ความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่...กับ "ผู้ปกครอง"


เพิ่มเพื่อน    

      บรรยากาศการเลือกตั้ง...ไม่ว่าจะเป็นเดือนกุมภาฯ หรือมีนาฯ ที่จะถึงนี้ มาถึง ณ ขณะนี้ คงต้องสรุปว่า น่าจะเป็นไปตามปกติไม่ถึงกับกระตุกไป กระตุกมา ซักเท่าไหร่ แม้ว่ารัฐบาลท่านอาจออกอาการ ไส้เลื่อน อยู่บ้าง ไปเป็นช่วงๆ เป็นระยะๆ แต่โดยบรรยากาศรวมๆ ที่ยังไงๆ คงต้องได้ เลือกตั้งที่รัก อยู่แล้วแน่ๆ ก็ไม่ถึงกับเป็นอะไรที่ต้องหยิบมาถือสา หาความ หรือต้องเรียกว่า ขอกันกินยังมากกว่านี้ อะไรประมาณนั้น...

                                                                -------------------------------------------------

      แต่นับจากนี้...ไปอีกเป็นเดือนๆ หรือหลังจากเลือกแล้วกี่เดือน ต่อกี่เดือน ก็ตามแต่ มันจะเกิดอาการกระตุก เส้นเอ็นยึด อะไรต่อมิอะไรอีกหรือไม่ อย่างไร??? อันนี้...ก็คงยากซ์ซ์ซ์ที่จะสรุปกันในวันนี้ พรุ่งนี้ เพราะโดยเงื่อนไข-เหตุปัจจัย โดยการกระทำปฏิกิริยาระหว่างกันและกัน ระหว่าง แรงผลัก กับ แรงเสียดทาน มันก็ยังคงปรากฏไปตามปกติวิสัย แต่จะถึงขั้นทำให้ต้องเกิดอาการ เบรกไหม้ ต้องหลุดโค้ง เลยโค้ง ไปจนตกเหว ตกหน้าผา กันเลยหรือไม่ เพียงใด ก็คงขึ้นอยู่กับฝ่ายต่างๆ หรือทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ คือระหว่างผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กับผู้ซึ่งไม่พร้อมอยู่กันแบบสงบๆมากมายซักเท่าไหร่ หรือระหว่าง ผู้ปกครอง กับ ผู้ถูกปกครอง นั่นเอง...

                                                                    ---------------------------------------------------

      คือถึงแม้ผู้ที่ไม่คิดจะอยู่กันแบบสงบๆ...เขาอยากจะออกฤทธิ์ ออกเดช ออกเรี่ยว ออกแรง กันไปในลักษณะไหน แต่ในฐานะที่เขาคือ ผู้ถูกปกครอง ผู้ที่ไม่ต่างอะไรไปจากไพร่ฟ้า หน้าใส หรือหน้าซีดบ้าง ไม่ซีดบ้างก็แล้วแต่ หรือจะเรียกรวมๆ ให้ชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น ก็คือบรรดา พสกนิกร ทั้งหลายนั่นแล ไม่ว่าเขาจะดื้อขนาดไหน ยั่วยวน กวนส้นตีน ไปถึงขั้นใด แต่สำหรับผู้ซึ่งมีฐานะเป็น ผู้ปกครอง แล้ว คงต้องอาศัยความเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ ความเมตตา ปรานี เป็น หลักยึด ในการควบคุม ดูแล มากกว่าที่จะหันไปใช้ความเกรี้ยวกราด โกรธกริ้ว ฉิวฉุน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที มันถึงจะพอช่วยให้ แรงผลัก กับ แรงเสียดทาน ไม่กระทำปฏิกิริยาต่อกันและกันจนเกินไป...

                                                                   -----------------------------------------------------

      อย่างบรรดาเด็กๆ ที่เขาอยาก เลือกตั้งที่รัก ซะเหลือเกิน...ก็ไม่ควรไปปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ ตามไปไล่เตะ ไล่ถีบ ไล่ทุบ ไล่กระทืบ ทั้งๆ ที่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ หรือเป็นเรื่องประเภท ขอกันกินยังมากกว่านี้ เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก ที่มันไม่ถึงกับก่อให้เกิดความเสียหาย ฉิบหาย อะไรกันมากมาย ถือเป็นเรื่อง ปกติธรรมดา สำหรับการต้องเข้าสู่โหมดประชาธิปไตยกันในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล เพราะถ้าหากมันมีเรื่องทำนองนี้ผุดโผล่ขึ้นมาเป็นระยะๆ อันนั้นนั่นแหละ...ที่มันจะทำให้ความปกติ กลายเป็นความไม่ปกติขึ้นมาจนได้ หรือทำให้เกิดบรรยากาศที่หนักไปทางน่าเกลียด น่าชัง น่าทุเรศ เวทนา โดยใช่เหตุ...

                                                                   ----------------------------------------------------

      เพราะอันที่จริง...อย่างที่ เสธ.ไพศาล ท่านว่าของท่านไว้นั่นแหละ ว่าผู้ปกครองอย่างรัฐบาลเอง ควรที่จะหันไปมอบของขวัญ ของกำนัล ให้กับพวกเด็กๆ เหล่านี้ซะอีกด้วย เนื่องจากมันกลายเป็น ตัวช่วย ให้ผู้ปกครอง ให้รัฐบาล ดูดี ขึ้นมาเป็นกอง แม้กระทั่งพวกที่ชอบใช้เด็กๆเป็นเครื่องมือ พวกที่ออกมาไลฟ์สด พ็อดสะคาร์ดสด อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ด้วยเหตุเพราะการปรากฏตัวของ ผีทักษิณ นั่นเอง ที่ช่วยให้ ผีรัฐประหาร กลายเป็น เอ็ดดี้ ผีน่ารัก ไปโดยปริยาย...

                                                                 ---------------------------------------------------------

      แต่ด้วยเหตุที่ ความเป็นรัฐบาล นั้น...มันอาจเต็มไปด้วยองค์ประกอบอันหลากหลาย มากมาย จนทำให้การควบคุม ดูแล ออกไปทางเลยเถิด เลยธง อยู่บ่อยๆ และด้วยความเลยเถิด เลยธง เหล่านี้นี่เอง ที่มันมักก่อให้เกิดแรงปะทะ แรงเสียดสี เกิดแรงกระทำระหว่างกิริยากับปฏิกิริยา จนผู้ปกครอง หรือรัฐบาล สามารถ คว่ำข้าวเม่า ลงไปได้ง่ายๆ หรือเกิดอาการ ไม้จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตาย มาแล้วไม่รู้กี่รัฐบาลต่อกี่รัฐบาล ด้วยเหตุเพราะไม่อาจควบคุมสิ่งที่มันเลยเถิด เลยธง ได้นั่นเอง...

                                                                   ----------------------------------------------------------

      ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจอมพลถนอม...ที่ใครก็ไม่รู้ ดันเผลอไปยิงเข้าใส่นิสิตนักศึกษา ทั้งที่จอมพลท่านไม่ได้คิดจะสั่ง รัฐบาลพลเอกสุจินดาบวกหนุนภักดี ที่อาจหนุนอาจภักดีเกินไปซักหน่อย เลยเกิดการลุกลาม ลามปาม ของฉากเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ จนต้องจบกันที่ ทางสายกลาง หรือทางที่ต้องอาศัยความเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ ความเมตตา ปรานี เข้ามากอบกู้ เยียวยา กันจนได้ ด้วยเหตุนี้...การหาทางทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปโดย ปกติ ซะแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้มันเกิด เงื่อนไข หรือ เหตุปัจจัย ใดๆ อันจะนำไปสู่ ความไม่ปกติ ทั้งหลาย ทั้งปวง จึงถือเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญเอามากๆ สำหรับผู้ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ปกครอง หรือรัฐบาลทั้งหลาย...

                                                                    ----------------------------------------------------------

      เพราะถ้าหากอะไรต่อมิอะไร...มันออกอาการหลุดโค้ง เลยโค้ง ใกล้ตกเหว ตกหน้าผา ทั้งที่เห็นจะจะ จังๆ อยู่แล้วเบื้องหน้า แต่ดันไม่คิดจะแตะเบรก ผ่อนเกียร์ เชนจ์เกียร์ ใส่เกียร์ห้ากันไปโดยตลอด ก็คงได้แต่ต้องหยิบเอา คำเตือน ของกองกำกับการทางหลวง มาบอกกล่าวเอาไว้ก่อนล่วงหน้า นั่นก็คือ... ผู้ที่ขับเร็วกว่าท่าน ยังมีอีกเยอะ...เพียงแต่เขาไม่ได้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ต่อไปอีกแล้ว อะไรประมาณนั้น...

                                                                      --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก พระคัมภีร์ไบเบิล (บทปัญญาจารย์)... คนเร็ว-ไม่ชนะการวิ่งเสมอไป ฝ่ายมีกำลัง-ไม่ชนะสงครามเสมอไป คนฉลาด-ไม่รับประทานเสมอไป ฯลฯ เพราะวาระและโอกาสมีมาถึงเขาทุกคน เพียงแต่มนุษย์ไม่รู้วาระของตน ปลาติดอยู่ในอวนร้ายฉันใด นกติดอยู่ในบ่วงแร้งฉันใด...เมื่อวาระอันร้ายกาจมาถึงมนุษย์ เขาก็ถูกดักจับติดโดยพลัน ฉันนั้น...

                                                                        ----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"