ระดมช่างศิลป์แทงหยวกประดับเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกก่อนถึงงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณวันอังคารนี้ พร้อมประดับดอกไม้สดงดงาม นายกฯ มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธี โดยจะทอดผ้ามหาบังสุกุลด้วย ผู้ว่าฯ นครราชสีมาแนะชาวโคราชที่จะไปขอนแก่น เดินทางด้วยรถไฟสะดวกที่สุด แต่หากใครไปไม่ได้ก็ร่วมงานที่วัดบ้านไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 มกราคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีกำหนดการเดินทางร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ในเวลา 17.30 น. ณ ฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวง (พระอารามหลวง) บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยนายกฯ จะทอดผ้ามหาบังสุกุลด้วย
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ยืนยันชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานในการทอดผ้ามหาบังสุกุลครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ที่ฌาปนสถาน โดยเดินทางมาพร้อมกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 1 แสนคน
กำหนดการงานพระราชทานเพลิง
สำหรับกำหนดการ เวลา 08.45 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธัมมฺธโช) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร, เวลา 09.20 น. พิธีสวดมาติกาบังสุกุล, เวลา 09.40 น. พิธีทอดผ้าบังสุกุล, เวลา 10.30 น. ถวายภัตตาหารเพล, เวลา 13.00 น. ประธานนักศึกษาอ่านคำไว้อาลัยครูใหญ่, เวลา 13.10 น. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ่านหมายรับสั่ง, เวลา 13.20 น. อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ, เวลา 13.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประธานในพิธีทอดผ้าบังสุกุล และเวลา 13.40 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ
เวลา 14.00 น. เคลื่อนสรีระสังขารครูใหญ่พ่อคูณไปยังฌาปนสถาน, เวลา 16.40 น. วางดอกไม้จันทน์ประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ, เวลา 16.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงฌาปนสถาน, เวลา 17.00 น. ทอดผ้าไตรบังสุกุล 9 ไตร, เวลา 17.20 น. อ่านประวัติครูใหญ่หลวงพ่อคูณ โดยคณบดีคณะแพทยศาสตร์, เวลา 17.30 น. ทอดผ้ามหาบังสุกุล โดยนายกรัฐมนตรี, เวลา 17.45 น. พระสงฆ์และแขกผู้มีเกียรติวางดอกไม้จันทน์, เวลา 18.00 น. พิธีขอขมาครูใหญ่หลวงพ่อคูณ และพิธีกรรมตามขนบอีสานโบราณ เวลา 22.15 น. พิธีถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
ด้านความเคลื่อนไหวตั้งแต่เช้าวันที่ 28 มกราคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) สถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปีการศึกษา 2561 ได้มีพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ ชาวต่างชาติที่เคารพเลื่อมใสในหลวงพ่อคูณ รวมไปถึงคนในครอบครัวของครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง ต่างทยอยเดินทางไปวางดอกไม้จันทน์ กราบลาร่างครูใหญ่ และฟังสวดพระพุทธมนต์ ในรอบ 10.00 น. ร่วมถวายภัตตาหารเพลพระพิธีธรรม และพระภิกษุที่เดินทางไปในงาน ซึ่งในวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ มข.เปิดให้สาธุชนจากทั่วทั้งโลกได้ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระพุทธมนต์ สวดพระอภิธรรม
มอบไม้เคาะหัวของหลวงพ่อคูณ
นอกจากนี้ พระครูสถิตย์วราภรณ์ พระลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ เดินทางมาจากวัดสว่างอารมณ์ จ.สมุทรปราการ นำไม้เคาะหัวที่หลวงพ่อคูณเคยใช้เคาะหัวศิษยานุศิษย์มามอบให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปไว้ในอนุสรณ์สถานหลวงพ่อคูณด้วย
พระครูสถิตย์วราภรณ์ กล่าวว่า ไม้เคาะหัวดังกล่าวนี้ได้มาเมื่อปี 2535 เมื่อครั้งที่เคยรับใช้หลวงพ่อคูณ โดยเมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับไปจำพรรษาที่วัด จ.สมุทรปราการ ได้ขอจากท่านเพื่อไว้บูชา และวันนี้เห็นควรนำมามอบให้ มข. เพื่อนำไปไว้อนุสรณ์สถานของหลวงพ่อ ให้ผู้คนได้เห็น ได้รับทราบถึงอริยวัตรของท่านต่อไปในอนาคต
ขณะที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า ไม้เคาะหัวดังอันนี้จะนำไปไว้ในอนุสรณ์สถานหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพและลอยอังคาร
ในช่วงเที่ยง ที่ฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. นำทีมช่างศิลป์กว่า 30 คน ช่วยกันเร่งมือฉลุลวดลายพื้นบ้านอีสานลงบนหยวกกล้วย หรือการแทงหยวก เพื่อนำไปประดับบนเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระาเมรุ ที่จะใช้ในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ
รศ.ดร.นิยมกล่าวว่า ทีมช่างศิลป์ได้รับภารกิจหลักใน 2 เรื่องคือการแทงหยวก และการจัดสถานที่ในการนำดอกไม้สดมาแทนที่ดอกไม้จันทน์ เพื่อเนรมิตให้ฌาปนสถานแห่งนี้กลายเป็นดั่งสรวงสวรค์สำหรับน้อมส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณให้ขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ดั่งที่ประชาชนและลูกศิษย์ลูกหาคาดหวังเอาไว้
หมอผ่าสรีระเผยอัศจรรย์
รศ.นพ.พิพัฒน์พงษ์ แคนลา รองคณบดีฝ่ายกายภาพและสภาพแวดล้อม คณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า จากการที่ได้รับมอบหมายให้เป็น 1 ใน 3 ของกรรมการผ่าร่างครูใหญ่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ หลังมีการฉีดน้ำยารักษาสภาพ แล้วนำร่างไปแช่น้ำยา หรือการดองเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะนำร่างมาผ่าเพื่อการเรียนการสอน
"ครั้งแรกที่ผมเห็นร่างของหลวงพ่อ คือช่วงนำร่างออกจากโลงเย็นเพื่อนำลงอ่างดอง ก็เห็นว่าต่างจากร่างครูใหญ่ท่านอื่นๆ เพราะทั้งเล็บมือเล็บเท้าของร่างหลวงพ่อมีสีชมพูชัด ติ่งหูก็มีสีชมพูระเรื่อ รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก”
รศ.นพ.พิพัฒน์พงษ์กล่าวว่า ในช่วงที่นำร่างหลวงพ่อออกจากอ่างดองมาผ่าเพื่อการศึกษา ก็พบว่าโครงสร้างภายในของหลวงพ่อ เช่น เส้นเอ็นสีสดใส กระดูกเป็นสีชมพูระเรื่อ กล้ามเนื้อก็ยังเป็นมัดแข็งแรงเหมือนคนหนุ่มๆ ไม่เหี่ยว ไม่ลีบเหมือนคนในวัยเดียวกัน เสมือนว่าหลวงพ่ออยากให้ได้ศึกษาหาความรู้จากร่างของท่านจริงๆ แตกต่างจากร่างครูใหญ่ทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำหรือสีขาว คล้ำ จึงรู้สึกอัศจรรย์ที่ยากจะอธิบายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีสาธุชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณหลั่งไหลเดินทางมาวางดอกไม้จันทน์ภายในฌาปนสถานอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นทางเข้าบริเวณฝั่งพุทธมณฑลอีสานก่อนถึงสะพานข้ามน้ำมายังฌาปนสถาน และตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป มข.มีคำสั่งงดการวางดอกไม้จันทน์ เพื่อให้ทีมช่างศิลป์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมสถานที่สำหรับพิธีถวายเพลิงในภาพรวมทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมงนับจากนี้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังสามารถวางดอกไม้จันทน์ และกราบลาสรีระสังขารหลวงพ่อคูณได้ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข. จนถึงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 29 ม.ค.นี้
มีรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เดินทางไปยังตัวเมืองขอนแก่น เมื่อขอมีส่วนร่วมในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ โดยโรงแรมทุกแห่งมีผู้เข้าพักเต็มเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีผู้กางเต็นท์โดยรอบฌาปนสถาน ขณะที่รถโดยสาร รถไฟ ก็รับคนเดินทางเข้ามาไม่ขาดสาย
คนโคราชมุ่งขอนแก่น
ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงบ่าย ที่สำนักงานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในวันพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ ทางจังหวัดนครราชสีมาได้จัดรถบัสปรับอากาศ 2 คัน บริการศิษยานุศิษย์ ญาติโยม พี่น้องประชาชนเดินทางมา จ.ขอนแก่น ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์เต็มหมดแล้ว และได้รับความร่วมมือจากบริษัท เชิดชัย โดย "เจ๊เกียว" นางสุจินดา เชิดชัย จัดรถเพิ่มอีก 1 คัน รวมเป็น 3 คัน ศิษยานุศิษย์ ญาติโยมที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ประมาณกว่า 120 คน เพื่อร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์และกราบสักการะ เสร็จแล้วก็จะรีบเดินทางกลับ จ.นครราชสีมาในเย็นวันเดียวกัน
ผู้ว่าฯ นครราชสีมากล่าวว่า ในวันจันทร์ จังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมหลวงพ่อคูณในเวลา 19.00 น. ที่หอประชุมกาญจนาภิเษก มข. โดยตนเป็นประธานและหัวหน้าส่วนราชการจำนวน 50 คนร่วมพิธี มีการวางดอกไม้จันทน์ ถวายผ้าไตรจีวร และวันที่ 29 ม.ค. ทุกคนจะอยู่ร่วมพิธีภาคเช้า 09.00 น. ช่วงเย็น 17.00 น. และช่วงค่ำ จนถึงพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณด้วย ฉะนั้นขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์ ญาติโยม พี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมาที่ไปร่วมพิธีโดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งคาดว่าศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ประชาชนชาว จ.นครราชสีมาที่ไปร่วมที่ขอนแก่นจะมีกว่าแสนคนทีเดียว
สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปกันเอง นายวิเชียรกล่าวว่า ขอแนะนำให้นั่งรถไฟไปจะสะดวกมาก เพราะการจราจรทางรถยนต์ติดขัดยาวหลายสิบกิโล โดยขบวนรถไฟจะออกจากสถานีนครราชสีมา เวลาประมาณ 06.20 น. ถึงสถานีรถไฟ จ.ขอนแก่น เวลาประมาณ 10.00 น. ต่อด้วยรถที่บริการรับ-ส่งฟรีเข้าไปกราบสรีระครูใหญ่หลวงพ่อคูณ วางดอกไม้จันทน์ พอเสร็จแล้วก็กลับไปนั่งรถไฟเวลาประมาณ 15.00 น. หรือบ่าย 3 โมงเย็นกลับ จ.นครราชสีมา ซึ่งทราบว่าทางการรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถไฟพิเศษเพิ่มตู้โดยสารถึง 3 ขบวน ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่าย และช่วงกลับก็เช่นเดียวกัน
"ศิษยานุศิษย์ พี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถไปขอนแก่นได้ อยากเชิญวนให้ไปที่วัดบ้านไร่ หรือวัดของหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นเสมือนบ้านของหลวงพ่อคูณ โดยจะมีพิธีวางดอกไม้จันทน์กับสรีระจำลองหลวงพ่อคูณ สวดพระอภิธรรม และพิธีเผาสรีระสังขารหลวงพ่อคูณจำลอง ในเวลา 23.00 น. ส่วนเถ้าดอกไม้จันทน์หรือเถ้าสรีระสังขารจำลองหลวงพ่อคูณ ทราบว่าคณะกรรมการวัดบ้านไร่จะนำไปลอยอังคารภายในสระวิหารพระเทพวิทยาคม ภายในวัดบ้านไร่"
ขบวนเรือลอยอังคารพร้อมแล้ว
ที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคาย พระครูภาวนาธรรมโฆษิต เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ตรวจความเรียบร้อยการจัดสร้างแท่นวางกล่องบรรจุอัฐิพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อใช้ในพิธีลอยอังคารวันที่ 30 ม.ค.นี้ โดยแท่นวางดังกล่าวเจ้าหน้าที่วัดได้สร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมทาสีและประดับตกแต่งลวดลาย รวมทั้งแท่นวางดอกไม้และพานพุ่มซ้ายขวา เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายจากวัดไปบริเวณหน้าสถานีเรือหนองคายให้ประชาชนได้สักการะก่อนเริ่มพิธีการ
สำหรับแท่นวางกล่องบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณ เป็นการประกอบเพิ่มจากแท่นเดิมที่มีอยู่ก่อนให้มีขนาดพอดีกับกล่องบรรจุอัฐิตามที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นแจ้งไว้ โดยมีขนาดกว้าง 95 เซนติเมตร สูง 34 เซนติเมตร ยาว 240 เซนติเมตร
ส่วนที่สถานีเรือหนองคาย นาวาโทสุดทวิช เบญจจินดา หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) สถานีเรือหนองคาย ประชุมส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในขบวนเรือพิธีลอยอังคารหลวงพ่อคูณ จากนั้นเรือของส่วนราชการ 8 ลำ และเรือเอกชน 10 ลำ ได้ร่วมกันซักซ้อมเสมือนจริงในแม่น้ำโขง โดยล่องเรือทวนน้ำขึ้นไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แล้วกลับขบวนเรือล่องตามน้ำโขงจนถึงพระธาตุกลางน้ำ แล้วเรือ ล.169 (เรือลาดตระเวน 169) ซึ่งเป็นเรือหลัก จะเป็นเรือลำเดียวที่วนรอบพระธาตุกลางน้ำ 3 รอบ เพื่อโปรยเถ้าอัฐิ ส่วนเรือลำอื่นจะขนาบอยู่ด้านข้าง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |