่วยประเมินนโยบายสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ซึ่งเป็นหัวหน้างานวิจัยชิ้นนี้ เผยกับเอเอฟพีว่า เมื่อเบร็กซิตมีผลบังคับ จะทำให้อังกฤษต้องปฏิบัติตามกฎขององค์การการค้าโลก และจะทำให้กล้วยที่ส่งมาขายในอังกฤษราคาสูงขึ้น 17% และส้มราคาสูงขึ้น 14% เบร็กซิตจะทำให้ผักและผลไม้ในอังกฤษราคาแพงขึ้นมาก ถ้าอังกฤษจะออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง คาดว่าระหว่างปี 2564-2573 ผู้อาศัยอยู่ในอังกฤษจะเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดในสมองตีบราว 12,400 คน และถ้าอังกฤษปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรี คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดในสมองตีบเพิ่มขึ้นอีกราว 6,000 คน
ข้อมูลของสมาคมโรคหัวใจแห่งอังกฤษระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในอังกฤษปีละราว 42,000 ราย
ผลการวิจัยหลายชิ้นระบุตรงกันว่า ผักและผลไม้มีสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ ใยอาหาร, วิตามิน, แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นผลดีต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
จากข้อมูลในปี 2560 อังกฤษนำเข้าผลไม้ถึง 84% และผัก 48% ส่วนใหญ่นำเข้าจากชาติสมาชิกอียู เช่นผลไม้ตระกูลส้มจากสเปน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |