28 ม.ค.62- ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของชาวบ้านเครือข่ายปกป้องดิน น้ำ ป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง  ที่ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการสร้างเขื่อน และคลองผันน้ำ อันประกอบด้วย เขื่อนวังหีบ, เขื่อนคลองสังข์, เขื่อนเหมืองตะกั่ว, ประตูระบายน้ำคลองปากประและคลองผันน้ำนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา 

โดยเมื่อวันอาทิตย์ ทีผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ และนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน  ได้ชี้แจงรายละเอียดกับเครือข่ายชาวบ้าน โดยใจความสำคัญที่พร้อมจะดำเนินการกระบวนการมีส่วนร่วมใหม่ และไม่ดึงดันเดินหน้าโครงการต่อโดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่เห็นด้วย จนล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฎผลการเจรจาไม่มีข้อยุติระหว่างชาวบ้านกับกระทรวงเกษตรฯ จนชาวบ้านเคลื่อนขบวนมาปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เครือข่ายฯได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า กระทรวงเกษตรฯยังคงดึงดันทีจะก่อสร้างไม่ยอมรับความผิดพลาดในการสร้างเป้าหมายลวง โดยการเจรจาที่รัฐยื่นมานั้นคือ การปรับในรายละเอียดของโครงการ แต่ไม่ทบทวนโครงการเพื่อการยกเลิกโครงการ สะท้อนให้เห็นเบื้องหลังของวิธีคิดและผลประโยชน์ของการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน 
 
วันเดียวกัน ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(P-move) ซึ่งจัดเวทีสมัชชาประจำปี 2561 ณ หาดในหาน จังหวัดภูเก็ต ออกแถลงการณ์ สนับสนุนการชุมนุมและข้อเรียกร้องของพี่น้องเครือข่ายปกป้อง ดิน น้ำ ป่า นครศรีธรรมราช –พัทลุง พร้อมเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1. เราขอสนับสนุนการชุมนุมและข้อเรียกร้องของเครือข่ายปกป้อง ดิน น้ำ ป่า  นครศรีธรรมราชและพัทลุง อันเป็นการใช้สิทธิ์ของชุมชนในการปกป้องมาตุภูมิแผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษ ทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของคนทั้งประเทศ และอนาคตของลูกหลาน ให้ประสบความสำเร็จในการต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของคนในประเทศร่วมกันโดยเร็วที่สุด 

2. เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ยุติโครงการทั้งหมด ตามข้อเสนอของเครือข่ายฯ อย่างไม่ทีเงื่อนไข ทั้งนี้ การพัฒนาใดๆ จะต้องมาจากประชาชนเท่านั้น 3.เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยุติการดำเนินการใดๆ ที่ส่อว่าจะเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือสร้างความแตกแยกภายในชุมชน พร้อมต้องสร้างมาตรการคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้  ให้ได้รับการปกป้องตามเจตนารมณ์ และบทบัญญัติในกติกาสากลและรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(P-move) เกิดจากการรวมตัวของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนา กฎหมาย และนโยบายของรัฐที่ผ่านมา อันประกอบด้วย เครือข่ายสลัมสี่ภาค,เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ,เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน, เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ,สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้