ไร้ม็อบชนม็อบ กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้งยันไม่มีเหตุผลอันควรที่คนอยากเลือกตั้งปลุกม็อบไล่บี้รัฐบาล เตือนระวังปัจจัยแทรกซ้อน ขณะที่กลุ่มอยากเลือกตั้งยังไม่เลิก! ขีดเส้นอีกรอบ จี้รัฐบาลประกาศ พ.ร.ฎ.ก่อนวันที่ 24 ม.ค. ไม่เช่นนั้น 26 ม.ค.จะชุมนุมอีก ทนายเสื้อแดงเพ้อจะเช็กบิล คสช. "จตุพร" หนักกว่า ขู่คุณบุญเลื่อน ระวังจะลงจากตำแหน่งแบบสุจินดา

    เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มกราคม มีความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ มีทั้งเรียกร้องให้เร่งเลือกตั้ง และกลุ่มที่มีความคิดตรงข้าม โดยใช้สถานที่ชุมนุมบนถนนราชดำเนินเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาจเกิดเหตุม็อบชนม็อบ แต่เมื่อถึงเวลา กลับไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด 
    ที่หน้าร้านอาหารเมธาวลัย ศรแดง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง นำโดยนายพานสุวรรณ ณ แก้ว และแนวร่วมประมาณ 10 คน ได้แถลงการณ์ โดยทางกลุ่มได้มีการเฝ้าติดตาม  สถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมาโดยตลอด ซึ่งเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรอันใดที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะจัดชุมนุมเรียกร้องในตอนนี้ เพราะอาจนำไปสู่ปัจจัยแทรกซ้อนที่กระทบต่อการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะกระทบกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เนื่องจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญก็ได้บัญญัติกรอบกำหนดวันเลือกตั้งเอาไว้อย่างชัดเจน
    และหากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในกรอบที่กำหนดไว้ ย่อมเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้งอยู่แล้ว อีกทั้งประชาชนควรสมัครสมานสามัคคี ตรวจสอบทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอยู่แล้วในขณะนี้
    ทางกลุ่มจึงไม่เห็นเหตุผลสำคัญอะไรที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะเรียกร้องชุมนุมในตอนนี้ โดยทางกลุ่มขอให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุม เพื่อเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ปัจจัยแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง และกระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อีกทั้งขอให้ทุกฝ่ายอดทน และให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือร่วมใจก่อนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ทางกลุ่มยืนยันว่าไม่มีความตั้งใจที่จะขวางการเลือกตั้งแต่อย่างใด
    ส่วนที่หน้าหอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งย้ายการชุมนุมจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้ชุมนุมเรียกร้องขอให้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งก่อนวันที่ 24 ม.ค. โดยมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมประมาณ 100 คน
26 ม.ค.จะชุมนุมอีก
    นายสิรวิชญ์กล่าวว่า เหตุผลที่จัดชุมนุมในวันนี้เพราะรัฐบาลยังไม่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ถือว่ารัฐบาลทำงานขาดตกบกพร่องอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในวันที่ 24 ก.พ. แต่ในวันนี้เราขอให้รัฐบาลประกาศ พ.ร.ฎ.ก่อนวันที่ 24 ม.ค. เพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือน มี.ค.62 ซึ่งถ้ารัฐบาลยังไม่มีการประกาศ พ.ร.ฎ. เราก็จะจัดการชุมนุมต่อในวันที่ 26 ม.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    เขายังกล่าวถึงกลุ่มสามัคคีก่อนการเลือกตั้งที่ต้องการให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งยุติการชุมนุมว่า กลุ่มสามัคคีก่อนการเลือกตั้งได้มีการสร้างม็อบชนม็อบกับกลุ่มเรา ซึ่งในตอนแรก กลุ่มคนอยากเลือกตั้งต้องการจัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่เมื่อมีการจัดทับพื้นที่กัน เราก็ต้องถอยไปจัดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวได้มีอ้างการเลือกตั้งนั้นจะส่งผลกระทบต่อพระราชพิธีที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ กลุ่มคนเลือกตั้งยืนยันว่าการเลือกตั้งจะไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าจัดการเลือกตั้งตามกำหนดนั้น ก็จะสามารถมีรัฐบาลทันก่อนพระราชพิธีสำคัญ
    "กลุ่มดังกล่าวพูดเพื่อต่อต้านกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เราไม่เคยปิดถนน ไม่เคยปิดเสรีภาพของประชาชน เป็นกลุ่มสามัคคีก่อนการเลือกตั้งมากกว่าที่สร้างสถานการณ์ โดยหวังว่ากลุ่มอื่นๆ ที่อยู่คนละขั้วกับเราจะไม่ใช้สถานที่เดียวกันกับเรา ฝากบอกถึงกลุ่มขั้วตรงข้ามด้วย ถ้าจะชุมนุมให้หาสถานที่ใหม่" นายสิรวิชญ์ กล่าว
