เขี่ย'ปูซัวเถา'พ้นปธ. ยิ่งลักษณ์โอดช้ำมาเยอะ/ทษช.ทาบโกร่ง


เพิ่มเพื่อน    


    "หน่อย" อยู่เป็น เล่นหน้าฉาก ไม่กล้าหือตระกูลชินวัตร พร้อมหลีกทางชัชชาติชิงนายกฯ "ปู" รีบแจงไม่เกี่ยววางแผนสกัดสุดารัตน์ ลือไทยรักษาชาติทาบ ดร.โกร่ง อดีตหัวหน้าทีม ศก.ยุคป๋าเปรมร่วมโผ 3 ชื่อ นายกฯ พรรคเพื่อไทย ประชาธิปไตยแต่เปลือก โวยเผด็จการ ดันเด็กเจ๊ลงส.ส.กทม. ถีบส่ง "ลีลาวดี-ค่ายธรรมกาย" ยิ่งลักษณ์ หลบฉาก ไม่นั่งประธานบริษัทท่าเรือที่ซัวเถา
    ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่องการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเครือข่ายเพื่อไทย ที่เริ่มมีกระแสข่าวความขัดแย้งในระดับแกนนำพรรคเรื่องการผลักดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขณะที่พรรคเครือข่ายอย่างพรรคไทยรักษาชาติ ก็มีกระแสข่าวจะมีการทาบทาม ดร.วีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง อดีตทีมเศรษฐกิจรัฐบาลบ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้าร่วมงาน 
    แหล่งข่าวจากพรรคไทยรักษาชาติเปิดเผยว่า ในส่วนของบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ได้ 2 แคนดิเดตของพรรคแน่นอนแล้ว ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายวีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมา ดร.โกร่งได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร ก็เคยทาบทาม ดร.วีรพงษ์ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอนปี 2551 แต่นายวีรพงษ์ได้ปฏิเสธไปเพราะมีสัญญาณจากบ้านสี่เสาเทเวศร์ไม่เห็นด้วย ทำให้นายทักษิณไปดึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย มาทำหน้าที่แทน อีกทั้งก่อนหน้านี้นายวีรพงษ์ก็เคยไปช่วยงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว ด้วยการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. หลังประเทศผ่านพ้นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ขณะที่อีกหนึ่งรายชื่อมีความเป็นไปได้สูงจะเป็นของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค เพื่อตอบโจทย์ตามสโลแกนของพรรค โลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน ที่เน้นภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ 
    ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยหลังมีกระแสข่าวกลุ่มตระกูลชินวัตร ที่มีบทบาทในพรรคเพื่อไทยและไทยรักษาชาติ โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งสัญญาณไม่หนุนหลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง หากเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง โดยจะหนุนนายชัชชาติแทน
    ข่าวดังกล่าวทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีข่าวว่าผลักดันให้นายชัชชาติเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้สื่อสารผ่านทวิตเตอร์ทันทีว่า "ตามที่มีข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าดิฉันสนับสนุนและเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ดิฉันขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องกิจการของพรรคที่ต้องไปคัดสรรผู้เหมาะสมกันเอง และปัจจุบันดิฉันก็มีงานอื่นที่ต้องทำและรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสิ่งที่ดิฉันได้รับในอดีตที่ผ่านมาก็ถูกกระทำเจ็บช้ำมากพอแล้วค่ะ"
    ด้าน    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวสนับสนุนนายชัชชาติ ไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีปัญหากัน นายชัชชาติมีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเป็นผู้จัดการทีม คอยวางแผน หรือ เจเนรัลเบ๊ ทำทุกเรื่อง ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี จะชัดเจนต่อเมื่อมีการกำหนดวันเลือกตั้งออกมา 
    ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีข่าวไม่ลงรอยกับคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกรณีนายชัชชาติจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยว่า "เป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคที่จะพิจารณาว่าคนใดเหมาะเป็นเบอร์ 1, 2, 3 เพราะผมไม่มีตำแหน่งในพรรค หากผู้ใหญ่ตัดสินใจมาอย่างไรทุกคนก็ต้องยอมรับ"
    เช่นเดียวกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ที่ว่ามีอดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้สนับสนุนและชี้นำนั้น เป็นการแสดงนัยซ่อนเร้นทางการเมืองเพื่อให้เกิดเงื่อนไขการโต้แย้งอันนำไปสู่การสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่มีความเป็นจริงแต่อย่างใด เป็นการแสดงถึงความพยายามที่จะกล่าวหาว่าพรรคถูกครอบงำและนำไปสู่ข้อกล่าวหาเรื่องการยุบพรรคในที่สุด การสื่อสารข้อมูลดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อทำให้เกิดความสับสน แตกแยก และใช้เป็นประเด็นยั่วยุในการทำลายพรรคการเมืองที่อยู่คนละฝ่าย รวมทั้งถือเป็นการเสี้ยมเพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดการแตกแยกในพรรคเพื่อไทย 
    "บุคลากรในทีมเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญในระดับแนวหน้าของการเมืองไทย ที่มากประสบการณ์ และมีความสามารถที่หลากหลายในงานการเมืองและการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน มีคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตนักบริหารมืออาชีพจากองค์การเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย รวมทั้งยังมีบุคลากรที่เป็นทีมงานมืออาชีพอีกหลายท่าน แม้ว่าปัจจุบันจะมีกลุ่มผู้มีอำนาจบางคนและกลุ่มบุคคลบางฝ่าย พยายามที่จะเสี้ยมหรือสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพื่อไทย ไม่เชื่อว่าความพยายามดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ" เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าว
โผ กทม.เพื่อไทยป่วน 
    ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ในการเตรียมความพร้อมผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. 30 เขต ใกล้แล้วเสร็จ เป็นส่วนผสมของทั้งคนรุ่นใหม่ทางการเมือง ที่ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน และอดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิม นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงผู้สมัครอย่างค้านสายตา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มสมาชิกภาค กทม. เช่น ในเขตเลือกตั้งที่ 7 ดุสิต (เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี) เขตบางซื่อ ที่เป็นพื้นที่เดิมของ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับถูกผู้มีอำนาจในพรรคบางคนทุบโต๊ะดันให้คนสนิทของตัวเองคือ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ถือเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองให้ลงสมัครแทน แล้วโยก น.ส.ลีลาวดีให้ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) ซึ่งจะต้องเจอกับอดีต ส.ส.พื้นที่เดิมในพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีฐานเสียงแข็งแกร่งมาก
    “แม้จะมีคำชี้แจงจากแกนนำพรรคบางคนตามมาว่าเป็นเพราะผลโพลภายในที่ทำออกมาแล้วเขต 1 รอบนี้ เพื่อไทยมีโอกาสชนะคู่แข่งขันเดิมจากประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนกลุ่ม กทม. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรจะให้เกียรติคนในพื้นที่เดิมก่อน เขตดุสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ทหาร น.ส.ลีลาวดีไปสร้างฐาน จนผลักดันให้ตัวเองและทางพรรคได้มีที่นั่งใน กทม. การทำเช่นนี้ ทุบโต๊ะเอาคนตัวเองมาลง ไม่ถูกต้อง เท่ากับผลักอดีต ส.ส.เดิมไปสอบตก แล้วให้คนตัวเอง ที่ไม่เคยมีความนิยมทางการเมืองเลย มาคว้าโอกาสที่จะได้เป็น ส.ส. เพราะเจ้าของพื้นที่เดิมสร้างเอาไว้ให้มานาน ส่วน น.ส.ลีลาวดีนั้น แม้จะไม่เห็นด้วย ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกทุบโต๊ะ มีรายการคุณขอมา” รายงานข่าวระบุ
    รายงานข่าวเผยอีกว่า ในการเลือกตั้ง กทม. 30 เขต ภาค กทม.พรรคเพื่อไทยมีการวางยุทธศาสตร์ไว้ 2 สูตร คือเพื่อไทยส่งครบทั้ง 30 เขต เพื่อป้องกันข้อครหา ฮั้วกันทางการเมืองกับพรรคในซีกฝ่ายประชาธิปไตย อย่างพรรคไทยรักษาชาติ และสูตร 2เพื่อไทยจะส่งผู้สมัครเพียง 22 เขต ที่หวังผลได้ จากการทำโพลภายใน โดยปล่อยให้พรรคพันธมิตรอย่าง ไทยรักษาชาติ ส่งผู้สมัคร 8 เขต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่มีโอกาสสอบตกสูง แต่ต้องส่งไปเพื่อเก็บคะแนนรวม เพื่อนำมาคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 
    อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจภายในพื้นที่ กทม. พบว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าคนตื่นตัวต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก ประกอบกับอดีต ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงพบปะพื้นที่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้ทางพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มากถึง 12-15 ที่นั่งใน กทม. สูงกว่าในการเลือกตั้ง 2554 ที่ได้มา 10 ที่นั่ง
"ปู"ไม่ตกเป็นเป้า หลบนั่งปธ.บ.ท่าเรือ
    ด้านความเคลื่อนไหวอื่นๆ จากกรณีหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงนำเสนอข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาในการจดทะเบียนเป็นกรรมการเพียงผู้เดียวของ พี.ที. คอร์ปอเรชั่น (P.T. Corporation Company) บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อ 24 ส.ค.2560 หรือเกือบหนึ่งปี หลังจากหนีออกจากไทยก่อนคำตัดสินคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ซ่านโถว (อ่านแบบจีนแต้จิ๋ว คือ ซัวเถา) อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ (Shantou International Container Terminals) หรือ SICT ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งของจีนด้วยนั้น 
    ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เผยแพร่ข่าวว่า ได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวในฮ่องกง ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์บริษัท ซ่านโถว ได้เผยแพร่ข้อมูลการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการใหม่ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นชาวจีนที่ชื่อว่า เฉิน อุยตง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2561 นับรวมระยะเวลาไม่ถึงเดือน
    อนึ่งก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิง โพสต์ในฮ่องกง ระบุในรายงานข่าวว่า บริษัท พี.ที. คอร์ปอเรชั่นฯ ได้เปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2561 ซึ่งเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีการถูกดำเนินคดีจำนำข้าวไปยังประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตาม ทางการกัมพูชาได้ออกมาปฏิเสธเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ถือครองหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาแล้ว แต่ข้อมูลเอกสารดังกล่าวนั้นกลับแสดงข้อมูลที่ขัดแย้งกับคำชี้แจงของรัฐบาลกัมพูชาโดยสิ้นเชิง
    ข่าวชิ้นนี้ยังระบุว่า เอกสารในการเข้าบริหารบริษัทดังกล่าวถือเป็นหลักฐานอย่างเป็นทางการชิ้นแรกที่แสดงถึงการทำธุรกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นับตั้งแต่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หนีคดีไป จนถึงบัดนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าบริษัทดังกล่าวนั้นเป็นบริษัทอะไรกันแน่ แต่หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวเพียงแค่ 4 เดือน ก็มีรายงานออกมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้าไปนั่งเป็นประธานบริหารบริษัท ซ่านโถว คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล บริหารท่าเรือซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
    เมื่อสำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลบริษัท ตามที่อยู่คือ ชั้น 66 ตึก K11 Atelier ในย่านจิมซาจุ่ย พบว่าขณะนี้ออฟฟิศดังกล่าวนั้นมีผู้ถือครองคือบริษัท Pacific International Capital และมีผู้อำนวยการบริษัทคือ Chen Huaidan ซึ่งเคยใช้ชื่อ Celine Tang โดยพนักงานของบริษัทให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ปฏิเสธว่าไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับบริษัท P.T. Corporation และความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก่อน
    ต่อมา สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า ผู้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท  P.T. Corporation ในฮ่องกง คือ  บริษัท P.T. Corporation ซึ่งเป็นธุรกิจของคนในครอบครัวชินวัตรในประเทศไทย และยังเป็นผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวของบริษัทด้วย นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังแจ้งที่อยู่ส่วนตัวคือ บ้านเลขที่ 10 ถนน Severn 8 ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงด้วย
    ขณะที่ในช่วงบ่ายวันที่ 14 ม.ค.2562 เว็บไซต์เดอะพนมเปญโพสต์ สื่อในประเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ข่าวกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาและหน่วยงานด้านความร่วมมือนานาชาติ ได้มีท่าทีร่วมกันว่าจะมีการยกเลิกการออกหนังสือเดินทางทางการทูตให้กับบุคคลที่ไม่ได้เกิดในประเทศกัมพูชา โดยนักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นว่าท่าทีดังกล่าวนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้น ได้ใช้หนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาเพื่อจดทะเบียนบริษัทในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"