(อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย)

      หากใครเป็นคนชื่นชมอารยธรรมขอมโบราณที่ยังคงทิ้งร่องรอยให้เราเห็นตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในแถบจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดนครราชสีมา หรือโคราช อันเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ไม่ควรพลาดไปชมงานการแสดงแสง-เสียง “Mini Light & Sound พิมาย” ประจำปี 2562 บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมถือโอกาสสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมาไปด้วยพร้อมๆ กัน

      นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เทศบาลตำบลพิมาย โรงเรียนพิมายวิทยา กำหนดจัดการแสดงแสง-เสียง “Mini Light & Sound พิมาย” ประจำปี 2562 ขึ้น ในวันเสาร์ที่ 26 มกราคม และวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ระหว่างเวลา 16.00-20.00 น. บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

(การแสดงแสง-เสียง พิมาย ปีที่ผ่านมา)

      สำหรับ การแสดงแสง-เสียง Mini Light & Sound พิมาย เป็นการแสดงประกอบแสงเสียงสื่อผสมที่จินตนาการจากเรื่องราวของภาพจำหลักในปราสาทหินพิมายออกมาเป็นนาฏลีลาที่อ่อนช้อยสวยงาม ชื่อชุด “วิมายะนาฏการ” บอกเล่าถึงเรื่องราวความเจริญรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีตกาลของเมืองพิมาย และอารยธรรมขอมโบราณใน “ปราสาทหินพิมาย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชมโบราณสถาน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ เส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

กิจกรรมภายในงานมีตั้งแต่การต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยพานบายศรี ผูกข้อมือต้อนรับโดยผู้เฒ่าผู้แก่ชาวพิมายตามประเพณีอีสาน กิจกรรมตลาดย้อนยุค “พิมายพันปี” พร้อมช็อป ชิมอาหารขึ้นชื่อของอำเภอพิมาย กิจกรรมนำชมปราสาทหินพิมายชมความสวยงามของศาสนสถานสมัยอาณาจักรขอมโบราณภายในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โดยยุวมัคคุเทศก์จากโรงเรียนพิมายวิทยา การแสดงดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยพื้นบ้าน จากนั้นนำชมสุดยอดการแสดงประกอบแสง-เสียง ชุด “วิมายะนาฏการ” เริ่มต้นจากฉากสร้างปราสาทหินพิมาย รำมวยโบราณ รำดึงครกดึงสาก รำตั๊กแตน ลาวกระทบไม้ ขบวนแห่พระพุทธบูชา และระบำพิมายปุระ ศรีวิเรนทร โดยนักแสดงจากโรงเรียนพิมายวิทยา และวิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา

ทั้งนี้ การแสดงดังกล่าวเปิดให้เข้าชมฟรี! ติดต่อจองรอบเข้าชมการแสดงได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา

      ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวต่อว่า นอกจากงานแสดงแสง-เสียงแล้ว มาเมืองโคราชทั้งทีไม่ควรพลาดการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่สามารถเดินทางมาได้ทุกวันและตลอดทั้งปี เริ่มต้นจาก "ไหว้ย่าโม" ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนี้ ซึ่งคนส่วนมากมักจะไปขอพรและบนบานศาลกล่าว แล้วจะแก้บนด้วยเพลงพื้นเมืองอย่างเพลงโคราช

      “แต่ทีเด็ดของที่นี่ และต้องลองสักครั้ง คือ การลอดซุ้มประตูชุมพล ที่จะต้องวนไปข้างหลังเพื่อลอดซุ้ม ซึ่งมีความเชื่อตกทอดกันมาว่า หากลอด 1 ครั้ง จะได้กลับมาโคราช หากลอด 2 ครั้ง จะได้มาทำงานหรือมาอยู่ที่โคราช และหากใครลอดครบ 3 ครั้งนั้นจะมีคู่ครองเป็นคนโคราช ผลเป็นยังไงไม่รู้ อยากท้าพิสูจน์ต้องลองมาลอดซุ้มเอง” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าว

      จากนั้นต่อด้วย "วัดบ้านไร่" ที่ยิ่งใหญ่อลังการ สวยงามตระการตา อันเกิดจากความเคารพศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนมีต่อ "หลวงพ่อคูณ" จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ที่นักท่องเที่ยวยังคงไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ

      ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ เช่น พระอุโบสถ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบลวดลายสวยงาม, หอเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (อาคารปริสุทธปัญญา) เป็นอาคารประติมากรรมช้าง (Elephant Temple Thailand) สร้างไว้กลางน้ำ ชั้นดาดฟ้ามีรูปปั้นพระพุทธเจ้าปางลีลา และหลวงพ่อคูณ รอบอาคารเป็นภาพเขียนสีบนกระเบื้อง ภายในมีภาพเขียนปริศนาธรรม หอเทพวิทยาคมนี้ประกอบขึ้นด้วยโมเสกมากกว่า 20 ล้านชิ้น และมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณจัดแสดงเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ และพญานาค 7 เศียร อยู่กลางน้ำ

