"นายกฯ ประยุทธ์" เคยบอก.....
ภายในเดือนมกรานี้ รู้แน่ ว่าจะเลือกตั้งวันไหน?
นี่ก็ปลายเดือนจิ่มเข้ามาทุกที
ถ้าผมคาดเดาไม่ผิด ช้าที่สุด ไม่เกินวันอังคารที่ ๒๙ มกรานี้ น่าจะมีคำตอบเป็นรูปธรรม
ผมยึดอะไรเป็นฐานคาดเดา หรือเดาส่งเดชไปงั้น?
ก็เป็นได้ทั้งสองทาง
โดยเฉพาะทางแรก ผมยึดคำแจกแจงในขั้นตอนบางขั้นตอน "ชั้นเตรียมการ" เพื่อในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๔-๖ พฤษภา
ใคร่ครวญตามตารางเวลาแล้ว พอจะอนุมานถึงวันลงตัว ที่จะกำหนด "วันเลือกตั้ง" ได้
คืออย่างไรกัน.....?
ท่านก็พิจารณาตามไปด้วยกันเลย ผมจะสรุปที่ รมว.มหาดไทย "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" แถลงเมื่อวาน (๒๒ ม.ค.๖๒) ให้ฟัง
พลเอกอนุพงษ์กล่าวถึง "พิธีตักน้ำ" จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ เป็นกำหนดการเบื้องต้น ว่า
๖ เม.ย.พิธีพลีกรรมตักน้ำทั่วประเทศ
๘ เม.ย.พิธีเสกน้ำในวัดในพื้นที่ต่างๆ โดยนำน้ำมาเข้าพิธีอภิเษกวันที่ ๑๘ เม.ย.ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรวิหาร
๑๙ เม.ย.พิธีอัญเชิญน้ำที่ผ่านการประกอบพิธีไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นผู้ตักน้ำ
จังหวัดที่มีแหล่งน้ำหลายแห่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นผู้ตัก
โดยจะมีฤกษ์วันและเวลาที่ตักน้ำพร้อมกันทั้งประเทศ
แหล่งน้ำทั่วประเทศที่จะตักนั้น มี ๑๐๗ แห่ง กทม. ๑ แห่ง รวมเป็น ๑๐๘ แห่ง
จังหวัดที่มีแหล่งน้ำ ๑ แห่ง ๖๐ จังหวัด, มี ๒ แหล่งน้ำ ๗ จังหวัด
มี ๓ แหล่งน้ำ ๕ จังหวัด, มี ๔ แหล่งน้ำ ๓ จังหวัด และมี ๖ แหล่งน้ำ ๑ จังหวัด
ส่วนแม่น้ำสำคัญ ๕ สาย ได้แก่ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำราชบุรี และ แม่น้ำเพชรบุรี
สระสำคัญ ๔ แห่ง ใน สุพรรณบุรี ประกอบด้วย สระเกษ, สระแก้ว, สระคงคา, สระยมนา
ในส่วนแม่น้ำสำคัญ น่าจะอยู่ภายในหอศาสตราคมภายใน "พระบรมมหาราชวัง" แล้ว
ทั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์บอกว่า.....
๒๓ มกรา เวลา ๑๓.๐๐ น.รัฐบาลจะประชุมเตรียมการ "ก่อนประชุมใหญ่"
ที่......
"สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" จะเสด็จฯ ไปทรงเป็นประธาน ในวันเสาร์ที่ ๒๖ มกราคม
นั่นก็คือ "ทุกขั้น-ทุกตอน"
เมื่อการประชุมใหญ่ เสาร์ที่ ๒๖ มกรา โดยมี "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ทรงเป็นประธาน ผ่านไปแล้ว
ทุกอย่าง น่าจะสรุป "ชัดเจน-ลงตัว"
ในความหมาย งานที่ต้องทำก่อนพระราชพิธี ๑๕ วัน และหลังพระราชพิธี ๑๕ วัน
ตามที่รองนายกฯ "วิษณุ เครืองาม" เคยอธิบายให้ทราบ
เมื่อทราบและเป็นที่ลงตัว......
ก็สามารถ "กำหนดวัน" เลือกตั้ง อันจะไม่ทำให้การหาเสียง รวมถึงการประกาศผล ไปกระทบในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เห็นเนาๆ กันว่า อาทิตย์ที่ ๒๔ มีนา เป็นวันที่ลงตัวมิใช่หรือ?
แต่จะใช่-ไม่ใช่ ยังไงก็ต้องรอฟัง จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเลือกตั้งประกาศออกมาก่อนเท่านั้น
ทีนี้ก็......
มาทำความเข้าใจเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์กันสักเล็กน้อย
คือน้ำที่ใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ เรียกว่า "มุรธาภิเษก"
มุรธา แปลว่า ยอด, ศีรษะ
มุรธาภิเษก คือน้ำพระพุทธมนต์และเทพมนตร์สำหรับถวายพระมหากษัตริย์ เพื่อทรงรดพระเศียร และทรงสรงในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
น้ำมุรธาภิเษกนี้ จะสังเกตเห็นว่า มีอยู่จังหวัดหนึ่ง มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในการนี้ ถึง ๖ แห่ง
หลายท่านอาจอยากทราบ คือจังหวัดไหน ผมเองก็อยากทราบ เพราะพลเอกอนุพงษ์ท่านไม่ได้บอก
ก็ลองค้นๆ ดู จากในการพระราชพิธีมงคลสำคัญๆ แต่ละครั้ง ที่ต้องตักจากแหล่งทั้ง ๖ นี้ไปทุกครั้ง
นั่นคือ ที่ "จังหวัดนครศรีธรรมราช"
๑.บ่อน้ำวัดหน้าพระลาน วัดพระมหาธาตุ
๒.บ่อน้ำวัดเสมาเมือง หน้า รร.เทศบาลวัดเสมาเมือง
๓.บ่อน้ำวัดเสมาไชย ใกล้ร้านผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์
๔.บ่อน้ำวัดประตูขาว บริเวณโรงเรียนอนุบาลนครศรีฯ
๕.ห้วยเขามหาชัย ไหลจากห้วยเขามหาชัย ผ่านลงมาที่ท่างิ้ว บริเวณหลังโรงเรียนวัดมหาชัยวนาราม และ
๖.ห้วยปากนาคราช คดเคี้ยวเหมือนพญานาคราช อยู่ที่ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา
อืมมม.....
ตรงนี้น่าทึ่ง น่าศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราชนี่ ใครไปแล้ว จะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าไม่ทราบ?
คือ รับรู้ได้ถึงความ "ขลัง-ลึกล้ำ-น่าค้นหา"
แต่ยิ่งค้น ยิ่งลึก
เหวที่ว่าลึก ยังสามารถหาก้นเจอ แต่ลึกในความเป็นนครศรีธรรมราช ไม่มีทาง
เพราะเป็นลึกที่ล้ำ "หลุดมิติ" สามัญมนุษย์เข้าไปถึง!
ขนาดแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ยังมีถึง ๖ แห่ง และแต่ละแห่ง มีความเป็นมาเหนือฟ้า-เหนือดิน "องค์ภูมินทร์" เท่านั้น คู่ควร
ในการพระราชพิธีมหามงคลแต่ละรัชสมัย
ผู้ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้......
ต้องสะอาด สมาทานศีลเคร่งครัด นำน้ำมารวมกันแล้ว ประกอบพิธีในพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุฯ
ประกาศองค์เทวาแล้ว พระสงฆ์จะสวดภาณวารตลอดทั้งวัน-ทั้งคืน
"ภาณวาร" เป็นการสวดมนต์ด้วยบทสวดฉบับหลวง ว่าด้วยพระปริตร พระมหาปริตร อันประกอบด้วย มงคลสูตร, รัตนสูตร และกรณียเมตตสูตร
นี้แหละ จึงขลังและประสิทธิเมยิ่งนัก นอกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ๖ แห่งนี้แล้ว
"นครศรีธรรมราช" ยังมีสถานที่-บุคคลประเภท "เหนือกาลเวลา-เหนือหยั่งถึง" ที่ควรไปศึกษาและเรียนรู้ ชนิด "รู้ไม่จบ" อีกมาก!
เรื่องเลือกตั้งเนี่ย......
ผมอยากจะย้ำอีกที ไม่ต้องไปกระหายใคร่อยากจนเกินกาลหรอก ยังไงๆ ปีนี้ มีแน่ ได้เลือกกันแน่
แต่พระราชพิธีบ่งบอกถึงอารยชาติแห่งไทย บ่งบอกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์คู่ความเป็นประเทศ
ในรอบร้อยปี จะมีสักครั้ง!
ตรงนี้ เราต้องให้ความสำคัญ และเตรียมตัวในความเป็น "เจ้าภาพร่วม" ในส่วนงานรัฐบาลจัดถวาย
ทุกวันนี้ เราไปให้ความสำคัญ "พยาธิในลำไส้ใหญ่" มากไป ที่พวกเขาทำเป็น "ไม่เข้าใจ" ในสาระสำคัญของเรื่องราว แล้วไขสือ.......
ยกเหตุ "วันเลือกตั้ง" ขึ้นมาแสดงปฏิกิริยาบ้าง ใช้คำพูด-คำจา ไปในทางเหยียบย่ำบ้าง
โน้มน้าวให้คนที่ไม่เข้าใจในความเป็นชาติของไทย นำเรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง ไปยำปนกับการในพระราชพิธี
โตๆ กันแล้ว เรียนมหาวิทยาลัย จบเป็นบัณฑิต เป็นครูบาอาจารย์กันแล้ว เคยเป็นรัฐมนตรีกันมาแล้วก็มี ไม่ใช่คนเถื่อน-คนถ่อยที่ไหน
ฉะนั้น ควร-ไม่ควรแค่ไหน ทุกคนรู้
ถ้าแบบนี้ ยังไร้เดียงสา แยกแยะถูก-ผิดด้วย "สำนึกคน" ไม่ได้ ก็จะเข้ามามีอำนาจในรัฐสภาในฐานะรัฐบาลได้อย่างไรกัน?
ประชาชนวันนี้ เขามุ่งไปข้างหน้ากันแล้ว
เขาทิ้ง "นักเลือกตั้งเลว" ไว้ข้างหลังกันแล้ว
"ด่าชาติ-ย่ำสถาบัน" นึกว่าจะได้คะแนนเสียงเข้าไปมีอำนาจเป็นรัฐบาล กะเปลี่ยนบ้าน-เปลี่ยนเมืองกันอย่างนั้นหรือ?
จะบอกให้.......
เลือกตั้งครั้งนี้ คนที่เขาเงียบ ๕๐-๖๐%
เงียบเพราะรังเกียจ ขยะแขยง อ้าย-อี บางตัว ที่หาเสียงแบบ "หนังหนา-หน้าด้าน"
แล้วเขาจะเฮกันออกมา "เลือกรัฐบาล" ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ตบหน้าพวกมึงนั่นแหละ!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |