'จิตอาสา'รวมใจ บิ๊กคลีนนิ่งลดฝุ่น เส้นBikeอุ่นไอรัก


เพิ่มเพื่อน    


    ทหาร-ตร.-จิตอาสาร่วมบิ๊กคลีนนิ่งทั่วกรุงลดฝุ่นพิษ เส้นทาง Bike อุ่นไอรัก-จุดก่อสร้างรถไฟฟ้า กรมอุตุฯ ชี้อากาศปิดลมเบาค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น นักวิชาการประเมินถ้ายืดเยื้อเกิน 2 เดือน เสียหาย 5.5 พันล้าน 
    ที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 20 มกราคม เวลา 08.00 น. พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ 904 เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำดีด้วยหัวใจ Big Cleaning งานอุ่นไอรัก” โดยเป็นการร่วมกันพัฒนาความสะอาดเพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศบริเวณกรุงเทพฯ มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 5 จุดประกอบด้วย พื้นที่เขตดุสิต สนามม้านางเลิ้ง วงเวียนใหญ่ เขตจอมทอง และโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในส่วนจังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวน 2 แห่ง ชื่อสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ และตลาดพระประแดงอาเขต    
    พล.ร.อ.ปวิตรกล่าวว่า นอกจากการพัฒนาความสะอาดบริเวณพื้นที่จัดงาน “อุ่นไอรัก” และเส้นทางกิจกรรม Bike อุ่นไอรักแล้ว ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต กทม. ยังได้มอบหมายให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตพื้นที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล้างทำความสะอาดพื้นผิวจราจรโดยรอบเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกด้วย
    ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร ปล่อยแถว "จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ บรรเทาผลกระทบจากฝุ่นละอองในอากาศ" โดยการฉีดน้ำล้างค่าฝุ่นละออง 4 จุดหลัก ในพื้นที่ กทม. ประกอบด้วย 1.ถนนแจ้งวัฒนะ หน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 2.ถนนลาดพร้าว แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว 3.ถนนรามคำแหง ฟู้ดแลนด์ใกล้แยกรามคำแหง และ 4.บนทางด่วน บริเวณรอยต่อทางด่วนโทลล์เวย์ดินแดง 
    กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เมื่อเวลา 15.00 น. ว่าจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ในช่วงบ่าย อากาศลอยตัวไม่ดี มีสภาพอากาศปิด ลมสงบ ความเร็วลมส่วนใหญ่ต่ำกว่า 2กม./ชม. ไม่มีฝน ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM 2.5 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 
    โดยข้อมูลจากสถานีวัดคุณภาพอากาศของ คพ.และ กทม. บริเวณพื้นที่ริมถนน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) 6 สถานี พื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐานอยู่ 9 สถานี 
    คาดการณ์ในวันที่ 21 ม.ค. จากการพยากรณ์ และแบบจำลอง ของกรมอุตุนิยมวิทยา "การลอยตัวของอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ลมยังเบา มีมวลอากาศสะสมอยู่มาก" ส่งผลทำให้ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อาจเพิ่มสูงขึ้น คพ.ได้ประสานงานกับ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กรมการขนส่งทางบก กองทัพ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงคมนาคม และผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล ทั้ง 5 จังหวัด ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง เช่น บก.จร. เพิ่มจำนวนจุดตรวจวัดรถยนต์ควันดำเป็น 20 จุด กทม. กวาดล้างถนนอย่างเข้มงวดทุกวัน พร้อมทั้งจัดอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง 
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะเกิดฝนตกในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลได้ในช่วงหัวค่ำ  แต่หากฝนไม่ตก เจ้าหน้าที่ด้านอื่นๆ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มข้นต่อไป ทั้งการควบคุมรถควันดำและฝุ่นจากการก่อสร้าง และห้ามไม่ให้เผาในที่โล่ง เป็นต้น โดยนายกฯ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเหมาะสม เพื่อดูแลสุขภาพของตนเองให้ปลอดภัย
    ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากรัฐบาลปล่อยให้ปัญหามลพิษทางอากาศยืดเยื้อไปเกินกว่า 2 เดือน จะทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตรุนแรงมากขึ้น ในส่วนของผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น อาจสร้างความเสียหายได้มากถึง 5,500 ล้านบาท จากการชะลอตัวลงของการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การชะลอตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลางแจ้งและโครงการก่อสร้างต่างๆ      ค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ค่าเสียโอกาสจากประเด็นทางด้านสุขภาพ 
    นอกจากนี้ ผู้มีรายได้น้อยและคนจนในกรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนงานก่อสร้าง พ่อค้าแม่ค้าริมถนน หรือผู้ที่ทำงานกลางแจ้งในพื้นที่มลพิษเข้มข้นสูง ตำรวจจราจร พนักงานเก็บขยะ พนักงานทำความสะอาดถนน พนักงานขับรถสาธารณะและกระเป๋ารถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งไม่มีเครื่องป้องกันผลกระทบจากมลพิษทางอากาศและมีสุขภาพย่ำแย่ลง โดยเฉพาะมีวิจัยชี้ว่า ตำรวจจราจรและกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ปฏิบัติงานริมถนนในกรุงเทพฯ มีอายุขัยเฉลี่ยลดลง รวมถึงผู้ที่ต้องเผชิญการจราจรติดขัดที่ต้องอยู่บนท้องถนนเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น   
    พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูง ตำรวจจราจร พนักงานทำความสะอาดถนน คนขับรถรับจ้างประเภทรถตุ๊กๆ และจักรยานยนต์ เป็นผู้ที่สัมผัสฝุ่นละอองตลอดเวลา รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารตามแผงลอยบนบาทวิถีนั้น มีความเสี่ยงที่จะได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน นอกจากนี้ การจำหน่ายอาหารบนบาทวิถีบางจุดเป็นสถานที่ที่มีควันรถ ฝุ่นละอองจากถนน การเตรียมปรุงประกอบอาหารไม่มีที่กำบังเพียงพอ ทำให้อาหารในร้านเสี่ยงต่อการปนเปื้อนฝุ่นหรือควันจากท่อไอเสียรถยนต์. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"