28 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ ที่มีกรรมการจากกระทรวงสาธารณสุข สมาคมประกัน ตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นต้น ที่จะประชุมในวันที่ 31 ม.ค.2562 จะมีการเสนอมาตรการที่จะนำมาใช้ในการกำกับดูแล เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคที่เข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน โดยมีมาตรการหลักๆ ที่จะดำเนินการ 3 มาตรการ คือ การดูแลในเรื่องราคายาและเวชภัณฑ์ การเพิ่มช่องทางการร้องเรียนกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และการกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้จักสิทธิ์ของตัวเองในเรื่องการซื้อยา
ทั้งนี้ ในด้านการดูแลราคา จะมีการนำราคาของยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ ซึ่งเบื้องต้นจะมีประมาณ 1,000 รายการ และส่วนใหญ่เป็นยาและค่ารักษาพยาบาลที่ประชาชนต้องใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก โดยจะนำขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อให้เปรียบเทียบราคาได้ จากนั้นจะเพิ่มรายการที่เหลือเข้าไปอีก
ส่วนการเพิ่มช่องทางการร้องเรียน จะใช้ช่องทางผ่านสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เพราะเดิมกระทรวงพาณิชย์ไม่มีอำนาจในการเข้าไปดูแล แต่เมื่อเป็นสินค้าและบริการควบคุมแล้ว ก็สามารถที่จะเข้าไปดูแลได้ โดยหากประชาชนที่เข้าไปใช้บริการแล้วพบว่ามีการคิดราคาที่สูงเกินจริง ก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้ และหากเห็นว่ามีราคาสูงจริง ก็จะเข้าไปตรวจสอบ และขอให้โรงพยาบาลทำการชี้แจงต้นทุนได้ หากพบว่าไม่เหมาะสม ก็จะมีมาตรการทางกฎหมายเข้าไปจัดการต่อไป
สำหรับการกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้จักสิทธิ์ของตัวเองในการซื้อยา จะเป็นการรณรงค์ให้ผู้บริโภครู้ว่าในการเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล และหากต้องใช้ยาเพื่อการรักษา สามารถที่จะขอให้แพทย์เขียนใบสั่งยา เพื่อให้ผู้ป่วยไปซื้อยานอกโรงพยาบาลได้ แต่ที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีใครกล้าปฏิเสธ ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และไม่ได้มีกฎหมายห้ามไว้ ซึ่งหากรณรงค์ทำให้ผู้บริโภครู้จักสิทธิ์ของตัวเอง ก็จะทำให้โรงพยาบาลเอกชนไม่กล้าคิดราคายาที่แพงกว่าปกติ เพราะหากแพง ผู้ป่วยก็สามารถที่จะไปซื้อยาข้างนอกได้
โดยมาตรการที่จะนำมาใช้เหล่านี้ เป็นมาตรการเบื้องต้น ที่ประเมินแล้ว จะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชน ให้ได้รับการดูแลในเรื่องราคา และโรงพยาบาลเอกชน ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่นำมาใช้กำกับดูแล เพราะเป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว แต่หากมาตรการที่นำมาใช้ ไม่ได้ผล ก็จะมีการพิจารณามาตรการที่จะนำมาใช้ในการกำกับดูแลเพิ่มเติมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2562 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้นำยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้าเป็นสินค้าและบริการควบคุมตามที่กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เสนอ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชน มีการคิดราคาแพง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจริง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |