พอคนไทยเจอกับวิกฤติมลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองจิ๋วที่เรียกว่า PM 2.5 ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรง ก็เริ่มจะหาความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ปัญหากันอย่างกว้างขวาง
เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากประเทศอื่นๆ ที่เคยหรือกำลังเผชิญกับปัญหาที่คล้ายกัน
เช่นจีนหรืออินเดียที่ต้องพยายามหาทางแก้ไขมาหลายปีดีดัก แม้วันนี้ก็ยังพูดไม่ได้ว่าสามารถจะทำให้ภยันตรายเช่นนี้หายไปได้หมด แต่ก็พอจะมีตัวอย่างที่เราเรียนรู้ได้
เช่น "หอคอยฟอกอากาศขนาดยักษ์" อย่างที่เห็นที่นครซีอานของจีน
นครซีอานเป็นเมืองเอกของมณฑลส่านซีของจีน เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เจอกับมลพิษร้ายแรงนี้
เขาแก้ปัญหาด้วยการสร้างหอคอยฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
เขาเรียกมันว่า World’s biggest air purifier 除霾塔 (净化塔) โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อบำบัดมลพิษทางอากาศที่กลายเป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ด้วยวิธีการธรรมดาอื่นๆ เพราะวิกฤตินี้เกิดถี่ขึ้น และส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนไปทั่ว ไม่เลือกวัยหรือเพศ
หอคอยฟอกอากาศแห่งนี้มีขนาดความสูงกว่า 100 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยสถาบันด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของจีน ใช้งบประมาณก่อสร้าง 12 ล้านหยวน (60 ล้านบาท) มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานแต่ละปี 2 แสนหยวน (หรือประมาณ 1 ล้านบาท)
หอคอยแห่งนี้ใช้บำบัดอากาศที่เป็นพิษ ครอบคลุมพื้นที่รอบๆ หอคอยได้ราว 10 ตารางกิโลเมตร
เขาบอกว่าหอคอยฟอกอากาศนี้สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้วันละกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยลดมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM 2.5 แบบเดียวกับที่คนไทยกำลังสูดเข้าปอดทุกวันได้ถึง 11-19% โดยเฉพาะในฤดูหนาว
หน้าหนาวเป็นช่วงที่คนจีนจำนวนไม่น้อยมักเผาถ่านเพื่อความอบอุ่นตามอาคารบ้านเรือน
ควันจากการเผาถ่านนี่แหละเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของวิกฤติมลพิษที่เกิดขึ้นในจีน
หอคอยฟอกอากาศแห่งนี้ใช้งานมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา โดยที่เจ้าหน้าที่บอกว่าได้ผลพอสมควร
ระบบนี้ทำงานอย่างไร?
หอคอยฟอกอากาศแห่งนี้ใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยดูดซับอากาศมลพิษผ่านเครื่องกรองอากาศ และปล่อยอากาศสะอาดออกสู่สภาพแวดล้อม
ประเมินกันว่าหากจะให้ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง อาจต้องสร้างหอคอยแบบเดียวกันนี้ถึง 1,000 แห่งในนครซีอาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีนและได้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญ
หากแก้ปัญหามลพิษทางอากาศไม่ได้ อนาคตของนครแห่งนี้ก็จะมืดมน
ฮ่องกงก็เพิ่งจะเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่อ้างว่าสามารถฟอกฝุ่นพิษและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 11,000 ตัน เทียบเท่ากับการดูดซึมของต้นไม้ 480,000 ต้น
เขาออกแบบเป็นรูปใบไม้ซ้อนกันหลายใบ เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของฮ่องกงอีกตัวหนึ่ง
เขาลงทุนสำหรับโครงการนี้ 36,000 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 145,000 ล้านบาท
เพราะเป็นเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชนซึ่งมิอาจประเมินเป็นตัวเงินได้ และการปกปักรักษาภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้มหาศาล จะต้องลงทุนมากแค่ไหนก็ต้องทำ
ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่อาจจะใช้วิธีการเฉพาะหน้าหรือแบบ "ปะผุ" ได้อีกต่อไป
ใครอาสามาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าไม่มีแผนชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็หมดความน่าเชื่อถือตั้งแต่หาเสียงแล้ว!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |