เล่นเอา สีกากี นั่งกันไม่ติดเก้าอี้ ต้องเช็กข่าว ต้องติดตามความเคลื่อนไหวกันชนิด เกาะติด คำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ สารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2561 เพราะข่าวลือเริ่มหนาหู บัญชีทำไม่ทัน อาจต้องเลื่อนการแต่งตั้งออกไปอีก 1 เดือน ลากกันยาวไปถึงสิ้นเดือน ก.พ.  หลังจากก่อนหน้านี้ก็ขอคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ขยายเวลาการแต่งตั้ง นายพันสีกากี  มาแล้ว 2 ครั้ง จากเดดไลน์แรกตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พ.ย.  ก็ขยับมาเป็นวันที่ 30 ธ.ค. จากนั้นก็อ้างเป็นช่วงปีใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่ต้องดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่และดูการจราจรวันหยุดยาวๆ ขยายการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. ออกไปอีก 1 เดือน ถึงวันที่ 31 ม.ค. ตอนนี้เหลืออีกไม่ถึงครึ่งเดือนดีก็จะครบตามกำหนด เริ่มมี ข่าวลือ สัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนแรกของปีหมู จะมีการขอขยายเวลาการแต่งตั้งจาก ก.ตร.ออกไปอีก 1 เดือน  ถึงวันที่ 28 ก.พ.62 ...เท็จจริงประการใดคงต้องให้ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ได้ดาบอาญาสิทธิ์ในการแต่งตั้งตำรวจทั่วประเทศ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาชี้แจงแถลงไขให้น้องๆ สีกากีฟังบ้างก็ดี ๐

                จะ เลื่อน หรือ ไม่เลื่อน แต่งตั้งตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก. ครั้งนี้ยัง 50:50 เพราะแค่ลือยังไม่ได้ยินจากปาก ผบ.แป๊ะ โดยตรง แต่เหล่า สีกากี ที่ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าหนาวยะเยือก น่าจะเป็น 5 เสือโรงพักโคกคราม ทั้ง พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก. พ.ต.ท.คมสพัสส์ ทองคำนิธิวิรากุล รอง ผกก.ป.  พ.ต.ท.ทัศสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ จินดาหลวง สว.สส. และ พ.ต.ต.แสงสิทธิ์ สมโรจน์รัตน์ สวป. ซึ่งถูกนอกหน่วยบุกจับสถานบันเทิงในพื้นที่ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน จนถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ศปก.บก.น.2 เพราะตามคำสั่งให้จัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ สารวัตร (สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2561 ที่ ผบ.แป๊ะ ส่งไปถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ในสังกัด สง.ผบ.ตร.ช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา  หนึ่งในกฎเหล็กที่ให้หน่วยเสนอบัญชีขึ้นมาพิจารณา มี บัญชีแบล็กลิสต์ ที่ ผบ.แป๊ะ ให้หน่วยจัดทำข้อมูลต่างๆ จากประชาชนหรือหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้ให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วเห็นว่าถูกต้องเป็นความจริง ทั้งในส่วนที่เป็นการยกย่องชมเชยหรือมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ส่งมายัง ผบ.ตร. วันที่ 24 ม.ค.62 ดังนั้น 5 เสือโรงพักโคกครามคงต้องลุ้นกันหนักหน่อย ๐

                แยกเขี้ยวขู่! พวกนักเลงคีย์บอร์ด พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ในฐานะโฆษกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ช่วงวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน หากมีการสร้างและปล่อยข่าวปลอมที่เรียกว่าเฟกนิวส์ บก.ปอท.มีศูนย์เฝ้าระวังโซเชียลเพื่อคอยมอนิเตอร์ตลอด 24 ชม. อย่างกรณีช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา  พบมีเว็บไซต์ชื่อ gmmwork.com เป็นเว็บไซต์ในต่างประเทศ และเป็นผู้ผลิตข่าวปลอมเกี่ยวกับคนที่สูดฝุ่นละออง PM 2.5 เข้าไปแล้วเป็นผื่น เป็นแผลพุพอง พี่น้องประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลจากเว็บไซต์ดังกล่าวต่างเกิดความตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้นหากใครที่คิดจะแชร์หรือส่งต่อให้คนอื่นก็ต้องตรึกตรองให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาได้ ๐

                เห็นภาพและอ่านเนื้อหาแล้วต้องขนลุก คนไทยไม่เคยทิ้งกัน หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง ขณะตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครูลาดตระเวนเส้นทาง เหตุเกิดริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 4 บ้านท่ายาลอ ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ด.ต.ประเสริญ  ผิวละออ และ ด.ต.กิตติพันธ์ อักษรแก้ว ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นต้องตัดขาซ้ายและผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดที่ฝังหน้าอกด้านซ้ายออก เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีการประกาศผ่านทางโซเชียลขอรับบริจาคเลือดเพื่อใช้ในการผ่าตัด เพียงไม่นานเพจเฟซบุ๊ก "พลังใจถึงชายแดนใต้" ได้เผยแพร่ภาพคนจำนวนมากทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือน กำลังเข้าแถวต่อคิวบริจาคเลือดกรุ๊ปโอและกรุ๊ปบี ที่ รพ.ปัตตานี เพื่อช่วยชีวิต ด.ต.ประเสริญ และ ด.ต.กิตติพันธ์ โดยชาวโซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจและร่วมอธิษฐานให้ตำรวจผู้กล้าทั้ง 2 นาย ๐

