"ชาวไทยพุทธ-มุสลิม" รวมพลังแสดงจุดยืนไม่ต้องการความรุนแรง พร้อมโดดเดี่ยวกลุ่มก่อความไม่สงบ "สมาพันธ์คนพุทธ จชต." แห่รถกว่า 100 คันเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการโจมตีเป้าหมายอ่อนแอและศาสนสถาน "กอ.รมน.ภาค 4 สน." โต้คลิปกล่าวหาทหารเหตุปะทะเดือดที่ปัตตานี ชี้มุกเดิมป้ายสีเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี จ.ปัตตานี วันที่ 23 ม.ค. ประชาชนชาวไทยพุทธและมุสลิมทุกภาคส่วน ทั้งกลุ่มสตรี กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นต่างแสดงพลังต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ในการจัดเสวนา "ถึงเวลา...หันหน้าเข้าหากัน เพื่อรวมพลัง โดดเดี่ยวผู้ก่อความรุนแรง" โดยร่วมแสดงพลังและแสดงจุดยืนไม่ต้องการความรุนแรง ซึ่งทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความแตกต่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนาครั้งนี้มีผู้นำศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ประกอบด้วยนายอดุลย์ หมีดเส็น นายอำเภอเมืองตรัง, รองผู้อำนวยการ กองกำลังรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปัตตานี, พระครูปลัดคณิตร์ ธรรมวโร เจ้าอาวาสวัดแหลมนก, นายรอย๊ะ หวันโส๊ะ อิหม่ามมัสยิดกลางปัตตานี, ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี และตัวแทนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมเสวนา เพื่อหาทางออกและหลักในการอยู่ร่วมกันในบริบทที่แตกต่างกัน โดยยึดหลักศาสนาเป็นที่ตั้ง ซึ่งทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนกัน และสอนให้มีเมตตา มีน้ำใจ ไม่ส่งเสริมความรุนแรง
มีรายงานว่า ที่ประชุมเน้นย้ำให้มีความรู้เท่าทันสื่อ ไม่ตกเป็นเหยื่อของกระแสข่าวลวง โดยเฉพาะกระแสสื่อโซเชียลมีเดียที่ควรจะพิจารณา วิเคราะห์ แยกแยะ ไม่แชร์ซ้ำ อันจะสร้างผลกระทบต่อการแก้ไขสถานการณ์ได้
"การเสวนาดังกล่าวประชาชนส่วนใหญ่ต่างมีความมุ่งหวังในการสร้างความสงบและความสันติสุขให้เกิดขึ้น เพื่อพัฒนาสังคม ประเทศชาติ และสร้างคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" แหล่งข่าวระบุ
ที่วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส สมาพันธ์คนพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการแห่ขบวนรถยนต์ออกจากวัด จุดที่ถูกคนร้ายกราดยิงพระสงฆ์เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยข้อเรียกร้องสำคัญคือ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบอย่างจริงจัง ตลอดเส้นทางของขบวนแห่ได้มีการปราศรัย เชิญชวนให้ชาวพุทธและชาวมุสลิมในพื้นที่ออกมาร่วมกันแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยรถที่อยู่ในขบวนเกือบทุกคันจะผูกผ้าสีดำที่กระจกรถเพื่อแสดงความอาลัยแด่พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร ขุนอำไพ อดีตพระลูกวัด รวมถึงติดป้ายข้อความที่แสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับการโจมตีเป้าหมายอ่อนแอและศาสนสถาน
ขบวนรถที่ออกจากวัดรัตนานุภาพได้ขับผ่าน อ.สุไหงปาดี ผ่าน อ.สุไหงโก-ลก ผ่าน อ.ตากใบ และเข้าเมืองนราธิวาส ก่อนวนกลับไปยังวัดรัตนานุภาพ โดยแต่ละอำเภอที่รถขับผ่านจะมีประชาชนมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขบวนยาวกว่า 2 กิโลเมตร มีรถร่วมขบวนมากกว่า 100 คัน มีตำรวจแต่ละท้องที่นำขบวนตลอดเส้นทางด้วย
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ชี้แจงกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊ก Anchana Heemmina โพสต์ภาพข่าวเหตุปะทะคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย โดยมีเด็กหญิงอายุ 8 ขวบได้รับบาดเจ็บ 1 รายเมื่อ 12 ม.ค.62 โดยอ้างกระสุนปืนเป็นของเจ้าหน้าที่ที่อยู่นอกตัวบ้านมาโดนเด็ก และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ออกจากบ้าน ต่อมาสำนักข่าว Wartani ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์นางสะมะเลาะ อาแว อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำหลานที่ได้รับบาดเจ็บออกจากบ้าน และกล่าวอ้างว่าเงินหายไปจากบ้าน 15,000 บาทหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในบ้าน
พ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายหลังพบกระสุนปืนที่ทะลุเข้ามาในบ้าน เป็นกระสุนที่ทะลุมาจากประตูห้องครัวหลังบ้าน เฉี่ยวหลังเด็กไปทะลุบริเวณผนังกำแพง โดยขั้นตอนของการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติตามขั้นตอนหลังจากที่คนร้ายยิงใส่ โดยได้ตะโกนเจรจาให้คนในบ้านออกมาข้างนอก ใช้เวลาอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีใครออกมาจากบ้าน มีแต่เสียงปืนที่คนร้ายยิงใส่เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เองต้องหาที่กำบังแล้วไม่มีการตอบโต้ จนกระทั่งผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงถึงทราบว่าเด็กได้รับบาดเจ็บจากกระสุน เจ้าหน้าที่พยายามหาวิธีเข้าทำการช่วยเหลือ ซึ่งค่อนข้างทำด้วยความยากลำบากเพราะคนร้ายยิงสวนมาตลอด แต่สุดท้ายก็สามารถช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้นในประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้สั่งห้ามให้ช่วยเหลือเด็กออกมา
พ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องเงินหายเป็นมุกเดิม ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน สิ่งที่ตามมาทุกครั้งคือจะมาอ้างว่าทรัพย์สินสูญหาย ทองสูญหายเงินสูญหาย เป็นคนรวยขึ้นมาทันที จากบทเรียนในอดีตเจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการตรวจค้น มีขั้นตอนในการตรวจค้น อย่างแรกคือจะมีผู้นำตรวจ อาจจะเป็นเจ้าของบ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบ้านหลังนั้น จะต้องเป็นผู้นำตรวจและจะต้องมีการตรวจพร้อมๆ กันว่ามีการตรวจ และต้องมีการบันทึกหลักฐานการตรวจเพื่อให้รับทราบทั้งสองฝ่ายว่ามีการเก็บหลักฐานชิ้นใดบ้าง
"การเผยแพร่คลิปโดยสำนักข่าว Wartani และการให้สัมภาษณ์ของนางสะมะเลาะ อาแว ที่เป็นยายของเด็กนั้น ถ้าพบว่ามีเจตนาในการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้ายป้ายสีเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |