พลังสันติลุกฮือ! ต้านการเข่นฆ่า ขอความสงบคืน


เพิ่มเพื่อน    


    "ครม." แต่งตั้ง "พล.ร.ต.สมเกียรติ" นั่งเลขาฯ ศอ.บต.คนใหม่ "ประยุทธ์" ยันเหตุไฟใต้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา ย้ำอย่าตกหลุมพรางพวกป่วนดึงต่างชาติแทรก "บิ๊กแดง" ลงพื้นที่นราธิวาส เคารพศพเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ พร้อมเยี่ยมพระ-อส.ทพ.บาดเจ็บ เตรียมเปิดรับทหารสมัครใจบวชประจำวัดชายแดนใต้ "มวลชน 13 อำเภอนราฯ" รวมพลังต่อต้านความรุนแรง ประณามคนร้ายฆ่าพระ
    เมื่อวันอังคาร ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ร.ต.สมเกียรติ  ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ ศอ.บต. แทนนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ อดีตเลขาธิการ ศอ.บต.ที่เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่  30 ก.ย.ที่ผ่านมา
    พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังการประชุม ครม.ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการแสดงความเป็นห่วงว่าอาจถูกทำให้เข้าใจผิดในเรื่องของศาสนาว่า "เราก็อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา เพราะทางโอไอซีหรือประเทศผู้แทนมุสลิมมาเยี่ยมเยือนเราหลายครั้ง จัดคณะทำงานไปดูในพื้นที่ภาคใต้ ไปสอบถามประชาชนในพื้นที่ เขาก็บอกไม่ใช่ความขัดแย้ง เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมๆ ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ดังนั้นเราอย่าเอาหลายอย่างไปพันกัน  เรายังไม่ถึงตรงนั้น" 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้ความสำคัญก็คือ สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นเพราะอะไร เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองหรือเปล่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งอะไรหรือไม่ เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องไปดูให้ชัดเจน วันนี้ก็มีหลายกลุ่มหลายฝ่ายที่ออกมาสร้างเหตุรุนแรงในขณะนี้ เพื่อยกระดับตัวเองให้มีเกรดสูงขึ้น ดังนั้นเราอย่าไปขยายให้เขา เราต้องไม่ไปเข้าล็อกเขา เขาต้องการที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้สังคมตื่นตระหนก หรือให้สังคมกดดันรัฐบาล กดดันภาครัฐเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่เขาต้องการ เป็นสงครามแย่งชิงทางความคิด 
    "เราอย่าเอาความคิดของเราไปตกหลุมพรางเขา เราก็จะหามาตรการทางกฎหมาย และเรื่องการพูดคุยสันติสุขต้องทำทั้งหมด ให้ต่างประเทศเห็นว่าเราไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้คณะกรรมการต่างๆ เขาดูอยู่ ทั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนหรือยูเอ็นเขาดูกันหมด ข้อสำคัญคือปัญหาของเราแตกต่างจากหลายประเทศ ดังนั้นก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้กำชับไปหลายอย่าง จุดอ่อนไหวที่สุดมีจำนวนมาก ทั้งวัด โรงเรียน เด็ก  ครู สถานที่ประกอบการธุรกิจ ทั้งหมดถือเป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด แม้แต่ทหารก็ยังเสี่ยงเลย เพราะถูกแวดล้อมด้วยประชาชนทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องหามาตรการทางการข่าวที่เหมาะสม การระมัดระวังป้องกันฐานตัวเอง และระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อราชการ ต้องเข้มงวดทั้งหมด 
รับทหารบวชพระ จชต.
    "ประชาชนในพื้นที่ต้องร่วมมือด้วย บางครั้งการกำหนดมาตรการอะไรออกมาก็ปฏิบัติได้ยาก เพราะประชาชนที่ไม่เดือดร้อนก็กลัวว่าจะกระทบกับสิทธิของตัวเอง ซึ่งหลายอย่างถ้าเราต้องการสิทธิเสรีภาพมาก ความไม่ปลอดภัยก็จะเกิดตามมา เมื่อวานได้ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ไปแล้วว่ามีมาตรการอะไรบ้าง อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่ทำตั้งหลายอย่าง ดังนั้นต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางการข่าวยังไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่าจะขยายความรุนแรงเกิดขึ้นอีก" นายกฯ กล่าว
    ที่ อ.เมืองนราธิวาส พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง.ผอ.รมน.) พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ., พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก และคณะ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเยี่ยมบำรุงขวัญพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองให้การต้อนรับ 
    โดย พล.อ.อภิรัชต์และคณะเดินทางไปยังวัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี  จ.นราธิวาส เพื่อเคารพศพพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร  ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งมรภาพจากเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงเมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมพูดคุยกับนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส  รวมถึงผู้นำศาสนา และหัวหน้ากองกำลัง 3 ฝ่าย 
    พล.อ.อภิรัชต์ได้เคารพศพพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป และได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมที่เดินทางมาร่วมงาน โดย พล.อ.อภิรัชต์กล่าวตอนหนึ่งว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของตัวบุคคลที่พยายามนำศาสนามาก่อให้เกิดความแตกแยก ซึ่งทุกคนที่เดินทางมาร่วมงานทราบกันดี ฉะนั้นจึงไม่ต้องการให้ตกหลุมพรางของคนร้าย 
    "ผมมาพบเห็นชาวพุทธและมุสลิมเดินทางมาร่วมงานไว้อาลัยพระสงฆ์ในครั้งนี้ รู้สึกดีใจถึงความรักใคร่ความสามัคคี แต่เหตุการณ์ร้ายต่างๆ จะมีกระบวนการบูรณาการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ และขอเป็นแรงใจให้พี่น้องประชาชนด้วย" พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
    นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งแก่ญาติของพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจ ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) และผู้นำศาสนา พร้อมพูดคุยกับนายแวอาแซ แวมามุ ประธานชมรมอิหม่าม อ.สุไหงปาดี และเป็นคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส โดย ผบ.ทบ.ได้ฝากดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ซึ่งที่ผ่านมาได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
    พล.อ.อภิรัชต์ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงพี่น้องประชาชน  ซึ่งคนร้ายก็ยังคงที่จะพยายามก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่อีก เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจชาวไทยพุทธ แต่ได้เห็นคนไทยพุทธและมุสลิมมาร่วมงาน ก็มั่นใจว่ายังมีความรักความสามัคคีไม่เสื่อมคลาย และยิ่งทำให้ในพื้นที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น 
    "เหตุที่เกิดขึ้นเราอย่าไปแก้ที่ปลายเหตุ แต่ต้องมีการปรับแผนบูรณาการกันทั้งระบบ ซึ่งเสร็จจากนี้ผมจะไปประชุมปรับแผนที่ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมืองนราธิวาส เพื่อรื้อฟื้นทั้งระบบ โดยจะสำรวจแต่ละพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร และประการสำคัญในส่วนของทหารนอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องความมั่นคงแล้ว เราจะรับสมัครทหารที่สมัครใจบวช เพื่อส่งมากระจายอยู่ตามวัดต่างๆ ดังที่เคยปฏิบัติกันมา เพื่อสร้างความอุ่นใจและมั่นใจของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ" พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
พลังมวลชนประณามโจร
    ที่บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส กลุ่มพลังมวลชนทั้งชายหญิงในจังหวัดนราธิวาส ได้รวมตัวกันเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงไปตามถนนภูผาภักดี มุ่งสู่หน้าหอนาฬิกา และสิ้นสุดที่บริเวณหน้าอำเภอเมืองนราธิวาส รวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร โดยได้ถือป้ายรณรงค์ข้อความให้ยุติการก่อเหตุความไม่สงบ อาทิ "นราสุขได้ ด้วยพวกเราช่วยกัน", "ชาวนราธิวาสต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ", "ขอความสันติสุขในพื้นที่", "อยากอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความสงบสุขเหมือนก่อน", "เราขอประณามในสิ่งที่พวกคุณกระทำ" เพื่อแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธีที่เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาสในช่วงที่ผ่านมา โดยมีนายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาสร่วมเดินกับพลังมวลชน 1,000 คนดังกล่าวนี้ด้วย 
    นอกจากนี้ ในพื้นที่รวม 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ต่างจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยมีพลังมวลชนรวมกว่า 13,000 คนในพื้นที่นราธิวาสที่มาร่วมแสดงออกต้านความรุนแรงในครั้งนี้
    เช่นบริเวณลานสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้มีตัวแทนพลังมวลชนทั้งไทยพุทธและมุสลิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 6 ตำบล จำนวนกว่า 2,000 คน ภายใต้การนำของนายต่วนฟาเอ๊ะ นิอาแซ ได้รวมตัวกันประณามและต่อต้านการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ใช้อาวุธปืนบุกยิงพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี พร้อมพระลูกวัดมรณภาพ 2 รูป และได้รับบาดเจ็บ 2 รูป  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา 
    โดยพลังมวลชนได้ถือป้ายข้อความเป็นภาษาไทย อาทิ "เราขออยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์", "หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์", "อิสลามเท่ากับสันติ", "ความรุนแรงหนูไม่เอา" เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านการกระทำที่เหี้ยมโหดของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้
    นายอภิชัย ยูโซะ ตัวแทนผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี กล่าวต่อหน้าพลังมวลชนว่า การกระทำของกลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่มีศาสนา ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนทำความดี ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้ จึงขอร่วมกันประณามการกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้
    นายต่วนฟาเอ๊ะ นิอาแซ ผู้นำกลุ่มพลังมวลชน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนตระหนักและเล็งเห็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องเตือนจิตใจ หากพบเห็นกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าไปเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน ต่อแต่นี้ไปเราต้องร่วมใจกันต่อต้านและขับไล่กลุ่มบุคคลให้ออกไปจากหมู่บ้าน เราจะไม่สนับสนุนการกระทำที่เลวร้าย 
    "พุทธและมุสลิมเราก็เป็นพี่น้องกัน มีอะไรเราต้องช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า และต้องร่วมใจกันสร้างสันติสุขให้กลับมาโดยเร็ว" ผู้นำกลุ่มพลังมวลชนกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพลังมวลชนจำนวนกว่า 2,000 คน ได้ร่วมกันถือป้ายข้อความเดินรณรงค์ไปตามถนนในเขตเทศบาล เพื่อเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมกันประณามและต่อต้านกลุ่มคนร้าย ที่ทุกคนต้องช่วยกันและถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองดีที่ต้องทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"