เย้ยคำสั่งนายกฯ! รถติดตาม ครม.ติดเครื่องยนต์พ่นควันพิษในทำเนียบฯ ขณะรอการประชุม นายกฯ เผยกำชับแล้วไม่ต้องติดเครื่องรอนายเพราะเหม็น เปลืองน้ำมัน ก่อมลพิษ อ้างรถตนทำเป็นตัวอย่างแล้ว ยันรัฐบาลทำทุกมาตรการ "เพื่อไทย" โยงได้อีก หากรัฐบาลแก้ไม่ได้ควรรีบจัดเลือกตั้ง
เมื่อวันอังคาร ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกแถลงการณ์สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมี 9 มาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งในข้อ 8 ระบุว่า "รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่ที่มีมลพิษสูง"
แต่ปรากฏว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันนี้ รถยนต์ของผู้ติดตามและรถติดตามขบวนของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่มาจอดรอรับบรรดา ครม.บริเวณโรงจอดรถและลานจอดด้านข้างตึกบัญชาการ 1 และ 2 กลับสตาร์ทเครื่องรอเป็นเวลานานตั้งแต่เริ่มประชุม ครม.จนการประชุมเสร็จสิ้น โดยปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนสถานการณ์ฝุ่นละอองจะวิกฤติจนกระทั่งปัจจุบัน ซ้ำเมื่อมีแถลงการณ์ของนายกฯ ออกมาก็ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ทั้งที่สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่
ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละออง หลังสื่อมวลชนเสนอข่าวรถในขบวนติดตามรัฐมนตรีติดเครื่องยนต์รอในทำเนียบฯ ว่า ในที่ประชุม ครม.ตนได้ย้ำไปแล้วว่าส่วนของหน่วยงานราชการไม่ต้องติดเครื่องรอนาย รถของตนก็สั่งไม่ต้องติดเครื่องรอ เพราะเหม็น เปลืองน้ำมัน เครื่องยนต์เสื่อมโดยใช่เหตุ เปิดแอร์นั่งรอนานไม่ให้ทำ ซึ่งตนได้ทำเป็นตัวอย่างไปแล้ว และทุกคนต้องช่วยกันด้วย แต่ก็มีรถอื่นๆ ที่ติดเครื่องรอนานๆ ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ รถขนส่งมวลชนทั้งหมด ถ้าถามว่าหยุดทั้งหมดทำได้ไหม ก็ไม่ได้ ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในระหว่างนี้ ทั้งนี้หากไปกำหนดบทลงโทษจะยุ่งไปกันใหญ่ ออกกฎหมายมาทุกตัว พอปฏิบัติไม่ได้ก็เดือดร้อนกันอีก ต้องช่วยกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ตนได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และออก 9 มาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหา ดังนั้นอย่าให้ใครมาบิดเบือนว่าไม่ทำอะไรเลย หรือรัฐบาลฉีดน้ำอย่างเดียว ใช่ที่ไหน รัฐบาลทำหลายอย่าง แต่ต้องร่วมมือกัน ส่วนการใช้โดรนพ่นน้ำบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง หลายคนถามว่าจะได้ประโยชน์อะไร ตรงนี้เป็นการทดลองนำสิ่งที่วิจัยพัฒนาในวันหน้ามาทดลองวันนี้ หากมีการใช้ปริมาณเยอะขึ้นจะเป็นอย่างไร
"วันนี้สมาคมโดรนได้ให้ความร่วมมือทดสอบแก้ปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่จำกัด ไม่กว้างเกินไปที่มีความสูงระยะ 25 เมตร ซึ่งน้ำไม่สามารถฉีดถึงได้ ปรากฏว่าเมื่อนำเครื่องมือของกรมควบคุมมลพิษไปวัดสามารถลดฝุ่นละอองได้ สมมุติจาก 70 มคก./ลบ.ม. เหลือ 50 มคก./ลบ.ม. อย่างประเทศจีนนำโดรนมาใช้เอาน้ำลงมา รวมถึงการใช้สารเคมีด้วย โดยต้องตรวจสอบว่าใช้สารเคมีอย่างไรกำลังค้นหาอยู่ หลายอย่างต้องมีการวิจัยและพัฒนา ติติงว่าเป็นการหลอกลวงไม่ได้ ทุกอย่างเกิดจากการทดลอง เราต้องหาหลายมาตรการในการทำงาน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีชาวบ้านร้องเรียนโรงซ่อมของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มักกะสัน ว่าทำการเผาพ่นสีจนเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานว่า ตนได้สั่งการไปแล้วและให้ดูว่าเขามีมาตรการป้องกันอย่างไร ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งเพราะฝุ่นละออง PM2.5 เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน คงไม่ใช่ภาครัฐอย่างเดียว ทั้งภาคเอกชนและประชาชน ภาคธุรกิจพ่นสีทั้งหมด ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบ วันนี้ได้กำชับกระทรวงคมนาคม รฟท. และทุกกระทรวงได้ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้
ต่อมาเมื่อเวลา 17.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์เพจเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ว่า "ผมได้เน้นย้ำเรื่องการจอดรถแล้วไม่ดับเครื่องยนต์อีกครั้งระหว่างการประชุม ครม.วันนี้ การติดเครื่องระหว่างจอดรอเป็นการเผาผลาญเชื้อเพลิง ก่อให้เกิดมลพิษ เกิด #ฝุ่นละออง และยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย โดยเฉพาะข้าราชการจะต้องไม่มีการติดเครื่องจอดรอเด็ดขาดครับ หากวันนี้พลาดไปก็ขอให้คิดทบทวน แก้ไขปรับปรุงใหม่ในวันพรุ่งนี้กันครับ"
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานว่า กระทรวงมหาดไทยได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชน นอกจากนี้ หน่วยงานราชการยังได้แจกหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนเพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการอยู่
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กห.ได้สั่งการให้หน่วยงานในกำกับของกระทรวงกลาโหมและทุกเหล่าทัพ สนับสนุนรัฐบาลในการเร่งแก้วิกฤติมลภาวะจากฝุ่นละอองในอากาศที่เกิดขึ้นมากใน กทม.ปัจจุบัน โดยในระยะเร่งด่วนให้นำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ที่มีมาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมทั้งให้คิดค้นทดลองหาแนวทางในการลดภาวะฝุ่นละอองที่กำลังเกิดขึ้นควบคู่กันไป สำหรับระยะยาวขอให้ทุกหน่วยงานของกองทัพใน กทม.และปริมณฑล ต้องช่วยกันลดต้นเหตุของฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานในทุกช่องทาง โดยเฉพาะขอให้ตรวจสอบสภาพยานพาหนะให้พร้อม โดยต้องพยายามไม่ให้มีรถยนต์ทหารที่มีควันดำไปวิ่งบนถนน และให้ศึกษาเพื่อการพัฒนาไปสู่การใช้น้ำมัน B20 ในอนาคตอันใกล้
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงนี้คนกรุงคงหนีไม่พ้นฝุ่น PM 2.5 ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องดูแลและป้องกันล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัญหาฝุ่นละอองในเขตเมืองวันนี้ รัฐบาลไม่ควรใช้อำนาจพิเศษสั่งการในการดำเนินนโยบายต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบตามกฎหมาย เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ การแก้กฎหมายผังเมือง มีการเอื้อประโยชน์ต่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะหรือไม่ การทำสัญญารถไฟฟ้าในเมือง รัฐได้คำนึงถึงองค์รวมของปัญหาผังเมือง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่มีความสัมพันธ์ต่อกันแล้วหรือไม่
"การที่มีผู้นำระดับสูงของประเทศไทยบางคนบอกว่าให้รออีก 3 ปี รถไฟฟ้าเสร็จแล้วอากาศจะดีขึ้น คนไทยคงรอไม่ได้ และจะต้องมีคนไทยอีกกี่คนที่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวกับมลพิษก่อนวัยอันควร หรือบอกให้ชาวบ้านแก้ที่ตัวเองบ้าง รัฐบาลทำไม่ได้ทุกเรื่อง คำพูดแบบนี้เป็นการปัดความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ของตนเองหรือไม่ รัฐมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน เพราะหากทำไม่ได้ก็ควรรีบจัดการเลือกตั้ง จะได้มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและถูกต้องตามหลักสากล"
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลัก ซึ่งต้องประกอบไปด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย เวลาที่รวดเร็วขึ้นและราคาที่สามารถรับได้ เพราะราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินของประเทศไทยเทียบกับประเทศต่างๆ ถือว่าสูงมาก กทม.และเมืองใหญ่ควรใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานของประเทศที่เจริญแล้ว ลดการใช้รถยนต์ที่สร้างมลพิษให้กับอากาศในหลายพื้นที่เขตเมือง และส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งเสริมให้มีการแก้ไขและป้องกันมลภาวะอย่างจริงจัง ทำเมืองให้เป็นสีเขียวติดอันดับต้นๆ ของโลก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |