เหลืออีกแค่ประมาณ 2 เดือน...ต้องเรียกว่า ไม่ช้า-ไม่นาน สำหรับการเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคงไม่ได้มีอะไร ซาดิสต์ ระดับต้อง จับปากกามาฆ่าใคร เพียงแค่ต้องตัดสินใจว่าจะ เอาบิ๊กตู่ หรือ ไม่เอาบิ๊กตู่ หรือ เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง เท่านั้นเอง...
-------------------------------------------------
ระหว่าง 2 เดือนนับจากนี้ ว่ากันว่า...ถ้าหากฝ่าย เอาบิ๊กตู่ เกิดไม่ถึงกับ สะดุดหัวแม่ตีนตัวเอง ล้มคว่ำคะมำหงาย ไม่จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตาย ด้วยสาเหตุใดๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่จะ นอนมา โดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า น่าจะสูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุเพราะฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่าย ไม่เอาบิ๊กตู่ นั้น โดยลักษณะอาการชักจะออกไปทาง เหี่ยวปลาย หรือไม่ได้คึกคัก เข้มขลัง ร้อนแรง เหมือนอย่างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มาซักเท่าไหร่นัก...
---------------------------------------------------
จะด้วยเพราะกลเม็ด แตกแบงก์พันไปเป็นแบงก์ร้อย ที่เล่นเอาบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ทอนไม่ค่อยจะถูก เกิดอาการสับสน วิงเวียน ไม่รู้ว่าจะหันไปเทคะแนนให้ เผา ประเภทไหน หรือด้วยเหตุเพราะการ พ็อดสคาสต์ ของ นายใหญ่ มันออกจะไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ไม่ได้เร้าอก เร้าใจ เหมือนแต่ก่อน หรือด้วยเหตุเพราะฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหลาย หันไปซบตักเผด็จการด้วยความยินยอมพร้อมใจของตัวเอง จนแทบแยกไม่ออก-บอกไม่ถูก ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ ที่ส่งผลให้บรรดา เซียนมวย เขาเริ่มลดราคาต่อรองของฝ่ายแดง ให้เหลือแค่เสมอๆ ก็ถือว่าเยอะแล้ว...
----------------------------------------------------
หรือพูดง่ายๆ ว่า...ระดับรวมเครือข่ายเผาๆ ทั้งหลายแล้ว โอกาสจะได้ 300 หรือ 375 นั้น ออกไปทางฝันกลางฤดูร้อนอยู่แล้วแน่ๆ และถ้าหากเหลือแค่ 200 หรือแค่ 100 กว่าๆ อันนี้...ยังไงๆ ย่อมต้อง เสร็จบิ๊กตู่ อย่างมิอาจปฏิเสธได้ เรียกว่า...ประมาณโดนโพเดียมหล่นใส่หัว อะไรทำนองนั้น เพราะแค่เฉพาะ 250 เสียงในกระเป๋าเอกสารของ บิ๊กตู่ ก็ย่อมสามารถทำให้เสียงที่เหลือๆ ต้องหันมาไหลบรรจบกันแบบแม่น้ำร้อยสายได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ โอกาสที่ ลูกวัน จะผงาดขึ้นเป็นรัฐมนตรีกะเค้าบ้าง เลยคงต้องรอไปประมาณชาติหน้าตอนบ่ายๆ ประมาณ 3 โมงแก่ๆ ประมาณนั้น...
----------------------------------------------------
และการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำร้อยสายนี่แหละ...ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าฝ่ายที่ เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง จะออกลูกไหนกันดี คือถ้าหากฝ่ายดังกล่าวเกิดได้มาซัก 100 กว่าๆ หรือ 200 นอกจากท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านคงไม่ถึงขั้นต้อง ลาออก ตามคำมั่นสัญญา คำต่อรอง ที่ออกจะตั้งค่ามาตรฐานต่ำไปนิด แต่การหันซ้าย-หันขวา หันไปทาง เอาบิ๊กตู่ หรือ ไม่เอาบิ๊กตู่ มันอาจจะเกิดค่ามาตรฐานการต่อรองที่สูงขึ้นไปตามลำดับ คือสามารถกำหนดแนวทางทางการเมืองและเศรษฐกิจ ไปจนถึงกำหนดตัว ทีมงานเศรษฐกิจ เอาเลยก็ไม่แน่...
----------------------------------------------------
แต่ถ้าหากดัน ต่ำกว่า 100 อันนั้น...ไม่ใช่แค่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ต้องลาออกเท่านั้น แต่พรรคทั้งพรรคนั่นแหละ หนีไม่พ้นต้องผวาเข้าหา บิ๊กตู่ ไปโดยปริยาย กระทั่งโอกาสที่จะไปกำหนดว่าใครเป็น ประธานสภาฯ ก็ยังอาจจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ เพราะแค่ประคับประคองตัวเอง ไม่ให้ต้องถูกถีบไปเป็น ฝ่ายค้าน ร่วมกับบรรดาพรรคตระกูลเผาทั้งหลาย ก็น่าจะเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า เหงื่อตกกีบเอาง่ายๆ เพราะบรรดาฝ่ายที่พร้อมจะ เอาบิ๊กตู่ ทั้งหลาย คงถอดเสื้อ ถอดกางเกง ยื่นใบสมัครเข้าเรียน รด. กันเป็นทิวแถว...
----------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหาก 2 เดือนนับจากนี้ รัฐบาลดันไปสะดุดหัวแม่ตีนตัวเอง ด้วยเรื่องใด-เรื่องหนึ่ง เกิดอาการไม้จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตายเอาดื้อๆ คณิตศาสตร์การเมือง หรือสมการการเมือง มันก็อาจเปลี่ยนแปลงเอาง่ายๆ เผลอๆ...250 เสียงในกระเป๋าเอกสารของ บิ๊กตู่ อาจกลายเป็น ของดิ้นได้ ไม่ใช่ ของตาย อย่างที่เคยคิดๆ กันไว้เอาเลยก็ไม่แน่ เพราะอย่างที่เคยว่าๆ กันเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด ระบอบใด ระบบใด สิ่งที่สำคัญเอามากๆ สำหรับ ความเป็นรัฐบาล มันคงหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่เรียกว่า ความชอบธรรมทางการเมือง นั่นแล...
----------------------------------------------------
และสิ่งเหล่านี้...มันคงไม่สามารถสรรค์สร้างกันด้วยจำนวนเสียง จำนวนคะแนน หรือด้วยการบวก-ลบ-คูณ-หาร ตามหลักคณิตศาสตร์การเมืองแต่อย่างใด แต่ยังต้องอาศัยรัฐศาสตร์ มนูศาสตร์ หรือธรรมศาสตร์โน่นเลย มันถึงพอจะช่วยให้ความเป็นรัฐบาลนั้นๆ อยู่รอดปลอดภัย ไปได้ซักพักใหญ่ๆ เป็นอย่างน้อย ไม่ใช่แค่ 3 เดือน 6 เดือน ก็ต้อง พฤษภาทมิฬ กันอีกซะแร้นน์น์น์ด้วยเหตุนี้...ระหว่าง 2 เดือนนับจากนี้ จะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว จะว่าช้า ว่าเร็ว ก็แล้วแต่ โยม จะพิจารณากันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ อะไรจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างนี้ ก็คงเป็นไปตามธรรมชาติ เท่าที่มันเป็นอยู่นั่นเอง ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้ เป็นไปตาม กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันว่าด้วย...เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป นั่นแล...
----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Bhagavad Gita... Raise yourself by your Self. The Self is your sole friend even as it is your sole enemy. – จงยกสถานะตัวท่านให้สูงขึ้นด้วยตัวของท่าน ด้วยเหตุเพราะตัวท่านเอง เป็นได้ทั้งมิตรและศัตรูของท่านเอง...”
---------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