     นายอานนท์ นำภา ทนายความเสื้อแดง ปราศรัยว่า วันนี้มีเรื่องที่อยากบอกกับทุกคน ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศตกอยู่ในแผนชั่วร้ายของเผด็จการทหาร ซึ่งตอนนี้ดำเนินไปแล้วสองข้อ หนึ่ง วางแผนผ่านการร่างรัฐธรรมนูญที่ทำให้ทหารกลับมาปกครองบ้านเมืองต่อไป รวมถึงตั้งเกณฑ์ ส.ว. 250 ให้เลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อแผนแรกไม่ได้ผล จึงมีแผนสอง นั่นคือจงใจประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งล่าช้า บังเอิญว่าเราหลายคนรู้กฎหมาย ทำให้แผนการถ่วงเลือกตั้งเหล่านั้นไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม การออกมาชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็เพื่อต้องการกดดันให้มีการประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งภายในเดือนมกราคม รวมทั้งการย้ายสถานที่ชุมนุมมาที่ มธ.ท่าพระจันทร์ เนื่องจากไม่ต้องการจะปะทะกัน
    “สำหรับพี่น้องถูกเจ้าหน้าที่คุกคาม เราเก็บข้อมูลไว้หมดทุกครั้ง เมื่อเผด็จการไปเมื่อไหร่ เช็กบิลเมื่อนั้น ขอย้ำว่าการชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ไม่ใช่เฉพาะเสื้อแดง แต่รวมทุกสีเสื้อ ตลอดจนนักศึกษาที่ไม่เคยชุมนุมการเมืองตลอดชีวิตก็มาเข้าร่วมด้วย” นายอานนท์กล่าว
"ตุ๊ดตู่"ขู่จบแบบพฤษภาทมิฬ
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า คุณบุญเลื่อน เลื่อนการเลือกตั้งมาห้าครั้งแล้ว ยังไม่โกหกแค่โกห้า แต่ถ้าเลื่อนอีกครั้ง ได้ออกจากตำแหน่งแบบ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีแน่ การเลื่อนการเลือกตั้งเป็นเพียงแค่การเลื่อนวันแพ้ของฝ่ายเผด็จการเท่านั้น ห้าปีที่ผ่านมา ความยากจนที่เกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย แก้ด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งภารกิจของรัฐบาลหน้าคือ ทำให้คนไทยหายจน ทั้งที่คนไทยควรหายจนตั้งแต่ปี 2552 คือเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่เมื่อมีคนประกาศแก้จนไม่ถึงปี คนประกาศถูกยึดอำนาจ ถ้าพี่น้องเลือกพรรคเพื่อชาติ นายสงคราม หัวหน้าพรรคจะมาช่วยแก้จนให้พี่น้องเอง โดยภารกิจสองเรื่องที่รัฐบาลหน้าจะต้องเข้ามาแก้คือ เรื่องประชาธิปไตย และทำให้คนไทยหายจน 
         นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวในงานสัมมนาสาธารณะหัวข้อ มองเมืองไทย ให้ไกลกว่าได้เลือกตั้ง ถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล ต่อความคาดหวังของประชาชนหลังการเลือกตั้งว่า สำหรับผลสำรวจความคิดเห็น ใน 5 ด้าน โดยแต่ละด้านที่ประชาชนให้ความเห็นสูงสุด ถือภาพสะท้อนความเป็นประเทศกำลังพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด เพราะประชาชนตอบเฉพาะในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องและเรื่องเศรษฐกิจ หรือต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนด้านเกษตรกร เช่น ตลาดรองรับสินค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าบ้านเมืองไม่ได้เรื่อง ขณะเดียวกันตัวอย่างที่สุ่มถามกว่า 1,200 ตัวอย่าง เชื่อว่าจะเป็นผู้ที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ที่ถือว่าเป็นผู้ที่เจริญในบ้านเมือง แต่แนวคิดที่ตอบนั้นยังเป็นการตอบคำถามแบบพื้นๆ
     เขากล่าวว่า แนวทางของกฎหมายที่หลายฝ่ายมองว่าจะช่วยได้ แต่ส่วนตัวมองว่าต่อให้เขียนกฎหมายดีขนาดไหน วงจรที่ยังวนเวียนหลังเลือกตั้งยังเป็นเพียงการแย่งชิงกันทางอำนาจ ไม่ใช่การเป็นประชาธิปไตย ส่วนข้อถกเถียงเรื่องวันเลือกตั้งภายใน 150 วันนั้น ตนมองว่ามีทางออก แต่ปัจจุบันพบการสร้างเงื่อนไขที่ผูกปมไว้จำนวนมาก ดังนั้นปัญหาทางการเมืองสิ่งที่แก้ไขได้คือ การเล่นการเมือง และทำงานการเมืองเชิงสร้างสรรค์ มีหลักการ และนำไปปฏิบัติได้
        "ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ความเป็นประชาธิปไตยที่ได้คือ การแย่งชิงอำนาจ ขณะที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผมเชื่อว่ายังเป็นเพียงการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองเท่านั้น แม้จะไม่ใช่การแข่งขันทางการเมืองในรูปแบบของตัวแทนพรรคการเมือง ทั้งนี้ การพัฒนาทางการเมืองเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ประเทศไทยไม่สามารถทำได้จริง" 
    นายเจษฎ์กล่าวว่า ตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อปี 2557 สังคมตั้งความหวังกับการปฏิรูปบ้านเมือง แต่จนถึงปัจจุบันและถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ตนมองว่าการปฏิรูปหลายด้านไม่มีความคืบหน้า สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ตนมองว่าไม่สามารถเขียนเพื่อขจัดผลประโยชน์ทางการเมืองได้ และหากไม่สามารถทำได้เท่ากับว่าเสียของ
          "สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือ หลังวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ชีวิตประชาชนจะเป็นอย่างไร หากฝากความหวังไว้ที่พรรคการเมือง ผมมองว่าไม่ได้อะไร ดังนั้นประชาชนควรฝากความหวังไว้ที่ตัวเอง ผ่านการร่วมมือช่วยขับเคลื่อนตามความคาดหวังของตัวเอง อีกทั้งต้องมีส่วนร่วมในทุกๆ ด้าน ไม่เฉพาะแค่การมีส่วนร่วมร่างกฎหมายเท่านั้น"? นักวิชาการด้านกฎหมายกล่าว.