สั่งขุดลึก!รร.เอกชนปทุมฯ รับเด็กนอกบัญชี1,000คน อ้างสิทธิ์ รธน. ทำได้


เพิ่มเพื่อน    

 

22ม.ค.62-โรงเรียนเอกชนปทุมธานี รับนักเรียนนอกบัญชี ดิ้นฟ้องศาลปกครอง ระงับคำสั่งศธจ.ปทุมฯ อ้างรัฐธรรมนูญปี60 เปิดช่องให้ทำได้   "ชลำ" เผยพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล ทำสมุดทะเบียนเด็ก2เล่ม กลุ่มนอกบัญชีมีถึง1,000 คน  ยังไม่นับนักเรียนที่่อยู่ในระบบปกติ ทั้งที่ได้รับอนุญาติรับเด็กได้ไม่เกิน 900คน  ล่าสุด สช.ประสานศธจ.ปทุมฯ สอบสวนลงลึก คาด 1เดือนรู้ผล

 

นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า ตามที่มีข้อชี้แจงจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เรื่องการจัดการเรียนการสอนในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ ได้รายงานให้ตนรับทราบว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนดังกล่าว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 1 เดือนก็น่าจะสามารถสรุปผลได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ดังนั้นตนจะขอความร่วมมือไปยังศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ปทุมธานี ให้เร่งรัดการสอบสวนในครั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อน 30 วันได้ ก็จะชี้แจงให้สังคมรับทราบต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจมาก เพราะถือว่ามีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ดังนั้นทาง ศธจ.ปทุมธานี คงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็ว

 

นายชลำ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่โรงเรียนดังกล่าวอ้างว่าการจัดทำบัญชีรายชื่อทะเบียนนักเรียน แยกออกไว้ 2 เล่ม เนื่องจาก ต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่านักเรียนกลุ่มใดขอรับเงินอุดหนุนตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี จากรัฐบาล และนักเรียนกลุ่มใดไม่รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้วไม่ว่าจะขอรับหรือไม่ขอรับเงินอุดหนุน โรงเรียนเอกชนก็ต้องมีการลงทะเบียนรายชื่อนักเรียน เพียงเล่มเดียว และต้องมีการเรียงลำดับการเข้าเรียนที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนที่ไม่ขอรับเงินอุดหนุนก็ถือปฏิบัติเช่นนี้โดยตลอด ดังนั้น หากโรงเรียนจะอ้างเพื่อความชัดเจนและมาแยกรายชื่อของนักเรียนคนละเล่มคงไม่ได้  ส่วนกรณีที่โรงเรียนอ้างว่ามีการฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อขอทุเลาคำสั่งทางปกครองกรณีที่ ศธจ.ปทุมธานี  มีคำสั่งให้โรงเรียนหยุดรับนักเรียนในโครงการดังกล่าวนั้น  เรื่องนี้เนื่องจากศาลปกครองกลางยังไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หรือมีคำสั่งให้ทุเลาคำสั่งทางปกครอง ดังนั้น  ระหว่างนี้โรงเรียนดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของ ศธจ.ปทุมธานี หากฝ่าฝืนก็ถือว่าไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงาน

 

เลขาธิการสช.กล่าวอีกว่า แม้ว่าโรงเรียนเอกชนแห่งนี้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญปี.2560 ว่าสามารถเปิดช่องให้โรงเรียนดำเนินการรับเด็กเข้ามาเรียนในโครงการดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  โรงเรียนก็จำเป็นต้องขออนุญาตจาก ศธจ.ปทุมธานี ก่อน และเท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีการอนุญาตให้โรงเรียนดำเนินการโครงการนี้มาก่อน   แต่การที่โรงเรียนมาเปิดสอนเช่นนี้ ถือเป็นการละเมิดคำสั่งของเจ้าพนักงาน และหากกลับไปมองในแง่ของการออกใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษา ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ก็เห็นชัดเจนว่า โรงเรียนได้รับอนุญาตให้จัดการเรียนการสอนในระบบ แต่โครงการดังกล่าวของโรงเรียนกลับมีลักษณะเป็นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนอกระบบหรือตามอัธยาศัย และที่สำคัญโรงเรียนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้รับนักเรียนได้ไม่เกิน 900 คน แต่เท่าที่ทราบขณะนี้โรงเรียนมีการรับเด็กเฉพาะในโครงการดังกล่าวกว่า 1,000 คน  แถมยังมีการรับเด็กในระบบปกติอีกด้วย ถือว่าเกินกว่าจำนวนที่ได้รับอนุญาต แค่นี้ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติตามใบอนุญาตที่ได้รับแล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"