เหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นรายวัน ล่าสุดเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา พื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ก็เกิดเหตุระเบิดริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณหัวสะพานบ้านบาซาเวง ม.6 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรงปินัง ซึ่งเป็นชุดดูแลความปลอดภัยครู นักเรียนโรงเรียนบ้านตะโละซูแม เดินทางกลับจากส่งคณะครู

    ส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ชาวบ้านที่ผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
    ย้อนไปไม่กี่วันก็เพิ่งเกิดเหตุอุกอาจคนร้ายบุกยิงพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ พระสมุห์อรรถพร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มรณภาพ รวมทั้งมีพระได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
    นอกจากนั้นก็เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนสงครามยิงป้อมตำรวจทางเข้าโรงพักนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้ ส.ต.อ.เฉลิมพล คมขำ ที่เข้าเวรรักษาการเสียชีวิต 
    สร้างความสะเทือนใจ สร้างความโกรธเคืองให้คนไทยทั้งประเทศ แต่ต่างก็รู้ว่าหากใช้ความรุนแรงตอบโต้กลับไป ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ดีขึ้น ตรงกันข้ามจะเข้าทางคนร้ายที่ต้องการให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต 
    การเจรจาพูดคุยอย่างสันติ ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุดจะยุติทุกอย่าง แม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม ซึ่งรัฐบาล ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งชาวบ้านต่างก็พร้อมใจกันดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว
    แต่ดูเหมือนพวกเดียวกันเองนี่แหละ กลับสร้างปัญหาบั่นทอนกำลังใจในการแก้ไขปัญหาไฟใต้ อย่างหนังสือวิทยุสั่งการที่ บก.สส.จชต.ส่งไปถึงตำรวจชายแดนใต้ กำชับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จชต.ให้ระมัดระวังในการเดินทางเข้าและออกจาก ศปก.ตร.สน. 
    "หากเกิดเหตุดังกล่าวกับข้าราชการตำรวจกรณีที่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ และมีความประมาทเลินเล่อ จนถูกกระทำจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ผู้บังคับบัญชาจะไม่ดำเนินการพิจารณาสิทธิประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ และจะพิจารณาความบกพร่องผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น กรณีไม่ย้ำเตือนกำลังพลในสังกัดตน ในกรณีดังกล่าว"
    เล่นเอา "ตำรวจใต้" ขวัญกำลังใจกระเจิง หมดกำลังใจทำงาน เกิดวลี "ลูกน้องตายฟรี ลูกพี่โดนตั้งกรรมการ คิดแบบตำรวจ ตรงข้ามกับทหาร" ส่งต่อกันในโลกโซเชียลกันกระหึ่ม
    เพราะการทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ ต่างก็รับรู้ รับทราบอยู่แล้วว่าเสี่ยงขนาดไหน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ล้วนตกเป็นเป้าทำร้าย ตกเป็นเป้าโจมตี 
    ลำพังแค่ระวังตัวก็เครียด ก็กังวลกันแทบทุกนาที มาเจอคำสั่งของผู้บังคับบัญชาแบบนี้ เล่นเอาเสียขวัญ
    ดีที่สุดท้ายมีการสั่งยกเลิกข้อสั่งการตามหนังสือ กำชับการปฏิบัติตนขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการและการปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ของ บก.สส.จชต.ดังกล่าว ทุกอย่างเลยดีขึ้นมาบ้าง
    แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญให้ผู้บังคับบัญชาต้องระมัดระวัง จะสั่งอะไรต้องใคร่ครวญให้รอบคอบ ไม่ใช่สักแต่ว่ามีอำนาจแล้วสั่งอย่างเดียว 
    ทำได้หรือไม่ได้...ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ.