เตือนป่วนใต้ครั้งใหญ่ เฝ้าระวัง20-27ม.ค./มทภ.4ชี้กลุ่มโจรหวังแยกพุทธ-มุสลิม


เพิ่มเพื่อน    

  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสิ่งของถวายพระสงฆ์ 2 รูปที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบบุกวัดกราดยิงพระ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพระเมตตาโปรดให้รับศพของพระสงฆ์ทั้งสองรูปไว้ในพระสังฆราชานุเคราะห์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ ชี้คนร้ายสร้างสถานการณ์ให้พุทธ-มุสลิมแตกแยก วอนอย่าตกหลุมพราง หน่วยงานด้านความมั่นคงเตือนจะมีระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่อีก

    ภายหลังคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน แต่งกายชุดดำคล้ายทหาร ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะบุกเข้าวัดรัตนานุภาพ กราดยิงจนมีพระมรณภาพ 2 รูป ส่วนพระอีก 2 รูปบาดเจ็บ ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สุไหงโก-ลก เมื่อคืนวันศุกร์ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงประกาศให้พระ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา งดออกบิณฑบาตจนกว่าสถานการณ์จะสงบนั้น
      สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปถวายพระประเวศ สุขแก้ว และพระธนโชติ ชุมเลิศ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ยังความปลื้มปีติแก่ครอบครัวพระประเวศ สุขแก้ว และพระธนโชติ ชุมเลิศ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
    นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ว่า ในชั้นต้นนี้ได้ขอให้ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลงพื้นที่เพื่อดูแลจัดงานศพให้เหมาะสม ช่วยเหลือคณะสงฆ์ และอยู่เป็นกำลังใจให้กับคณะสงฆ์ในภาคใต้ รวมทั้งให้หารือกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและการประกอบศาสนกิจของคณะสงฆ์ในพื้นที่ด้วย 
    "รับทราบว่าเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานพระเมตตาโปรดให้รับศพของพระสงฆ์ทั้งสองรูปไว้ในพระสังฆราชานุเคราะห์โดยตลอด และคณะสงฆ์เห็นชอบให้ใช้เงินในกองทุนวัดช่วยเหลือพระสงฆ์ทั้งสองรูป รูปละ 1 แสนบาทแล้ว" 
    นายสุวพันธุ์กล่าวด้วยว่า วันที่ 20 ม.ค. จะประชุมหารือกับผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์ และพิจารณามาตรการดำเนินการเพิ่มเติมดูแลคณะสงฆ์ต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก 
    "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรศาสนาทุกศาสนา รวมทั้งสังคมในจังหวัดชายแดนใต้ต้องปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ การใช้วิธีโจมตีเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง ทำไปแล้วมีแต่เสียงประณามสาปแช่ง ไม่ใช่เฉพาะจากชาวพุทธ แต่เสียงสาปแช่งมาจากผู้คนทั่วโลกที่รับทราบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด กลุ่มใด หรือขบวนการใดใช้วิธีเช่นนี้ในการต่อสู้เรียกร้อง มีแต่นำไปสู่ความพ่ายแพ้และความเสื่อมทรามในที่สุด ความชั่วร้ายความรุนแรงไม่สามารถเอาชนะความดี ความรัก และสันติได้ ขอให้เราชาวพุทธยึดหลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การใช้ความรุนแรงไม่ใช่วิถีแห่งเราชาวพุทธ ปล่อยให้กฎหมายจัดการกับความเลวร้ายเหล่านั้น" นายสุวพันธุ์กล่าว 
แม่ทัพภาค 4 ตรวจพื้นที่
    เช้าวันเดียวกันนี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเดินทางไปค้างที่วัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก ตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์หลังเกิดเหตุ ได้ร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ พร้อมทั้งให้กำลังใจชาวบ้านไทยพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และ อ.ใกล้เคียง จำนวนกว่า 200 คน ที่ต่างตกอยู่ในสภาวะเสียขวัญกำลังใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฏิพระที่อยู่ด้านซ้ายมือของอุโบสถหลังที่ 2 และ 3 ซึ่งสร้างด้วยไม้ยกพื้นชั้นเดียว ที่มีร่องรอยกระสุนของคนร้ายยิงพรุนทั้ง 2 หลัง และมีคราบเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ พร้อมกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก 
    มีร่องรอยของกลุ่มคนร้ายได้แฝงตัวเข้ามาด้านซ้ายมือของกุฏิที่เป็นสวนยางพารา โดยคนร้ายได้ยิงถล่มใส่กุฏิดังกล่าวจนพระประเวศ สุขแก้ว ที่อาศัยอยู่ในกุฎิได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ที่บริเวณชายคาของศาลาการเปรียญตรงกับกับอุโบสถ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยวิถีกระสุนของคนร้ายถูกที่บริเวณฝาผนังด้านข้างของศาลาการเปรียญเป็นรูพรุนเช่นกัน ในที่ขณะพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสพร้อมพระลูกวัดอีก 2 รูป กำลังนั่งฉันน้ำชาเพื่อรอเวลาเข้าไปปฏิบัติกิจสงฆ์ภายในอุโบสถ โดยเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกอยู่เป็นจำนวนมาก
    จุดดังกล่าวนี้ทราบว่า ในขณะที่พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสและพระลูกวัด รวม 3 รูป นั่งฉันน้ำชา มีชายฉกรรจ์จำนวน 5-6 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะมาจอด พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ จึงสอบถามไปว่า เข้ามาทำไมไม่แจ้งให้ทางวัดทราบก่อนในยามวิกาล จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่และพระลูกวัดจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีออกไปทางด้านประตูหน้า และคนร้ายได้พบกับ ชรบ.ที่วิ่งตามเสียงปืนมา จนทั้ง 2 ฝ่าย ได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กัน แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำไปตรวจสอบทางกระบวนการวิทยาศาสตร์แล้ว และจากการประเมินในเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้
    หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์และคณะร่วมกันพบปะชาวบ้านซึ่งมีทั้งไทยพุทธและมุสลิมบางส่วน ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาทราบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น ภายใต้ความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัย โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนร้าย เพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านอย่าตกหลุมพรางของคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการดูแลในการรักษาความปลอดภัย วัดทุกแห่งในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จนสร้างขวัญกำลังให้กับชาวบ้านเป็นที่น่าพึงพอใจ
ไม่ได้ห้ามพระบิณฑบาต
    ต่อมา พล.ท.พรศักดิ์แถลงข่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น ขอให้ชาวบ้านไว้วางใจ ในส่วนของพระสงฆ์ไม่ได้มีการสั่งหรือห้ามและกำชับในการออกบิณฑบาต แต่ให้วัดแต่ละวัดเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
    ในส่วนของ พล.ต.ท.รณศิลป์ บอกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการประเมินพบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดิมๆ ที่เคยร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก และร่วมกับยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สุไหงปาดีเสียชีวิต ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้าน และทราบเบาะแสว่าได้ลักลอบข้ามแดนมาก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นสร้างความแตกแยกระหว่างไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ที่จะมีการติดตามไล่ล่ากดดัน เพื่อจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
    ด้านนายเอกรัฐกล่าวว่า กรณีพระสงฆ์ที่มรณภาพและได้รับบาดเจ็บนั้น จะมีการเยียวยาตามกฎหมาย ซึ่งในเร็ววันนี้ทางจุฬาราชมนตรีและประธานกรรมการอิสลาม 3 จังหวัดชายเดนภาคใต้ ก็จะเดินทางมาให้กำลังใจแก่พระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการพูดคุยพบปะพูดคุยกับผู้นำศาสนา เพื่อสร้างความเข้าใจถึงเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายที่พยายามสร้างความแตกแยก
    พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมของคนร้าย สร้างความเศร้าสลดให้กับพุทธศาสนิกชนไม่เว้นแม้แต่มุสลิมที่ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมอันโหดร้ายทารุณเยี่ยงสัตว์ป่าที่สามารถกระทำได้แม้พระภิกษุที่กำลังปฏิบัติธรรมและไม่มีหลักคำสอนใดๆ ในอัลกุรอานที่สอนให้กระทำเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหมือนพฤติกรรมของพวกนอกศาสนา
      "ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใครเป็นคนก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนาด้วยอุดมการณ์ที่เป็นเพียงคำกล่าวอ้างหลอกลวงประชาชน จึงขอให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกองค์กรศาสนาในพื้นที่ได้ร่วมกันประกาศจุดยืนและแสดงออกถึงพลังบริสุทธิ์ในการต่อต้านพฤติกรรมอันโหดร้ายป่าเถื่อนโดยเร็วที่สุด" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากล่าว
    ส่วนบรรยากาศวัดในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา เช่น ที่วัดธนะสุขาราม หรือวัดใหม่ ม.11 ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา ในช่วงเช้า พระสงฆ์ยังคงมีการออกบิณฑบาตและปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ตามปกติ และยังมีญาติโยมเข้าวัดทำบุญถวายสังฆทานเหมือนเช่นทุกวัน รวมทั้งยังไม่ได้หวั่นวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพระลูกวัดเผยว่า แม้จะอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา แต่ก็ยังปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ปกติ เนื่องจากวัดนี้ยังปลอดภัย แต่ไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"บิ๊กป้อม"เสียใจ
    ด้านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางหลัก เส้นทางรอง รวมทั้งพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการจัดกำลังไปดูแลพระตามวัดต่างๆ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและปลอดภัย
    พ.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. กล่าวประณามการกระทำที่ป่าเถื่อนและไร้ซึ่งมนุษยธรรมของกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำร้ายและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์และพระสงฆ์ในศาสนสถานอย่างอุกอาจที่ผ่านมา เพียงเพื่อต้องการสร้างความแตกแยกและแสดงให้สังคมเห็นถึงการยังมีอยู่ของขบวนการหรือองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง ที่ใช้ความรุนแรง สร้างความกลัว เพื่อกดขี่จำกัดสิทธิเสรีภาพของพี่น้องชาวไทยและแสวงประโยชน์ในพื้นที่ พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้คนไทยทุกภาคส่วนและองค์กรที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ได้ร่วมกันประณามการกระทำที่ป่าเถื่อนดังกล่าวอย่างเปิดเผย
    ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กห. ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตของพระสงฆ์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง โดย กอ.รมน.ภาค 4 เร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาและติดตามขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 
       พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเป็นห่วงและได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนร่วมกับทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ รวมถึงเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยกำหนดแนวทางการในการดูพระสงฆ์และบุคคลที่เสี่ยงตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุอย่างเข้มงวด
      ขณะเดียวกัน ให้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ของประชาชน ดำเนินการควบคู่กันไป 3 ส่วน ส่วนรายละเอียด รวมถึงสาเหตุของการก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มคนร้าย ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอการสืบสวนสอบสวนจากกองทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการก่อน พร้อมย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าตลอดเวลา
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองทุกคน ในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ นายกฯ ประณามการกระทำที่อุกอาจเช่นนี้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะปกป้องประเทศชาติและประชาชนด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในรัฐบาล และร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินขวานทองของเรา
นายกฯ สั่ง รปภ.เข้ม
    เขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเข้มงวดตรวจตราจุดเสี่ยงต่างๆ และดูแลเยียวยาผู้เสียชีวิตและญาติพี่น้องอย่างดีที่สุด รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติด้วย
    นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ดาบตำรวจประเสริฐ ผิวละออ และดาบตำรวจกิตติพันธ์ อักษรแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองจิก ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะออกทำการลาดตระเวนเส้นทางและรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนวัดนิคมสถิตย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน บ้านท่ายาลอ หมู่ที่ 4 ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 เข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
    ล่าสุด มีรายงานว่า ร.ต.อ.หญิงสินีนาถ คงพุทธ หรือผู้กองจอย ตชด.ที่ 42 ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังโดนระเบิดได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านแล้ว แต่ยังคงต้องดูอาการบาดแผลจากการผ่าตัดโดนสะเก็ดระเบิดที่หน้าอกซ้ายหายดีก่อน จึงจะกลับไปทำงานได้
    มีรายงานว่า จากการซักถามของชุดความมั่นคงในเบื้องต้น นายอับดุลสตอปา สุหลง ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้การว่า ตนเองได้เห็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้ว (กล่องเหล็ก) จำนวน 4 ลูก โดยได้แจกจ่ายวัตถุระเบิดกันที่มัสยิดตากอง ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งคาดว่าวัตถุระเบิดดังกล่าววันนี้ได้ทำการก่อเหตุไปแล้วในพื้นที่ ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพราะฉะนั้นคาดว่าวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่พร้อมใช้งานยังคงเหลืออยู่อีก 3 ลูก จึงขอแจ้งเตือนไปยัง ชป.ข่าวทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ปัตตานี
    หน่วยข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า ปรากฏข่าวสาร ผกร.ระดับแกนนำปฏิบัติการและสมาชิก 5 คน เคลื่อนไหวที่บ้านสระ ม.8 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส เพื่อสังเกตการณ์และเตรียมลอบวางระเบิด และซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ใน อ.แว้ง และพื้นที่ใกล้เคียง
    ขณะที่กลุ่ม ผกร.และแนวร่วม อ.หนองจิก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เตรียมก่อกวนเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการแขวนป้ายผ้า พ่นสีวางเพลิงทรัพย์สินสาธารณะ และลอบยิงเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ชุดคุ้มครองตำบล และประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 
    รวมถึงด่านตรวจ จุดสกัดใน อ.สะบ้าย้อย และ อ.เทพา จ.สงขลา และมีการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง (พร้อมใช้งาน ) เข้าพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อเตรียมก่อเหตุใน อ.สะบ้าย้อย และพื้นที่ใกล้เคียงมีความเป็นไปได้ว่าจะซุกซ่อนวัตถุระเบิดในรถจักรยานยนต์ที่สูญหายจากพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา โดยกลุ่ม ผกร.เตรียมลอบวางระเบิดขนาดเล็กร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ตู้กดเงินสด (ATM) ในเขตเมือง ระบบสาธารณูปโภค เสาไฟฟ้า และเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่รอบนอก รวมถึงการยิงก่อกวนฐานปฏิบัติการของทหาร ตำรวจ และ อส.ชคต. ที่มีการวางระวังป้องกันต่ำใน อ.เมืองฯ อ.ยะหา และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ช่วง 20-27 ม.ค.62 นี้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"