ผอ.กองสลากแจง โครงการสลากรวมชุดไม่เลือกปฏิบัติ และยังอยู่ในขั้นทดลอง เป้าหมายคือสกัดการรวมชุดใหญ่ที่ทำให้มีการโก่งราคา ด้าน ดร.อาทิตย์ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ประธาน สนช.ค้านแก้ พ.ร.บ.สลาก ชี้ทำประเทศสูญเสียรายได้ปีละหมื่นล้าน ซ้ำตีเช็คเปล่าให้ฝ่ายการเมือง เปิดช่องถลุงเงินตามใจชอบ
พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงเมื่อวันอาทิตย์ถึงการที่สำนักงานสลากฯ จะจัดพิมพ์สลากด้วยระบบการพิมพ์รวมชุด โดยผู้จำหน่ายแต่ละรายได้รับสลาก 5 เล่มเช่นเดิม แต่จำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ชุดละ 2 ใบ สามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้ ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า การจัดพิมพ์สลากแบบใหม่นี้น่าจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากยังมีการจัดพิมพ์สลากแบบเดิมให้กับตัวแทนจำหน่ายในระบบโควตาอยู่ ไม่ได้เป็นการจัดพิมพ์แบบใหม่เหมือนกันทั้งหมด และมีความกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดพิมพ์
ผอ.สำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานพิมพ์สลากออกจำหน่ายงวดละ 900,000 เล่ม แบ่งออกเป็นสลากในระบบตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีผู้มารับไปจำหน่ายเป็นประจำงวดละ 330,000 เล่ม และสลากในระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ซึ่งพิมพ์ตามจำนวนที่มีผู้สั่งจอง อีกงวดละ 570,000 เล่ม ที่ผ่านมา การพิมพ์สลากเป็นการพิมพ์แบบเรียงตัวเลขไม่มีการคละหมายเลขทั้ง 900,000 เล่ม จำหน่ายทั้ง 2 ระบบ ทำให้เกิดการรวมชุดง่ายขึ้น เป็นสาเหตุของการจำหน่ายสลากชุดราคาสูง และทำให้สลากแบบใบเดี่ยวหายไปจากตลาด
การที่สำนักงานสลากฯ ได้นำระบบพิมพ์สลากแบบคละเลขในเล่ม ก็เพื่อให้ผู้จำหน่ายที่รับสลากจากสำนักงานสามารถจำหน่ายแบบเลขชุดและแบบใบเดี่ยวตามสูตร 2-2-1 ได้ เนื่องจากสำนักงานได้พิมพ์สลากล่วงหน้าในระบบตัวแทนจำหน่ายไว้แล้ว เพราะมีตัวแทนจำหน่ายที่รับสลากแน่นอนและต้องจัดส่งให้ทั่วประเทศ ส่วนระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ต้องพิมพ์ตามคำสั่งซื้อ คำสั่งจอง ไม่สามารถพิมพ์ล่วงหน้าได้ ดังนั้น เมื่อนำระบบการพิมพ์คละเลขในเล่มมาทดลองใช้เพื่อแก้ไขปัญหารวมชุดใหญ่ จึงใช้กับระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ซึ่งมีสัดส่วนสลากมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสลากทั้งหมด และหากได้ผลคือมีการขายสลากตามราคามากขึ้น ก็จะพิจารณาในส่วนของระบบโควตาต่อไป
พ.ต.อ.บุญส่งกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ต้องคำนึงถึงผลกระทบของระบบทั้งหมดด้วย จึงจำเป็นต้องขอทดลองกับระบบซื้อ-จองล่วงหน้าก่อน สำนักงานไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกันจะเพิ่มมาตรการการตรวจผู้จำหน่ายทั้ง 2 ระบบอย่างเข้มข้นขึ้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตัดโควตาและระงับการซื้อจองต่อไป ทั้งนี้ การจัดพิมพ์เป็นแบบคละตัวเลขภายในเล่ม ทำให้การรวมชุดเป็นไปได้ยากมาก และประชาชนผู้ซื้อสลากสามารถซื้อสลากจากผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้าได้ทั้งสลากแบบรวมชุด 2 ใบ และสลากแบบใบเดี่ยว 1 ใบ เพราะไม่ต้องไปซื้อจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป ส่วนประเด็นข้อกังวลใจเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดพิมพ์นั้น ขอยืนยันว่าระบบการพิมพ์ของสำนักงานมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างครบถ้วน เป็นไปตามมาตรฐานสากลทุกประการ
ด้าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ตามที่ สนช.กำลังพิจารณา โดยเนื้อหาการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ให้ลดรายได้ของแผ่นดินปีละเกือบ 10,000 ล้านบาท แต่นำไปเพิ่มให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯ เป็นค่าใช้จ่ายและกำไรแก่ผู้จัดจำหน่ายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 5% เป็นการถาวร จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเหมาะสม ด้วยเหตุผลดังนี้
1.การเพิ่มค่าการตลาดและกำไรให้ผู้จำหน่าย โดยที่รัฐสูญเสียรายได้แผ่นดินปีละเกือบหมื่นล้านบาท ไม่มีผลที่จะหยุดการขายสลากเกินราคา 2.ข้ออ้างว่าไม่ได้ปรับเปอร์เซ็นต์ค่าการตลาดมานานหลายปีแล้ว รับฟังไม่ได้ เพราะในความเป็นจริง ราคาสลากกินแบ่งได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 บาท มาเป็น 80 บาท แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์จะคงเดิม แต่เมื่อราคาสลากแพงขึ้น 8 เท่าตัว ค่าการตลาดในแต่ละใบก็ได้รับมากขึ้นถึง 8 เท่าตัวด้วยอยู่แล้ว 3.การเพิ่มทั้งจำนวนสลากจาก 37 ล้านฉบับ เป็น 90 ล้านฉบับ ทำให้ค่าการจัดจำหน่ายที่สำนักงานสกลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับสูงขึ้นอย่างมาก เป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารและรัฐบาลในอนาคตสามารถผันแปรไปใช้ตามความต้องการของตน เพราะฝ่ายนิติบัญญัติได้ไปเพิ่มรายรับไว้ให้เป็นการถาวรแล้ว
“ร่าง พ.ร.บ.ที่ สนช.กำลังพิจารณาในขณะนี้ เป็นร่างที่ให้อำนาจฝ่ายบริหาร กำหนดประเภทและรูปแบบสลาก โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เสมือนให้เช็คเปล่าแก่ฝ่ายบริหารไปกรอกจำนวนเงินและวันที่เอาเอง ดังที่ปรากฏในมาตรา 7 (7/1) ข้ออ้างที่ว่า ข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งฯ จะต้องถูกคณะรัฐมนตรีอนุมัติอีกชั้นหนึ่งก็น่าจะเป็นการถ่วงดุลแล้ว ในความเป็นจริงรัฐบาลจะให้สำนักงานสลากฯ เสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จึงเท่ากับว่า พ.ร.บ.ที่แก้ไขครั้งนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติจะยกอำนาจและขอบเขตการดำเนินงานให้ฝ่ายบริหารทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น ปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งฯ เป็นผู้ดำเนินการผลิตและกำหนดแผนการจำหน่ายจ่ายแจกด้วยตนเอง ขาดหน่วยงานหรือองค์กรกำกับตรวจสอบและประเมินผลงาน เท่ากับว่าผู้ประกอบการที่มีอำนาจผูกขาดดำเนินการเอง กำกับตรวจสอบเอง หากอนาคตประเทศได้ผู้บริหารประเทศที่ฉวยโอกาสนำเงินส่วนแบ่งรายได้ไปใช้เพื่อประโยชน์สร้างความนิยม ดังเช่นที่เคยเกิดแล้วในอดีต ก็จะเป็นปัญหาแก่ประเทศชาติและสังคม” ดร.อาทิตย์กล่าว
ดร.อาทิตย์กล่าวว่า นอกจากนี้ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังได้ระบุให้ฝ่ายนิติบัญญัติยกอำนาจการจัดสรรรายรับให้เป็นดุลพินิจของสำนักงานสลากกินแบ่งฯ ดังปรากฏในมาตรา 7 (7/2) ที่ให้อำนาจการกำหนดอัตราเงินที่จัดสรรเป็นรายได้แผ่นดินตามมาตรา 22 (2) และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานตามมาตรา 22 (3) เป็นของสำนักงานสลากกินแบ่งฯ และฝ่ายบริหารอีกด้วย และ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ได้ยกเลิกกองทุนพัฒนาสังคม ซึ่งก่อตั้งตามคำสั่งของ คสช.ที่ 11/2558 ที่นำเงินรายได้จำนวน 3% ของรายรับ มาสร้างมาตรการเพื่อยับยั้งและป้องกันเด็ก เยาวชน และคนทั่วไปไม่ให้ติดการพนัน ขณะที่ในประเทศที่พัฒนาแล้วกิจการที่ไม่พึงปรารถนาเหล่านี้ จะถูกนำรายได้ที่ผู้บริโภคจ่ายส่วนหนึ่งมาเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาเยียวยาสังคม แต่กฎหมายฉบับนี้กลับตัดกองทุนนี้ออกไป ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของ คสช.อย่างสิ้นเชิง
ดร.อาทิตย์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เทคโนโลยีระบบดิจิตอลได้พัฒนาก้าวไกลอย่างมาก รัฐบาลและสำนักงานสลากกินแบ่งฯ น่าจะสร้างระบบแอปพลิเคชันที่เอื้ออำนวยให้ผู้ซื้อสลาก ซื้อสลากได้โดยตรงเพื่อประหยัดค่าบริหารจัดการ ค่าพิมพ์ ค่าขนส่ง ที่มีต้นทุนสูงถึง 12% และจะเพิ่มเป็น 17% ของรายได้จากสลาก ซึ่งแอปพลิเคชันสามารถให้ผู้ซื้อเลือกเลขสลากเหมือนกับการเลือกใบสลากที่เป็นกระดาษ เมื่อเลือกและซื้อแล้ว ใบนั้นจะหมดไป ผู้อื่นซื้อซ้ำไม่ได้ มีการระบุเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้ซื้อ ทำให้สามารถจ่ายรางวัลไม่ผิดคน และสามารถป้องกันเด็ก เยาวชน ซื้อสลากกินแบ่งฯ ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |