‘หน่อย’มึนพท.บริหารชาติสำเร็จ


เพิ่มเพื่อน    

 พรรคการเมืองเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.คึกคัก ประชาธิปัตย์เผยแล้ว 50 เขตภาคใต้ "นิพิฏฐ์" ฟุ้งรัฐบาล ปชป.ยางกิโลกรัมละ 180 บาท ปาล์ม 11 บาท แล้วพรรคอื่นเท่าไหร่ "เจ๊หน่อย" เกทับเพื่อไทยเคยบริหารประเทศประสบความสำเร็จมาแล้ว ส่วนตระกูลเพื่อละเลงกันสนุกปาก "จาตุรนต์" รู้หมดประเทศมีปัญหาอะไร "สมศักดิ์" ลั่น พปชร.ไม่ใช่พรรคทหาร "สุวัจน์ No problem" กระหึ่มโคราช

    เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา พรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงกันคึกคัก นอกจากนี้ หลายพรรคการเมืองได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละเขตกันแล้ว รวมทั้งเปิดนโยบาย ซึ่งแต่ละพรรคเชื่อว่าจะสามารถนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งได้
    ที่โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่สัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 50 เขตเลือกตั้งในภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง โดยมอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรคชี้แจงเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครมีความพร้อมและรับทราบกฎหมายเลือกตั้ง
    นอกจากนี้ มีการเตรียมพร้อมเอกสารหลักฐานสำหรับการยื่นใบสมัครที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์นี้ และได้เน้นย้ำเรื่องนโยบายพรรค เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครนำเสนอต่อประชาชนได้อย่างชัดเจน
    ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้เน้นย้ำเรื่องของการเตรียมความพร้อม เอกสารหลักฐาน พร้อมยื่นใบสมัคร รวมถึงเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง ว่ามีข้อห้ามใด เพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย เพราะพรรคมีว่าที่ผู้สมัครใหม่หลายคน 
    "พยายามให้ผู้สมัครเก่าเป็นพี่เลี้ยง ซ้อมเรื่องนโยบาย ซึ่งในภาคใต้มีนโยบายหลัก 2 ส่วน คือ นโยบายเฉพาะหน้า 5 เรื่อง คือ ปาล์ม ยาง ประมง ท่องเที่ยว และแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรื่องยุทธศาสตร์ภาคใต้ อนาคตภาคใต้ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จะทำอย่างไรให้ภาคใต้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"
     เขากล่าวว่า จะประกาศปฏิญญาทุ่งสงในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ จึงให้ผู้สมัครของพรรคไปทำปฏิญญากับพี่น้องภาคใต้ จะพลิกฟื้นภาคใต้ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
          นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครอย่างน้อยเขตละ 20 คน ต้องมีอย่างน้อย 19 คนที่อยากเปลี่ยน อย่าโจมตีว่าเลือกประชาธิปัตย์เป็น ส.ส.มา 26 ปี ภาคใต้ได้อะไร 26 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล 2 ครั้ง ใน 2 ครั้งรับความจริงได้มั้ย ว่าราคายางพารากิโลกรัมละ 180 บาท ปาล์มราคา 11 บาท แล้วพรรคอื่นยางเท่าไหร่ ปาล์มเท่าไหร่ 
    "ฝ่ายโจมตีเราเยอะ พรรคไหนอยากจะเปลี่ยนเรา ที่จะเปลี่ยนเรา พรรคนั้นๆ เมื่อเป็นรัฐบาลราคายางเท่าไหร่ ปาล์มเท่าไหร่ ถามชาวบ้านหรือยังที่อยากจะเปลี่ยน ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคได้เน้นย้ำเรื่องกฎหมายและเรื่องนโยบายให้ผู้สมัครเข้าใจอย่างถ่องแท้ เตรียมพร้อมระดับหนึ่ง ผู้สมัครต้องเข้าใจระดับหนึ่ง อันไหนที่ไม่เข้าใจชัดเจนก็อย่าไปทำ ซึ่งหลายคนก็สอบถามในเรื่องติดป้าย เรื่องการโฆษณา เรื่องโซเชียลมีเดีย เป็นต้น" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 
ปชป.เปิดตัวผู้สมัครภาคใต้
    ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.14 จังหวัด ภาคใต้ 50 เขตเลือกตั้ง ดังนี้ จ.ชุมพร เขต 1 นายชุมพล จุลใส, เขต 2 นายสราวุธ อ่อนละมัย,  เขต 3 นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ จ.สุราษฎร์ธานี เขต 1 นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์, เขต 2 นายวิวรรธน์  นิลวัชรมณี, เขต 3 นางสาววชิราภรณ์ กาญจนะ, เขต 4 นายสมชาติ  ประดิษฐพร, เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร, เขต 6 นายธีรภัทธ พริ้งศุลกะ
