'งด' เท่ากับ 'งอน' ย้อนรอย 'ลุงป้อม' ไม่โอเค  


เพิ่มเพื่อน    

      นับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พลั้งปากหยอกนักข่าวกลางวงสัมภาษณ์ ถึงสาเหตุที่กลุ่มติดอาวุธอัลชาบับจากโซมาเลียก่อเหตุโจมตีโรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ในเครือของดุสิตธานีว่า

       “คงเห็นอาหารอร่อย”

      ทำให้เกิดประเด็นดรามาในโลกโซเชียลมีเดีย โจมตี “บิ๊กป้อม” กันอย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสมของคนที่คุมหน่วยงานด้านความมั่นคง

      เรื่อยไปถึงประเด็น “ชาวเคนยา” ไม่พอใจต่อท่าทีของรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมของไทย จนประกาศแบนการท่องเที่ยว คล้ายกับที่ชาวจีนเคยทำเมื่อครั้งไม่พอใจคำพูดของ “บิ๊กป้อม” ต่อประเด็นเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ จ.ภูเก็ต

      จนถึงขณะนี้ 5 วันแล้ว ที่ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” ไม่ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวอีกเลย ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ อันมาจากสาเหตุที่สื่อนำคำพูด “หยอกล้อ” ของตัวเองไปตีแผ่สู่สาธารณะ

      1 ในทีมงานข้างกาย “บิ๊กป้อม” ระบุว่า พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เสียความรู้สึกต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะที่พูดเล่นแบบนั้น เนื่องจากเห็นว่ามีแต่นักข่าวที่สนิทสนม เห็นหน้าค่าตากันเป็นประจำ แยกแยะออกว่า คำพูดไหน “จริง” คำพูดไหน “เล่น”

      แต่เมื่อมีการนำคำพูดดังกล่าวออกไปเผยแพร่ เท่ากับทำลายความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แม้จะมีคำอธิบายจากฝั่งนักข่าวแล้วว่า ถึงจะเป็นการพูดเล่น แต่การพูดเล่นของ “บิ๊กป้อม” ปรากฏกลางวงสัมภาษณ์ ที่มีกล้องบันทึกภาพจากหลายสำนัก ไม่ใช่ลักษณะการคุยกันเอง จึงยากที่จะควบคุม

      ขณะที่ตั้งแต่เกิดเรื่องเป็นต้นมา ทุกๆ วัน นักข่าวพยายามสอบถามในหลายประเด็น แต่ได้คำตอบจาก “บิ๊กป้อม” เพียงแค่รอยยิ้มและสีหน้าที่เรียบเฉย

      หากย้อนดู “อาการงอน” ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “บิ๊กป้อม” แสดงออกผ่านการ “งดสัมภาษณ์”

      โดยย้อนกลับไปในช่วงเกิดประเด็นนาฬิกาหรูและแหวนเพชร ก็เกิดเรื่องลักษณะนี้มาแล้ว

      ภายหลัง “บิ๊กป้อม” ยกมือป้องแสงแดดที่แยงเข้าตาในวันถ่ายรูป “คณะรัฐมนตรีชุดใหม่” เมื่อปลายปี 2560 เจ้าตัวไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนถ่ายภาพและนำเอาทรัพย์สินดังกล่าวไปตรวจสอบ

      ตอนเกิดเรื่องครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 “บิ๊กป้อม” ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าจะชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอง พร้อมปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ โดยให้นักข่าวถามเรื่องอื่น

      ทว่า ด้วยความที่เป็นประเด็นร้อนแรง ทำให้นักข่าวจำเป็นต้องจี้ถาม “บิ๊กป้อม” ทุกครั้งที่ปรากฏตัว แต่กลับไม่เคยได้คำตอบ โดยขณะนั้น “บิ๊กป้อม” งดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนยาวนานเกิน 1 สัปดาห์

       “บิ๊กป้อม” กลับมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งในเรื่องอื่น ส่วนประเด็นเรื่องนาฬิกาหรูนั้น ไม่เคยให้สัมภาษณ์ใดๆ นับตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2560 และพูดกับนักข่าวเสมอก่อนจะสัมภาษณ์

       “หากเป็นคำถามเรื่องเดิมผมไม่ขอตอบอีก”

      จนกระทั่งวันที่ 16 มกราคม 2561 “บิ๊กป้อม” ถึงจะยอมเปิดปากประเด็นนาฬิกาว่า เป็นนาฬิกาของเพื่อน รวมแล้วยาวนานถึง 41 วัน  

      แต่การพูดครั้งนั้นก็ยังไม่ได้ทำให้เรื่องจบ นาฬิกาเรือนแล้วเรือนเล่ายังคงถูกตีแผ่ ทำให้นักข่าวต้องไปหมั่นสอบถามอยู่เรื่อยๆ จนที่สุด “บิ๊กป้อม” งดสัมภาษณ์สื่อไปหลายวันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561

      หรือย้อนกลับไปปลายปี 2559 ช่วงที่มีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีข่าวลือหนาหูออกมาว่า “บิ๊กป้อม” จะถูกดึงเก้าอี้ รมว.กลาโหมคืน เหลือเพียงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเก้าอี้เดียวบ้าง ถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีบ้าง หรือจะลาออกบ้าง ทำให้ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” แสดงความไม่พอใจอย่างมาก และไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึง 3 วัน      

      กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำระหว่าง “บิ๊กป้อม” กับ “นักข่าว” ไปแล้ว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาเพียงไม่กี่วันก็กลับมาให้สัมภาษณ์เหมือนเดิม  

       แต่ครั้งนี้ล่วงเลยมาพอสมควร ต้องดูว่า “บิ๊กป้อม” จะงดให้สัมภาษณ์ยาวนานขนาดไหน เพราะเหมือนว่า หนนี้ทั้ง “บิ๊กป้อม” และ “คณะทำงาน” ค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องที่เกิดขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"