เอา-ไม่เอาแบบไหนถึงจะเข้าท่า!!!


เพิ่มเพื่อน    

        เห็นว่าอีกแค่ไม่กี่วันข้างหน้า...ประมาณ 4-8 กุมภาฯ ก็น่าจะพอรู้ๆ แล้วว่า พรรคไหนต่อพรรคไหน จะเสนอชื่อใครต่อใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง แต่อย่างว่า...ไม่ว่าชื่อไหนต่อชื่อไหน สุดท้ายย่อมหนีไม่พ้นไปจาก ชื่อบิ๊กตู่ หรือ ไม่ได้ชื่อบิ๊กตู่ นั่นแหละ และคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ตู่นี้ หรือ ตู่-จตุพร แต่ออกไปทาง ตู่โน้น หรือนายกฯ บิ๊กตู่ คนปัจจุบันนั่นเอง...

                                    ----------------------------------------------------

        พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าพรรคไหนต่อพรรคไหนจะเสนอชื่อใคร หรือแม้ไม่คิดจะเสนอชื่อ แต่ราคาต่อรองของผู้ที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งซึ่งกำลังมาถึง ก็น่าจะยังหนักไปทาง ร้อยบาทเอาอุจจาระสุนัขกองเดียว ว่ายังไงๆ คงหนีไม่พ้นจากนายกฯ บิ๊กตู่ รายนี้นี่แหละ ด้วยเหตุนี้...มันเลยไม่ถึงกับเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้ลล์ล์ล์ ตื่นตา ตื่นใจ ซักเท่าไหร่ ว่าใครจะเสนอชื่อใคร เพราะสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า...ก็คือบรรดาฝ่าย เอาบิ๊กตู่ และ ไม่เอาบิ๊กตู่ ทั้งหลาย จะ เอา แบบไหน หรือ ไม่เอา แบบไหน อันนี้นี่เอง...ที่น่าคิด น่าสะกิดใจ ซะยิ่งกว่า...

                                   --------------------------------------------------

        คือถ้า เอา แบบพร้อมจะถอดเสื้อ-ถอดผ้า กะจะสมัครเป็น นักเรียน ร.ด. กันลูกเดียว อันนั้น...คงไม่น่าจะมี ราคา ที่ต้องเก็บไปคิดอะไรมาก เผลอๆ...แม้แต่ตัว บิ๊กตู่ อาจไม่ได้ให้ ราคา เอาไว้ด้วยซ้ำ ถึงขั้นห้ามเอาชื่อตัวเองออกไปขายตรง ขายฝาก จนกว่าจะมีการทาบทาม มีการตัดสินใจ กันให้เป็นเรื่อง เป็นราว ชนิดที่ทำให้ไปๆ-มาๆ พรรคที่ เอาบิ๊กตู่ มาตั้งแต่อ้อน แต่ออก อย่างพรรค พปชร.หรือพลังประชารัฐอะไรนั่น อาจ ตกม้าตาย เอาดื้อๆ!!! ถ้าหาก บิ๊กตู่ เกิดดันไม่คิดจะ เอา ตัวเอง กลายเป็นพรรคแทบไม่เหลือ จุดขาย เพราะจะขาย เรียงหิน ขาย ซีทีเอ็กซ์ มันคงขายไม่ได้ซักเท่าไหร่ เผลอๆ...ทุนหายกำไรหดซะอีกต่างหาก แทนที่จะได้ ส.ส.มาซัก 300 หรือ 375 ตามราคาคุยเอาไว้ก่อนล่วงหน้า อาจหล่นลงมาเหลือ 40-50 อย่างที่ ด๊อกเตอร์เหลิม นินจา ท่านทำนายทายทักเอาไว้เลยก็ไม่แน่...

                                    --------------------------------------------------

        แต่ที่ เอา กันแบบ...ต้องอาศัยสินสอด ทองหมั้น หรือต้องมี เงื่อนไข บางอย่าง บางประการ ติดปลายนวมไว้บ้างเล็กๆ น้อยๆ ตามธรรมเนียม ประเพณีที่ดี ไม่ได้คิดจะ เอาก่อนผ่อนทีหลัง หรือประเภท เอาก่อนแต่ง อะไรทำนองนั้น อันนี้นี่แหละที่น่าสนใจอยู่มั่ง เพราะไม่ใช่แต่เฉพาะพวกที่ เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง อย่างพรรคประชาธิกัดเท่านั้น แม้แต่พรรคภูมิใจใคร ของ เสี่ยหนู ก็ดูเหมือนว่า...คงไม่ได้คิดจะถอดเสื้อ ถอดผ้า พร้อมจะนอนรอ สมัครเป็น นักเรียน ร.ด. กันลูกเดียว แต่อาจต้องมีโน่นๆ นี่ๆ ติดปลายนวมเอาไว้บ้างเล็กๆ น้อยๆ...

                                     --------------------------------------------------

        เผลอๆ...ถ้าหากภูมิใจใครเกิดกวาดเก้าอี้มาได้เป็นร้อยๆ แล้วหันไปเอากับประชาธิกัดที่ได้มาเป็นร้อยๆ เช่นกัน ตัว บิ๊กตู่ เองนั่นแหละ...ที่คงต้องเสียสินสอด ทองหมั้น กันเป็นจำนวนไม่น้อย ถึงจะมีโอกาสได้ เอา หรือให้ทั้ง 2 พรรคได้เอาตัวเอง ตามแบบแผนธรรมเนียม ประเพณี แบบเข้าตามตรอก ออกตามประตู อันจะส่งผลให้ ความเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นไปอย่างลื่นๆ ไหลๆ ไม่ต้องหันมาคว้าสากกะเบือไล่ทิ่มซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ก้นหม้อยังไม่ทันจะดำ ส่วนอะไรที่ บิ๊กตู่ จะใช้เป็นสินสอด ทองหมั้น อันนี้นี่แหละที่น่าสนใจ คือจะออกไปทาง เก้าอี้ แต่ละเก้าอี้ หรือเป็นอุดมคติ อุดมการณ์ แนวทาง ทิศทางทางการเมือง เศรษฐกิจ ที่ครอบคลุมไปถึงเรื่อง น้ำมัน, กัญชา, เขื่อน, อีอีซี ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ที่ถือเป็นเครื่องแสดงออกถึง ความรัก ว่าต้องขึ้นอยู่กับความ เข้าใจ ไม่ใช่ความ เสียใจ อะไรประมาณนั้น...

                                 ------------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้...พวกที่ เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง หรือพวกที่ เอาแบบมีชั้นเชิง จึงออกจะมี ราคา กว่าพวกที่พร้อมจะถอดเสื้อ ถอดผ้า พร้อมสมัครเป็น นักเรียน ร.ด. ลูกเดียวอยู่แล้วแน่ๆ โดยเฉพาะถ้าหาก เงื่อนไข ที่ทำให้ตัดสินใจเอา หรือไม่เอาบิ๊กตู่นั้น ไม่ได้เกี่ยวพันอยู่กับ ประโยชน์ส่วนตัว หรือเกี่ยวกับ เก้าอี้ ในแต่ละเก้าอี้ แต่พร้อมจะเอา ผลประโยชน์ของส่วนรวม หรือ ผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เป็นที่ตั้ง เป็นสินสอด ทองหมั้น กันแทนที่ และใครก็ตามที่คิดจะเอาแบบนี้ หรือไม่คิดจะเอาแบบนี้ อันนี้ที่จริง...ก็พิจารณากันได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ คือแค่หันไปดู นโยบาย หรือ จุดขาย ของแต่ละพรรคนั่นเอง...

                               ---------------------------------------------------

        ส่วนพวกที่ ไม่เอาบิ๊กตู่ นั้น...คงไม่ต้องเก็บมาคิดอะไรมาก หรือถ้าหากจะคิดอยู่บ้าง ก็คงต้องคิดในแง่แล้วจะหันไปเอา-ไม่เอากันในแนวไหน แบบไหน คือถ้าหากยังเอา-ไม่เอากันในสภาฯ หรือ ตามวิถีทางรัฐสภา คงไม่ถึงกับน่าหนักใจอะไรมากมายซักเท่าไหร่ อย่างมาก...ก็คงหนักไปทางด่าไป-ด่ามา ถ้าทนไม่ไหวก็ ยกโพเดียมทุ่มหัว กันไปเป็นรายๆ แต่ถ้าดันเตลิดเปิดเปิงไปเอา-ไม่เอากันนอกสภาฯ หรือไม่ได้คิดใช้วิถีทางรัฐสภาอีกต่อไปแล้ว อันนี้นี่แหละ...คงต้องกลายเป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาจนได้ และนั่น...คงหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวข้องกับปุถุชนคนธรรมดา หรือผู้ที่ไม่ได้มีส่วนได้-ส่วนเสียในการเอา-ไม่เอากับใครเค้าเลย ที่อาจต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียม แบกฆ้องให้เพื่อนตี กันอีกเที่ยว...

                                ---------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Los Angeles Times Syndicate... “An optimist thinks the glass is half full; a pessimist think the glass is half empty. A realist thinks that if he sticks around, he’s eventually going to have wash the glass. – ผู้ที่มองโลกในแง่ดี...คิดว่าแก้วน้ำเต็มครึ่งหนึ่ง ผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย...คิดว่าแก้วน้ำพร่องครึ่งหนึ่ง ส่วนผู้ที่มองโลกตามความจริง...คิดว่า ถ้าหากไม่ไปไหน ยังวนไป-เวียนมาอยู่ใกล้ๆ ท้ายที่สุด...เขาอาจต้องกลายเป็นผู้ล้างแก้วใบนั้น...”

                                 -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"