    จ.ระนอง นายวิรัช ร่มเย็น, จ.นครศรีธรรมราช เขต 1 นางสาวนริศา  อดิเทพวรพันธุ์, เขต 2 นายวิทยา แก้วภราดัย, เขต 3 นายเทพไท เสนพงศ์, เขต 4 นายประกอบ รัตนพันธ์, เขต 5 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, เขต 6 นายชัยชนะ เดชเดโช, เขต 7 นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์, เขต 8 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
    จ.พังงา นางกันตวรรณ  ตันเถียร, จ.ภูเก็ต เขต 1 นายเรวัต อารีรอบ, เขต 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย จ.กระบี่ เขต 1 นายสาคร เกี่ยวข้อง, เขต 2 นายสุชีน  เอ่งฉ้วน จ.ตรัง เขต 1 นายสุกิจ อัถโถปกรณ์, เขต 2 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, เขต 3 นางสาวสุณัฐชา  โล่สถาพรพิพิ จ.พัทลุง เขต 1 นางสุพัชรี  ธรรมเพชร,  เขต 2 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,เขต 3 นายนริศ ขำนุรักษ์
    จ.สงขลา เขต 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี, เขต 2 นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ, เขต 3 นายวิรัตน์ กัลยาศิริ, เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว, เขต 5 นายเดชอิศม์  ขาวทอง, เขต 6 นายถาวร เสนเนียม, เขต 7 นายศิริโชค  โสภา, เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ จ.ปัตตานี เขต 1 นายอันวาร์ สาและ, เขต 2 ดร.อิสมาแอล  เบญอิบรอฮีม, เขต 3 นายคอเลฟ เจ๊ะนา, เขต 4 นายฟรีดี เบญอิบรอน 
    จ.ยะลา เขต 1 นายภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ, เขต 2 นายอับดุลเล๊าะ บุวา, เขต 3 นายณรงค์ ดูดิง จ.นราธิวาส เขต 1 นายกูอาเซ็ม กูจินามิง, เขต 2 นายเจ๊ะซู ตาเหย็บ, เขต 3 นายใซดี เจ๊ะหามะ, เขต 4 นายโฅไมนี ดารายีสาฮอ จ.สตูล เขต 1 นายอิบรอเหม  อาดา, เขต 2 นายฮอชาลี ม่าเหร็ม
    นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ใกล้เวลารับสมัคร ส.ส. ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม และมีการดำเนินการในครั้งนี้ ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมเกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส. ในวันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติผู้สมัคร ส.ส. แบบเขต 350 คน และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ให้เสร็จสิ้นในวันจันทร์นี้ ส่วนในวันที่ 1 ก.พ.2562 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดการปฐมนิเทศและอบรมเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางในการหาเสียงสำหรับผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อทั้ง 500 คน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เพื่อให้มีความชัดเจนในการหาเสียง ทางพรรคได้เชิญเจ้าหน้าที่ กกต.มาอบรมและบรรยาย เพื่อเปิดโอกาสให้ทางผู้สมัคร ส.ส.ได้สอบถามถึงปัญหาที่ยังคิดว่าไม่ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางที่ถูกต้องต่อไป
          อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กำชับให้ผู้สมัครทุกคนไปอ่าน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบในการเลือกตั้งต่างๆ ของ กกต.ให้ชัดเจน และหากมีอะไรที่ไม่ชัดเจน จะมีคณะกรรมการด้านกฎหมายของพรรคที่พร้อมที่จะชี้แจง และตอบปัญหาตลอดเวลา
เพื่อไทยยังไม่ลงตัว
    ขณะที่พรรคเพื่อไทยนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย  เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยสัปดาห์หน้าจะหารือเรื่องความชัดเจนเรื่องการจัดทำ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงการจัดว่าที่ ส.ส.พื้นที่ทับซ้อนก็ได้รับผลโพลแล้ว เตรียมจัดวางคนที่เหมาะสมลงพื้นที่ต่อไป 
    ทั้งนี้ วันที่ 28 ม.ค. จะประชุมกรอบยุทธศาสตร์ว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรให้คนไทยบ้าง ให้ได้เห็นกรอบความคิดของพรรค และความพร้อมของพรรคที่เคยบริหารประเทศประสบความสำเร็จมาแล้ว และจะทำให้ประสบความสำเร็จอย่างไรต่อไป ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น แต่จะยังไม่แถลงนโยบาย รวมทั้งจะให้ความรู้ต่อสมาชิกพรรคเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ในการเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง 
        คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า นโยบายพรรคเพื่อไทยคือการสร้างรายได้ด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ต้องการกระจายรายได้ทั้งในภูมิภาค กรุงเทพฯ มีที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง วันนี้มาบางกอกน้อย ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะให้ชาวต่างชาติมาเรียนรู้วัฒนธรรม จึงจะทำให้ที่นี่เป็นตัวอย่างการท่องเที่ยววิถีชุมชน เป็นบางกอกน้อยโมเดล โดยตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท เพื่อให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้น โดยจะขยายไปในพื้นที่อื่นๆ ด้วย
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงนโยบายของพรรคไทยรักษาชาตินั้น ในวันที่ 29 มกราคม พรรคจะเปิดตัวนโยบาย โดยในระหว่างนี้จะทยอยเปิดบางส่วนก่อน ภายใต้โจทย์ที่ตั้งขึ้นว่า “ประเทศนี้ มีปัญหาสำคัญที่จะต้องแก้ 10 เรื่อง” ซึ่งเป็น 10 เรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นปัญหา โดยจะเน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากถูกเสนอชื่อเป็นบัญชีนายกฯของพรรค จะพร้อมหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อใครบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องให้เจ้าตัวลงชื่อยินยอมด้วย ซึ่งถ้าถึงวันที่มีหนังสือมาให้ยินยอม ตนก็จะตอบปัญหานี้
    นายจาตุรนต์ยังโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ Chaturon Chaisang ระบุว่า "มีคำถามมาเยอะว่าเมื่อไหร่ไทยรักษาชาติจะเปิดนโยบาย ก็อยากจะเรียนให้ทราบว่านโยบายนั้นมีพร้อมอยู่แล้วครับ พร้อมขนาดใช้แก้ปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศได้เลย แต่การเปิดนโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้มีรายละเอียดที่ต้องระมัดระวังอยู่มาก ทั้งข้อกฎหมายใหม่ๆ และยุทธศาสตร์ชาติ เป็นต้น 
    บางเรื่องถ้าไปเกี่ยวกับงบประมาณก็อาจต้องคำนวณและวิเคราะห์ความคุ้มค่าและชี้แจงแสดงที่มาของงบประมาณด้วย จึงจะทยอยเปิดนโยบายในเรื่องหลักๆ ที่สำคัญมากๆ เสียก่อน และบางเรื่องโดยเฉพาะที่ลงรายละเอียด ก็อาจต้องรอไว้แถลงกันในโค้งสุดท้ายครับ
"เสี่ยอ๋อย" รู้ทุกอย่าง
    ในขั้นนี้ขอเริ่มด้วยการตั้งโจทย์เสียก่อน ประเทศนี้มีปัญหามากมายสะสมมา โพลต่างๆ ไปถามประชาชนก็ได้ปัญหามาคล้ายๆ กัน ผมจึงขอตั้งประเด็นว่า ถ้าจะมีนโยบายแก้ปัญหาประเทศอย่างไร ก็ขอเสนอปัญหาประเทศสัก 10 เรื่อง ดังนี้
    1.เศรษฐกิจเติบโตช้า 2.เกษตรกรยากจน/ประชาชนรายได้ตกต่ำ 3.หนี้ครัวเรือนเพิ่ม 4.รวยกระจุก จนกระจาย 5.ส่งออกต่ำ/ท่องเที่ยวลด 6.สังคมเหลื่อมล้ำ 7.ยาเสพติดเกลื่อนเมือง 8.คอร์รัปชันสูง 9.การศึกษาล้าหลัง 10.มลภาวะในเมืองใหญ่ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ครับ ไทยรักษาชาติมีนโยบาย ผมจะทยอยเสนอตั้งแต่วันนี้ แล้วจะไปเสนอรวบยอดอีกทีในวันที่ 29 มกราคมนี้ครับ
     ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ พรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายจาตุรนต์ และสมาชิกพรรค ได้ทำพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสิน ขุนพล พลทหาร ช้างศึก ม้าศึก เพื่อขอพรชัยและเอาฤกษ์เอาชัยให้ผู้ที่มาร่วมงานมีชัยชยะตามประสงค์ และเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    ร.ท.ปรีชาพลกล่าวถึงความพร้อมของพรรคที่จะส่งผู้สมัครระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.นี้ว่า ในส่วนของขั้นตอนทางกฎหมาย ทางคณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาในส่วนของผู้สมัครในระบบเขตเกือบครบ 100 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเสร็จในปลายเดือน ม.ค.นี้ ทันตามกรอบเวลาที่จะเปิดรับสมัครอย่างแน่นอน
      นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายสำราญ รอดเพชร พร้อมแกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้เดินคารวะแผ่นดินในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่ตลาดบ่อนไก่ หรือตลาดสดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในตลาดสดเทศบาลนครนครสวรรค์ ท่ามกลางตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์, สภ.เมืองนครสวรรค์, ตำรวจจราจร ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบวางกำลังดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
          ซึ่งพบว่า บรรยากาศการเดินคารวะแผ่นดินที่นครสวรรค์ของคณะนายสุเทพ และแกนนำพรรค รปช. เป็นไปอย่างอบอุ่น มีประชาชน-พ่อค้าแม่ขาย ให้การต้อนรับ-ขอถ่ายรูปต่อเนื่อง ต่างจากการเดินสายคารวะแผ่นดินในหลายจังหวัดของภาคเหนือตอนบน ที่มีคนชูป้ายต่อต้าน
         นายสุเทพเปิดเผยว่า ดีใจและปลื้มใจมากที่ประชาชนชาวปากน้ำโพให้การต้อนรับอย่างดี รู้สึกอบอุ่น ก็ขอฝากสมาชิกพรรคและผู้สมัครของพรรคด้วย โดยวันนี้จะเดินทางไปหลายจุดตามที่ทีมงานวางโปรแกรมไว้ และต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชน ที่จะได้เลือกตั้งกันในไม่ช้านี้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่นและเชื่อมั่นว่าหลังการเลือกตั้งทุกอย่างจะดีขึ้น โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจจะดีขึ้น
พปชร.ไม่ใช่พรรคทหาร
        ทั้งนี้ นายสุเทพพร้อมคณะจะเดินทางไปปราศรัยกับสมาชิกพรรคที่อำเภอลาดยาว และเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ลี ตาณังกโร เจ้าอาวาสวัดหัวตลุกวนาราม หรือวัดป่าหัวตลุก ตำบลสระแก้ว อ.ลาดยาว อายุ 82 ปี พระธรรมยุติ วิปัสสนากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากนั้นจะเดินทางไปในอำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอทัพทัน และอำเภอเมืองฯ จังหวัดอุทัยธานีต่อไป
    ที่จังหวัดนครปฐม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค, นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรค ลงพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดศูนย์ของพรรคพลังประชารัฐโดยมีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก
    นอกจากนี้ บรรดาว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ จ.นครปฐม ทั้ง 5 เขต ได้เดินทางมาด้วย คือ เขต 1 นายธนกร เชาวนเมธา, เขต 2 พ.ต.อ.วีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ, เขต 3 นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า,  เขต 4 นายปฐมพงษ์ สูญจันทร์ และเขต 5 ดร.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว 
    นายสมศักดิ์กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อมาพบปะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคว่ามีความคืบหน้าในการลงพื้นที่เป็นอย่างไร แต่วันนี้ชาวบ้านได้สะท้อนและต้องการให้พรรคพลังประชารัฐเดินหน้าแก้ปัญหาในเรื่องข้าว ราคาอ้อย พืชเกษตรต่างๆ ผลักดัน สัตว์เศรษฐกิจ เช่น การเลี้ยงปลาสวยงาม นก ไก่ ทุกอย่างที่เสนอมาอยู่ในแนวทางนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งเสริมให้คนทำธุรกิจและมีอาชีพเสริม ในส่วนของ จ.นครปฐม ถือได้ว่าเป็นเมืองกระจายสินค้าได้ทุกภาค มีมหาวิทยาลัยถึง 3 แห่ง มีวัฒนธรรม และหากบ้านเมืองสงบสุข จังหวัดนครปฐมจะยิ่งดีขึ้นเพราะสามารถผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวได้
    "พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคทหาร แต่เวลานี้เราได้รวบรวมคนที่มีความสามารถในทุกด้าน อาทิ เกษตร ธุรกิจ มารวมกัน เพื่อจะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี ผมอยากให้ทุกคนเดินทางสายกลาง ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะหากบ้านเมืองไม่สงบอีกประเทศจะอยู่ในวังวนเดิม" นายสมศักดิ์กล่าว
    เมื่อถามว่า การลงพื้นที่เวลานี้มักถูกโจมตี บางครั้งมีการจัดฉากนำวิดีโอ ไม่มีประชาชนเข้าฟังปราศรัย นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ตนเป็นผู้ไปชี้แจงนโยบายต่างๆ ในหลายจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค เป็นรื่องธรรมดาที่จะต้องถูกโจมตี เตะตัดขา แต่การถูกกระทำแบบนี้ทำให้เห็นว่าคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐดีขึ้น ฝ่ายตรงข้ามจึงเล่นเกมใต้ดิน 
    "ผมไม่เคยท้อแท้ หรือรู้สึกอะไร ยิ่งทำร้ายเราเท่าไหร่นั้นคือแรงผลักดัน ผมจะเดินหน้า ผมไม่เคยกลัว เราเดินมาถูกทาง การเมืองเป็นเรื่องปกติของการป้ายสี มันเกิดขึ้นมาตลอด แต่ผมและพรรคต้องระมัดระวังไม่ผลีผลาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.มหาสารคาม เราตอบโต้ได้ชัดเจน เรามีหลักฐานที่เป็นวิดีโอและภาพนิ่ง ประชาชนจึงรู้ว่าเวลานี้พรรคพลังประชารัฐถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เพราะแนวทางของพรรคชัดเจน เราไม่ต้องการให้ประเทศจมปลักในจุดเดิม" แกนนำพรรคพลังประชารัฐกล่าว
"สุวัจน์"No problem 
    ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ห้องโคราชฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดกิจกรรมทางการเมืองเป็นครั้งแรก หรือคิกออฟการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา 14 เขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 
    โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรค, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรค, นายดล เหตะกูล เลขาธิการพรรค, พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค และ “น้องวิว” นางเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค, นายประทีป กรีฑาเวช ผู้อาวุโสของพรรค รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครทั้ง 14 เขต และสมาชิกพรรคกลุ่มสตรีแม่บ้าน ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชน ร่วมฟังรวมกว่า 2,000 คน และการนำเสนอนโยบายสำหรับการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาและนโยบายในทุกๆ ด้าน ของ จ.นครราชสีมา
     นายสุวัจน์กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เปิดตัวนโยบายโคราชที่ จ.นครราชสีมา เพราะ จ.
นครราชสีมานั้นเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญ และเป็นเมืองที่สำคัญของภาคอีสาน โคราช No problem เราได้แบ่งไว้ทั้งหมด 9 เรื่อง จำได้ง่ายที่เราให้ความสำคัญ ประกอบด้วย 1.โคราชเมืองเกษตรก้าวไกล คือ พืชเกษตร 5 ตัว ข้าว, อ้อย, ยางพารา, มันสำปะหลัง และ ปาล์ม เรื่องต้นทุนน้ำ ชลประทาน มีแหล่งน้ำลุ่มน้ำ 9 ลุ่มน้ำ 5 เขื่อนใหญ่ 2.โคราชเมืองอุตสาหกรรมยั่งยืน  
    3.โคราชเมืองคมนาคมทั่วถึง 4.โคราชเมืองท่องเที่ยวทุกถิ่น 5.โคราชเมืองกีฬาสามัคคี 6.โคราชเมืองจราจรคล่องตัว 7.โคราชเมืองน้ำไม่ท่วม 8.โคราชเมืองอัจฉริยะทันสมัย และ 9.โคราชเมืองครัว  
    นายสุวัจน์กล่าวว่า การชูผลงานของพรรคชาติพัฒนาตั้งแต่สมัย พล.อ.ชายชาย ชุณหะวัณ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นยุคทองทางด้านเศรษฐกิจ และเป็นผู้ที่วางพื้นฐานในการพัฒนา จ.นครราชสีมา มาจนกระทั่งวันนี้คงจำกันได้ เช่น สร้างถนน 4 เลน กรุงเทพฯ-โคราช, นิคมอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมให้ประชาชนมีงานทำ มีการลงทุน การซื้อขายผลผลิตการเกษตรจำนวนมากเข้าโรงงานอุตสาหกรรม, ที่ดินมีราคาดี, มีการขยายถนนมิตรภาพถนน 4 เลน เป็น 8 เลน 10 เลน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, ทางพิเศษระหว่างเมืองถนนมอเตอร์เวย์ และโครงการสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ กระแสกีฬาฟีเวอร์ เป็นต้น 
    "ประโยคแรกที่พลเอกชาติชายบอกกับชาวโคราชและชาวภาคอีสานทุกคนว่า ผมจะแปรสนามรบเป็นสนามการค้า พรรคจะเอายุคทองสมัยน้าชาติกลับมา" นายสุวัจน์กล่าว
ถ้ายังอยู่"บรรหาร"เศร้า
    นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีตแกนนำพรรคชาติไทย ประกาศลงสมัคร ส.ส.แข่งกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ในเขต 3 จ.สุพรรณบุรี ว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาระหว่างนายประภัตรกับนายจองชัย ที่ทุกคนทราบมาช้านาน เหมือนปัญหาในครอบครัว แต่จะบอกว่าที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยก็คงไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมามีการสอบถามและพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวในการหารือของผู้ใหญ่ในพรรคด้วย หากนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีรู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในสุพรรณบุรี ก็คงเศร้าใจ เพราะเรื่องเช่นนี้ทำอะไรไปก็เหมือนหยิกเล็บเจ็บเนื้อ
    “ยืนยันว่า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. ให้ความเป็นธรรมแก่นายจองชัย และให้ความเคารพ? รวมถึงให้เกียรติผู้ใหญ่ทุกคนในพรรคเสมอมา โดยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่นายจองชัยมีความไม่พอใจแต่แรกไปหมดแล้ว แต่บางเรื่องในฐานะหัวหน้าพรรค คงไม่อยู่ในสถานะที่จะมาพูดเรื่องรายละเอียดที่มีการหารือกันทุกเรื่อง หากพูดถึงข้างใดแล้วทำให้เกิดความแตกแยกในอีกด้านหนึ่ง หัวหน้าพรรคคงไม่อยากทำ” นายเผดิมชัยกล่าว
    เมื่อถามว่า? เรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับนายเสมอกัน เที่ยงธรรม บุตรชายของนายจองชัย ที่ลงสมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนาในเขต 4 จ.สุพรรณบุรีหรือไม่ นายเผดิมชัย?กล่าวว่า ยืนยันว่าภายในพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มีความขัดแย้งหรือแตกแยกใดๆ เกิดขึ้น นายเสมอกันก็ยังคงอยู่ในพรรคและเป็นผู้สมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเช่นเดิม แน่นอนว่าเมื่อส่งผู้สมัครลงในนามพรรค พรรคก็ต้องให้การสนับสนุนเต็มที่ แต่ในฐานะที่เป็นพ่อคน หากทำตึกถล่มแล้วลูกตัวเองจะต้องถูกทับไปด้วยคงไม่มีใครทำ
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกคนสำคัญของพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค, นายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรค, พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมผู้สมัครกรุงเทพมหานคร นำโดยนายสุวัจน์ ม่วงศิริ ผู้สมัครเขตจอมทอง ร่วมงานเปิดสาขาพรรคพื้นที่บางแค โดยมีนายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ผู้สมัครบางแคคอยต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 500 คน 
    นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยต้องการปักธงในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ ผู้สมัครลงพื้นที่ไม่ได้พัก สำหรับนายจิตรภณเป็นลูกหลานคนบางแค รู้จักพื้นที่ และมีไฟในการทำงาน ขยัน คิดดี เป็นบุคคลน่าชื่นชมที่กล้าลงมาทำงานการเมือง
นโยบายทำงานที่บ้าน
    "ทางพรรคตั้งใจปักธงในทุกพื้นที่ สำหรับ กทม. นโยบายที่สำคัญคือ co working space หรือการให้ภาครัฐสร้างออฟฟิศตามจุดต่างๆ ดักนักธุรกิจสตาร์ทอัพ ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง เพื่อลดปัญหาจราจร เช่นเดียวกับนโยบายทำงานที่บ้าน 1 วันเ ราก็หวังให้ลดจำนวนคนเข้าเมือง แก้ปัญหาวิกฤติฝุ่นอย่างยั่งยืน "
    เขากล่าวว่า ที่มีการบอกว่าทำงาน 4 วัน จะทำให้กำลังการผลิตของชาติลดลง ขอย้ำว่าพรรคให้ทำงานตามปกติ ใครจะทำงาน 5 วันก็ทำงาน 5 วันเหมือนเดิม แต่ 1 วัน เราเสนอให้ทำงานที่บ้าน 
    นายอนุทินกล่าวว่า ถึงเวลาที่ประชาธิปไตยจะเดินหน้า นี่คือเวลาของประชาธิปไตยที่แท้จริง พรรคสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ในเรื่องกฎกรอบของ กกต.ที่ให้ผู้สมัครต้องยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี พรรคไม่มีปัญหา เพราะพรรคเรามีแต่คนทำมาหากิน เราพร้อมแล้วถึงมาช่วยประชาชน คนไม่ทำงานทำการ พรรคไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย
    ขณะที่พรรคเพื่อชาติ นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคและคณะผู้บริหาร พร้อมนายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ เดินทางมาภาคอีสาน ตามกำหนดการพรรคเพื่อชาติสัญจร ระหว่างวันที่ 19-26 ม.ค.2562 พร้อมทั้งเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง โดยเมื่อวันเสาร์เป็นวันสุดท้ายที่ จ.บุรีรัมย์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนหลายพันคนมาเฝ้ารอฟังการปราศรัย
     นายสงครามกล่าวว่า ทนไม่ได้หากพี่น้องยังจนอยู่ ก่อนที่ตนจะจากโลกนี้ไป จะพยายามทำให้พี่น้องเราหายจน จะต้องขายสินค้าได้ราคาไม่ต่ำกว่าทุน ต้องอยู่ดีกินดี ได้รับความเป็นธรรม ในปัจจุบันเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเหนื่อยยากมาหลายสิบปีแล้ว หลังอายุ 60 ปี หลายท่านก็เกษียณ หลายท่านก็ยังทำงานอยู่ นโยบายของเราคือ อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จะต้องมีเบี้ยผู้สูงอายุคนละ 2,000 บาทต่อเดือนตลอดชีพ แต่ถ้าเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ตนตั้งใจจะขยับขึ้นเป็น 3,000-4,000 ต่อเดือน ขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นขอให้พี่น้องช่วยกันให้โอกาสเราเข้าไปทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้อง ขอบอกตรงๆ ว่าเงินสวัสดิการเหล่านี้ไม่ใช่เงินของตน แต่เป็นเงินภาษีของพวกท่าน โดยเราพยายามจะทำให้ประเทศของเราเป็นรัฐสวัสดิการให้จงได้ 
    ด้านนายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน มีการต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน พรรคเพื่อชาติเราคิดนโยบายไม่ใช่แบบพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการเปลี่ยน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดแบบนั้น แต่ของพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากเห็นแล้วว่าเอกสารสิทธิของพี่น้อง อาทิ นส.1, นส.2, ส.ป.ก. อธิบายเรื่องความเหลื่อมล้ำ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติประกาศชัดเจนว่าพรรคเพื่อชาติมีหน้าที่ลดความเหลื่อมล้ำ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้เอกสารสิทธิของที่ดินทั้งหมดจะไม่มี เรียกอย่างเดียวคือโฉนด ที่เคยเป็น ส.ป.ก.ทั้งหลาย ก็จะมีวงเล็บข้างท้าย อาทิ เพื่อการเกษตร เพื่อการประมง เพื่อที่อยู่อาศัย สามารถถือโฉนดนี้ไปกู้ธนาคารได้ พูดง่ายๆ คือเลือกพรรคเพื่อชาติมีโฉนดใบเดียวเหมือนกันทั้งประเทศ
     ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของ จ.บุรีรัมย์ ดังนี้ เขต 2 นายชูศักดิ์ พงษ์สวัสดิ์, เขต 4 นายธนพรเทพ สมการณ์เดชกุล, เขต 6 นายสากล ศรีวันทา, เขต 7 นายทรงพล วิชัยกูล และเขต 8 นายวิชัย พะพะลาภ
ส้มหวานเปิดตัวผู้สมัคร
    ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 30 เขต
    นายธนาธรกล่าวว่า ประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในสนาม กทม. ตั้งแต่ปี 2522 จนถึงปัจจุบัน มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่น พรรคประชากรไทย เคยครองความเป็นที่หนึ่ง ตั้งแต่ปี 2522-2529 ต่อมาในปี 2535 พรรคพลังธรรมได้รับเลือกเป็นที่หนึ่ง และเปลี่ยนมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทย ชี้ให้เห็นว่าคน กทม.พร้อมให้โอกาสพรรคการเมือง และไม่มีพรรคการเมืองใดผูกขาดพื้นที่ในกรุงเทพฯ คน กทม.พร้อมเปลี่ยนแปลง และให้โอกาสตัวเลือกใหม่ 
    อย่างไรก็ตาม พรรคมีว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ทั่วประเทศ ไม่มีอดีตรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ทำให้ต้องทำงานหนักในอีก 56 วัน โดยใน กทม.พรรคมีนโยบายที่จะผลักดันรถสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างโรงเรียนที่ดีกระจายลงไปในทุกชุมชน
    “ว่าที่ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่มีความหลากหลาย มีทั้งผู้ที่มีการศึกษาสูง คนที่มีรายได้ปานกลาง หรือผู้ที่ผ่านประสบการณ์ใช้ชีวิตในชุมชนแออัดของกทม. มีพ่อแม่ทำงานก่อสร้างผลักดันตัวเองจนเรียนจบปริญญา และมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ว่าที่ผู้สมัครของพรรคควรได้รับเลือก ไม่ใช่เพราะเขารวยเท่าผม แต่เขาจนเท่าคุณ พวกเขารับรู้ว่าความยากแค้นเจ็บปวดและสาหัสอย่างไร เราส่งผู้สมัคร 350 เขต เพื่อประกาศศักยภาพถึงความพร้อมที่ะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ บางพรรคภูมิใจที่มีดอกเตอร์มากที่สุด แต่ผมภูมิใจที่พรรคอนาคตใหม่ มีว่าที่ผู้สมัครหลากหลาย ทั้งคนชาติพันธุ์ และคนขับแท็กซี่ เป้าหมายของพรรคไม่ใช่การส่ง “ธนาธร” ไปเป็นนายกฯ แต่คือเปลี่ยนแปลงประเทศ จึงขออาสาเป็นกองหน้าประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นเจ้านาย” นายธนาธรกล่าว
