29ม.ค.62-อย. เร่งคลอดกม.ลูก 8 ฉบับ รองรับให้ทันกับม.44 เผยครอบคลุม การใช้ประโยชน์ ปลูก ผลิต  นำเข้า ผู้ถือครองก่อนมีพ.ร.บ.ต้องแจ้งภายใน 90 วัน   สามารถใช้รักษากับโรคอะไรได้บ้าง  เชื่อ ม.44 มีประโยชน์ในแง่ที่เปิดทางให้หน่วยงานต่างๆกล้าผลิตมากขึ้น  

ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงความคืบหน้าการออกกฎกระทรวง 8 ฉบับ ว่า เนื่องจากว่าขณะนี้ทางนายรัฐมนตรี ได้มีการทูลเกล้า พ.ร.บ.ยาเสพติดแล้วให้โทษแล้ว เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ทางอย.จึงต้องเร่งดำเนินการตามที่มีการวางไว้ว่า ภายใน 2 เดือน ต้องออกใบอนุบัญญัติของกฎหมายหรือกฎหมายลูก ออกมา ซึ่งมีทั้งหมด 8 ฉบับ มีเนื้อหาคล้ายกับ พ.ร.บ.เดิมประมาณ 4ฉบับ  ประกอบด้วย  การทำบัญชี รับ จ่าย การนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นต้น เพราะฉะนั้น อาจจะใช้โครงร่างเดิมได้  แต่ที่ต้องเร่งทำคือ 4 ฉบับ คือ  1.การปลูก การผลิต การนำเข้า ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง 2.การกำหนดให้แพทย์แผนไทยประเภทใดสามารถใช้ได้หรือต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง 3.ข้อบ่งใช้ของโรค ชนิดของโรคทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันว่าจะใช้กัญชาได้ในแบบใดบ้าง และ4.การอนุญาตให้ผู้ที่เคยถือครองก่อนที่พ.ร.บ.จะออกต้องมาแจ้งก่อนภายใน 90 วัน  พร้อมกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสามารถครอบครองกัญชาได้ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ. 2562 นี้ โดยมี 1 ฉบับ คือเรื่องการผลิตนำเข้า เป็นกฎกระทรวงต้องเสนอ รมว.สาธารณสุข  เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกฤษฎีกาต่อไป ทั้งนี้จากการประชุมร่วมกับรมว.สธ.  ทุกสัปดาห์  ทุกครั้งท่านได้มีการเน้นย้ำว่า พ.ร.บ.นี้ หรือการทำร่างอะไรก็ตามต้องให้ประโยชน์กับผู้ป่วยและคนไทยจริงๆ เพราะฉะนั้นเราจะมีกัญชาเพื่อให้คนไทยเข้าถึง และได้ใช้

นพ.สุรโชค กล่าวว่า ส่วนการประกาศใช้ ม.44 เพื่อยกเลิกสิทธิบัตรกัญชาของต่างชาตินั้น ในส่วนของรายละเอียดของ พ.ร.บ.ที่ จะออกจะไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิบัตรโดยตรง  แต่จะไปเกี่ยวข้องทางอ้อม คือ คนที่จะนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์บางอย่าง  ผู้ผลิตอาจจะกังวลว่าจะมีการไปซ้ำกับที่มีการขอสิทธิบัตร  ซึ่งการออก ม.44 จะมีประโยชน์ในแง่ที่ว่า  ถ้าไม่ติดสิทธิบัตรก็จะสามารถผลิตในสิ่งที่ตามข้อบ่งชี้   คิดว่าหน่วยงานต่างๆกล้าเข้ามาขอผลิตยาต่างๆมากขึ้น   ซึ่งก่อนหน้านี้มีบางหน่วยงานจะมาขอดำเนินการ แต่ในช่วงแรกยังเกรงเรื่องสิทธิบัตรหากตรงกันกับที่มาขอจะถูกฟ้องร้อง เนื่องจากว่าในยาประเภทที่สามารถใช้รักษาได้ชัดเจนแล้ว เช่นลดอาการปวดในโรคมะเร็ง หรือใช้รักษาโรคลมชักก็พอจะรู้ว่าสูตรยาเป็นอย่างไร หลายที่จึงเกรงว่าจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิบัตรหรือไม่ จึงรอความชัดเจนก่อน มีเพียงองค์การเภสัชที่บอกว่าจะลองดำเนินการไปก่อน

เมื่อถามว่าหากเปลี่ยนรัฐบาล ม.44 อาจไม่ได้มีอำนาจบังคับเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตรหรือไม่ นพ.สุรโชค กล่าวว่า หากพ.ร.บ.ออกแล้ว บริษัทต่างๆก็จะสามารถมายื่นขอสิทธิบัตรใหม่ได้ ซึ่งม.44ที่ออกมานั้นมีประโยชน์ทำให้ไม่มีคำยื่นขอสิทธิบัตรเดิมค้างอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลและหากมีการมายื่นขอจดสิทธิบัตรอีกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วว่ามีสูตรใดบ้าง และคงมีการเฝ้าระวังมากขึ้น เพราะแต่เดิมคงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการนำกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จนมีหลายๆบริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรก่อนหลายปี