ในบริเวณใกล้เคียงยังมีทุ่งกังหันลมไฟฟ้าห้วยบง ตั้งอยู่ในอำเภอด่านขุนทดและอำเภอเทพารักษ์ เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย มีกังหันลมทั้งหมด 90 ต้น ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา

(น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)

      สำหรับคนที่ชื่นชอบแนวธรรมชาติ ช่วงปลายหนาวยังไปสัมผัสอากาศเย็นได้ที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง อาทิ ใน "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" มีน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก กิจกรรมส่องชีวิตสัตว์ยามค่ำคืน ฯลฯ นอกจากเส้นเขาใหญ่จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังมีทั้งร้านอาหารและร้านคาเฟ่ให้เราได้พักผ่อนชิลๆ ระหว่างเดินทางอีกด้วย มีทุกสไตล์ เลือกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายคนชอบถ่ายรูปหรือสายกินก็ตาม

คนที่ต้องการพักค้างคืน "เขายายเที่ยง" อำเภอสีคิ้ว เป็นอีกทางเลือก ขับรถจากตัวเมืองแค่นิดเดียวก็ถึงแล้ว ซึ่งบนเขายายเที่ยงจะมีร้านอาหาร รีสอร์ต ให้นักท่องเที่ยวที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวใหม่ๆ สามารถชมวิวบนอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา และในช่วงนี้หรือในตอนเย็นอากาศด้านบนจะเย็นสบาย ถ้าชอบความสงบ ชมวิวบนเขาแบบสบายๆ ก็สามารถทำได้

(วิวมุมสูงที่วังน้ำเขียว)

      ส่วนคนที่ชอบอากาศบริสุทธิ์อาจเลยไปที่ "วังน้ำเขียว" ด้วยบรรยากาศที่เย็นสบายไม่ต่างจากดินแดนทางภาคเหนือ โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือถ้าเป็นคนรักสุขภาพต้องถูกใจ เพราะเป็นแหล่งผักอินทรีย์ รวมถึงผลไม้สดๆ จากไร่ พร้อมเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง

(เดอะลิตเติ้ลการ์เด้น วังน้ำเขียว)

      โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ "เดอะลิตเติ้ลการ์เด้น วังน้ำเขียว" เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิถีชีวิตแบบธรรมชาติ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นแหล่งเรียนรู้นวัตกรรมทางการเกษตรสมัยใหม่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่ มีสวนผักผลไม้ต่างๆ เช่น ข้าวโพด น้ำเต้า มะเขือเทศเชอรี่ ฟักทอง สวนไม้ดอกสีรุ้ง สวนอูฐประดับ สวนผีเสื้อประดับ สวนนกกระจอกเทศประดับ และสวนเห็ดประดับ ซึ่งที่นี่ได้นำผลิตภัณฑ์จากสวนมาแปรรูปเป็นอาหารและขนมให้เลือกทาน หรือซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้

      รวมทั้งมีนวัตกรรมสิ่งปลูกสร้าง เช่น ปราสาทข้าวโพดและดอกไม้ โดยเฉพาะข้าวโพดเป็นพืชไร่เศรษฐกิจอันดับ 1 ของอำเภอวังน้ำเขียว อีกทั้งยังมีการจัดแสดงวิธีปลูกมะเขือเทศเชอรี่ในโรงเรือน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ โดยใช้โซลาร์เซลล์ พลังงานจากธรรมชาติในการให้น้ำและปุ๋ยด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ทางด้านการเกษตรแก่นักเรียนและนักท่องเที่ยวผู้สนใจทั่วไป สำหรับเดอะลิตเติ้ลการ์เด้น วังน้ำเขียว ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 304 หลักกิโลเมตรที่ 228 อำเภอวังน้ำเขียว โทร. 08-1966-4152 หรือ Line@: @TheLittleGarden304

      "มาเที่ยวเมืองโคราชเรียกว่าคุ้มค่าและไม่ไกลกรุงเทพฯ เพราะนอกจากได้ดื่มด่ำอารยธรรมขอมโบราณผ่านการแสดงแสง-เสียง Mini Light & Sound พิมาย รวมทั้งสัมผัสลมหนาวสุดท้ายและรับอากาศบริสุทธิ์ในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราชเพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตต้อนรับปีกุน รับรองสุขภาพแข็งแรง โชคดีตลอดปีแน่นอน และโคราชยังเป็นเมืองที่เดินทางมาเที่ยวได้ทุกวันโดยไม่ต้องรอเทศกาล" ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวทิ้งท้าย

        สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0-4421-3030, 0-4421-3666 Facebook Fanpage: ททท. สำนักงานนครราชสีมา.