    เมื่อถามถึงกฎระเบียบของ กกต. ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการหาเสียง นายธนาธรกล่าวว่า กฎของกกต.เป็นปัญหาของพรรคมาตลอด เราต้องยึดหลักเสรีภาพในการหาเสียง แต่ในประเทศไทยพรรคการเมืองถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพโดยไม่มีเหตุผลรองรับ ขณะนี้ทุกพรรคควรได้รับโอกาสให้เปิดตัวผู้สมัคร แถลงนโยบายพรรค และรณรงค์ได้อย่างเสรี เพราะการทำให้ประชาชนรู้จักพรรคการเมืองและนักการเมืองได้มากเท่าไร ก็จะสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ดังนั้นการหาเสียงจึงทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง ถ้าพรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงอย่างพอเหมาะพอควร การเลือกตั้งจะอยู่ใต้อิทธิพลของรัฐราชการ เครือข่ายผู้นำท้องถิ่น สำหรับการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียนั้น พรรคได้แจ้งลงทะเบียนเพจและเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่ต่อ กกต.เรียบร้อยแล้ว
    สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพฯ ของพรรคอนาคตใหม่ มีทั้งสิ้น 30 เขต ประกอบด้วย น.ส.นพมาศ การุญ เขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย, น.ส.พัสวี ภัทรพทธากร เขต 2 ปทุมวัน บางรัก, น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน เขต 3 บางคอแหลม ยานนาวา, นายกรณ์ จตุวิมล เขต 4 คลองเตย, นายอดิศร โพธิ์อ่าน เขต 5 ดินแดง, นายคริส โปตระนันทน์ เขต 6 พญาไท ราชเทวี, นายปิยะชาติ อำนวยเวช เขต 7 บางซื่อ ดุสิต, นายธนเดช เพ็งสุข เขต 8 ลาดพร้าว วังทองหลาง, นายกฤษณุชา สรรเสริญ เขต 9 หลักสี่ จตุจักร, นายธนากร ชินอุดมพร เขต 10 ดอนเมือง, นายนิกม์ แสงศิรินาวิน เขต 11 สายไหม
    นายเอราวัณ วานิชย์หานนท์ เขต 12 บางเขน, น.ส.ณิชชา บุญลือ เขต 13 บางกะปิ, 
นายศุภชัย กุลโชควณิช เขต 14 บึงกุ่ม, นายอิงควัศ อมาตยกุล เขต 15 มีนบุรี คันนายาว, นายวาทิศ ธนกิจกาศมณี เขต 16 คลองสามวา, น.ส.จุฬาลักษณ์ รุ่งเรืองมงคล เขต 17 หนองจอก, นายเอกฤทธิ เจียกขจร เขต 18 ลาดกระบัง, นายสุรกฤณ ลิมปรัทกาญจนา เขต 19 สะพานสูง นายมณฑล    โพธิ์คาย เขต 20 สวนหลวง, นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์
เขต 21 บางนา
    นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เขต 22 คลองสาน, นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี เขต 23 จอมทอง, นายทศพร ทองศิริ เขต 24 ราษฎร์บูรณะ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เขต 25 บางขุนเทียน, นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ เขต 26 บางบอน, นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เขต 27 ทวีวัฒนา, นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เขต 28 บางแค, นายทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล เขต 29 ภาษีเจริญ และนายณัฐชนน  จิตต์สง่า เขต 30 บางพลัด
"บิ๊กตู่"ขนครม.ลงพื้นที่สระบุรี
       ในวันจันทร์ที่ 28 มกราคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสระบุรี เพื่อพบปะประชาชนและเยี่ยมชมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งเยี่ยมชมการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
    ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์พุแค สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวอย่างโครงการป่าในเมืองและเป็นสวนป่าประชารัฐเพื่อความสุขของคนไทย รวมถึงเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ใกล้ชุมชน ที่ได้พัฒนาพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับการให้บริการประชาชนในการศึกษาเรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานสักขีพยานในการมอบ สปก. 4-01 ให้แก่เกษตรกร 10 ราย และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนให้แก่ราษฎรจำนวน 10 ราย
    จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์พุแค (ศูนย์รวมและจำหน่ายสินค้า OTOP ทั่วประเทศ) และศูนย์ฝึกอาชีพ OTOP ซึ่งเป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้ด้านการบริหารจัดการ OTOP ครบวงจรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเยี่ยมชมตลาดหัวปลี "ตลาดสร้างสุข ชุมชนร่วมสร้าง" (โครงการต้นแบบที่ดีในการดำเนินโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี) ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"