                มาถี่ๆ สำหรับเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้ ล่าสุดเกิดในวันกองทัพไทย ที่ทุกกองทัพ กองพลทั่วประเทศ กำลังจัดกิจกรรม มีการสวนสนามในวันดังกล่าว ที่อ่อนไหวคือเป้าหมายกลายเป็นการพุ่งเป้าไปที่สัญลักษณ์ทางศาสนา เป็นเป้าหมายที่สร้างแรงสั่นสะเทือนพอสมควร  ช่วงดึกหลังเกิดเหตุการณ์ บิ๊กเดฟ-พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ภายในวัดรัตนานุภาพ ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าอาวาสและพระลูกวัดมรณภาพ 2 รูป บาดเจ็บ 2 รูป  พร้อมให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นต่อการกระทำดังกล่าว เพื่อป้องกันการตกหลุมพรางของกลุ่มก่อเหตุที่ต้องการทำให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหา ที่สำคัญคือการให้เฝ้าระวังผู้นำศาสนาอิสลาม เพื่อสรุปเหมารวมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ๐

                สำหรับกิจกรรมงานวันกองทัพไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในช่วงเช้าที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง บิ๊กกบ-พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) นำผู้นำเหล่าทัพ และตำรวจ หรือผู้แทนฯ สักการะดวงวิญญาณของทหารที่สู้รบเสียชีวิตในอดีต จากนั้นก็มาแถลงข่าวเหมือนเช่นทุกปี แต่ปีนี้เปลี่ยนจากโถงด้านล่างหน้าพระบรมรูป ย้ายมาในห้องปริทรรศน์ด้านบนซึ่งเป็นห้องบรรยายประวัติศาสตร์ มีจิตรกรรมฝาผนังเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ซึมซับประวัติศาสตร์การต่อสู้ของบรรพบุรุษในการรักษาชาติบ้านเมือง และปีนี้มาแบบฉายเดี่ยว ไม่ต้องยืนโดยมีแบ็กกราวด์เป็น ผบ.เหล่าทัพเหมือนทุกครั้ง ๐

                ถือเป็นการทำงานเชิงรุกสำหรับกองทัพภาคที่ 2 โดยเฉพาะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างทหาร 2 ประเทศดีขึ้นกว่าเหตุการณ์เมื่อปี 54 อย่างเห็นได้ชัด สัปดาห์ที่ผ่านมา  บิ๊กมืด-พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (ผบ.พล.ร.6) และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รอง ผบ.กกล.สุรนารี นำผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ชายแดนพบปะพัฒนาสัมพันธ์ทหารกัมพูชา นำโดย พล.อ.สรัย ดึ้ก รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 (ผบ.พล สนน.3) พล.ท.ดวง ซอมเนียม ผบ.พล.น้อย สนน.7 (พื้นที่ปราสาทพระวิหาร) พล.ท.ลี ซุน ผบ.พล.น้อย สนน.8 (พื้นที่ภูมะเขือ) พล.ท.ดวง จัน ผบ.พล.น้อย สนน.9 (พื้นที่ช่องบก) ณ จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี  ซึ่งเป็นจุดที่ยังมีปัญหากระทบกระทั่งกันเล็กน้อยในปีก่อนๆ เพราะปัญหาเรื่องเส้นเขตแดน แต่ด้วยความที่สองชาติต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวมีความสงบสุข จึงมีแนวคิดที่จะหารือเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนสองประเทศนำร่อง ก่อนไปสู่การยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวร และจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อดำเนินการในเดือน ก.พ.นี้ ๐

                เบื้องต้นก็คนละไม้-คนละมือไปก่อน ในฐานะที่กองทัพมีเครื่องไม้ เครื่องมือ และกำลังพลที่พร้อมในภารกิจช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาสาธารณภัย เมื่อคนเมืองกรุงต้องเจอกับปัญหาฝุ่นละอองอย่างหนัก ก็ต้องรีบเข้าไปทำในสิ่งที่น่าจะทำได้ กองทัพอากาศส่งเครื่องบินโปรยน้ำ กองทัพบกส่งรถน้ำฉีดน้ำ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย จัดรถดับเพลิงฉีดน้ำ ต่างคนต่างทำ บิ๊กช้าง-พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จะเชิญเหล่าทัพมาประชุมเพื่อแบ่งพื้นที่รับผิดชอบในแง่ของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และนำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาที่คาดว่าต้องรับมือกันทุกปี ๐