22 ม.ค.62 - เฟซบุ๊กแฟนเพจ พรรครวมพลังประชาชาติไทย - ACT Party  ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ข้อความระบุว่า

ธวัชชัย จรูญชาติ 
“พูดจริงทำจริง 
มุ่งมั่นจริงใจ 
รับใช้ประชาชน”

คนรุ่นใหม่ พร้อมกับปรัชญาและแนวทางการทำงานการเมืองแนวใหม่ ที่กล้าประกาศอย่างชัดเจนว่า “ถึงได้หรือไม่ได้เป็น ส.ส. ก็พร้อมทำงานยาวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาบ้านเรา”

“ธวัชชัย จรูญชาติ” หรือ “เบียร์” ปัจจุบันอายุ 34 ปี (เกิดเมื่อ 28 พฤษภาคม 2527) 

- จบปริญญาตรีด้าน “วิทยาศาสตร์เคมี จากมหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ” 

- จบปริญญาโทด้าน “เทคโนโลยีวิศวกรรม จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” 

- ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกอยู่ที่ “วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม (College of Social Innovation) 
มหาวิทยาลัยรังสิต หลักสูตร ผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง รุ่นที่ 9” โดยทำดุษฎีนิพนธ์ (dissertation) เกี่ยวกับเรื่อง “เกษตรปลอดภัย-เกษตรอินทรีย์”

ตัวเขาเองแม้จะถือว่าเป็น “หน้าใหม่” ทางการเมืองในระดับชาติอย่างลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็ถือว่า “ไม่ใหม่” ทางด้านประสบการณ์ทางการเมือง เพราะเขามีประสบการณ์ด้านการเมืองและสังคมที่หลากหลาย 

อาทิ 
- อดีตผู้ช่วยเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ท่านสุริยะใส กตะศิลา)
- อดีตคณะทำงานกลุ่มกรีน (Green Politics) ที่มีท่านสุริยะใส กตะศิลา เป็นผู้ประสานงาน
- เคยเป็น Co-Producer และ Producer รายการด้านการเมือง ทางทีวีผ่านดาวเทียมและวิทยุ
- เคยเป็นคณะทำงานและผู้ปราศรัย/ผู้จัดรายการบนเวที ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่นำโดยท่านอุทัย ยอดมณี และท่านทนายนิติธร ล้ำเหลือ
- เคยเป็นผู้ช่วยทนาย ท่านทนายนิติธร ล้ำเหลือ แห่งสำนักงานกฎหมาย KAT 
- เคยดำรงตำแหน่งเป็น เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการสื่อสารมวลชน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 

- ปัจจุบัน เป็นกรรมการบริหาร คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ซึ่งเป็น “องค์กรภาคประชาสังคม (Civil Society Organization)”

ด้วยความตั้งใจอยากจะกลับมาสร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาบ้านเกิดของเขาเอง ธวัชชัย จรูญชาติ จึงตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออาสาเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดเชียงราย เพื่อทำหน้าที่ต่อสู้และเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย

เขาอธิบายความตั้งใจในการทำงานของเขาเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “ผมตั้งใจที่จะทำงานยาว เพราะผมเชื่อว่าการเปลี่ยนใจคนเชียงรายบ้านผม ที่จำนวนไม่น้อยยังยึดติดกับตัวบุคคลบางคน คงต้องใช้เวลาในการเปลี่ยน และคงไม่มีสิ่งไหนที่จะใช้ในการเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดคนได้ดีที่สุดเท่ากับ การทำงานยาว มีความสม่ำเสมอ และใช้ผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมในการเปลี่ยนใจคน”

ด้วยความมั่งมั่นตั้งใจที่ต้องการทำงานในระยะยาว เขาจึงมีความต้องการที่จะเห็นการเกิดขึ้นของ “สาขาพรรคการเมือง” ของเขต 4 เชียงราย รวมทั้งเขตอื่นๆ ด้วย ซึ่งตามกฎหมายต้องหาสมาชิกสามัญของพรรคฯ ให้ได้เกิน 500 คน เพราะเขามีความเชื่อว่า การทำงานการเมืองในระยะยาวต้องมีองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถาวร เมื่อสาขาพรรคการเมืองเกิดขึ้น สาขาพรรคการเมืองนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือน “ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์” ที่จะคอยต่อสู้ เรียกร้องและเป็นปากเป็นเสียงให้สมาชิกและประชาชนในท้องถิ่นให้ได้รับความเป็นธรรม โดยมีการจัดจ้าง “ทนายความประจำสำนักงานสาขาพรรค” เพื่อเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับสมาชิก

นอกจากนี้ สาขาพรรคการเมืองยังจะทำหน้าที่ฝึกอบรมให้ความรู้ (educate) ให้กับสมาชิก เพื่อยกระดับองค์ความรู้และสร้างจิตสำนึกของสมาชิก เพื่อให้สมาชิกที่ถูกติดอาวุธทางปัญญาแล้ว สามารถไปขยายฐานของสมาชิกให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

เขาประกาศอย่างชัดเจนว่า เขาต้องการทำงานการเมืองแนวใหม่ โดยการทำงานพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และประกาศอย่างท้าทายว่า 

จะไม่ใช้เงินซื้อเสียงรายหัวแม้แต่บาทเดียว ทุกคะแนนที่เลือกเขาต้องเป็นคะแนนบริสุทธิ์ที่เกิดจากความเชื่อมั่นในตัวเขาและแนวทางการทำงานของเขาจริงๆ จะได้กี่คะแนนไม่เป็นไร ถึงได้หรือไม่ได้เป็น ส.ส. ก็พร้อมทำงานต่อ ทำงานยาว

เส้นทางเดินที่เขาได้เลือกแล้วที่จะอุทิศตนเพื่อพัฒนาบ้านเกิด พร้อมกับปรัชญาและแนวทางการทำงานของเขา จะได้รับการตอบรับและเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชนชาวเขต 4 จังหวัดเชียงราย มากน้อยเพียงไร หลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ คงทราบคำตอบ!

#คนธรรมดาสร้างชาติ 

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 (4 อำเภอ: ป่าแดด-เทิง-เวียงชัย-เวียงเชียงรุ้ง) เชียงราย

#คนธรรมดาสร้างชาติ

หมายเหตุ : ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ประกอบด้วย
เขต 1 นางธนัฏธมน จันตุ้ย
เขต 2 นายสิทธิ์วโรจน์ สีสิงห์
เขต 3 นายภควัต บัวอินทร์
เขต 4 นาย ธวัชชัย จรูญชาติ
เขต 5 นาย ม้วน ชัยราช
เขต 6 นาย อ่อนจันทร์ ปิตตาสังข์ 
เขต 7 นางวันดี ศรีจันทร์