ภาพจากมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง
19 ม.ค.62 - ที่ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเพชร นารี ผกก. (สอบสวน) สภ.น้ำพอง และ พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง ร่วม สอบปากคำ นายอนุพงษ์ คำพานางหรือท็อป อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.6 บ้านสองคอน ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาฆ่าพ่อตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน โดยผู้ต้องหานั่งให้การด้วยหน้าตานิ่งเฉย ไม่มีอาการสำนึกผิดแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่าเหตุการณ์ดังล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา ประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งเหตุลูกฆ่าพ่อที่บ้านเลขที่ดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ นายอาคม คำพานาง อายุ 51 ปี ถูกทำร้ายด้วยของมีคม ที่บริเวณศีรษะ ใบหน้าจนเละ นอนเสียชีวิตอยู่กลางห้องโถงของบ้าน ข้างศพพบมีดอีโต้ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ข้างศพผู้ตาย ส่วนผู้ก่อเหตุคือนาอนุพงษ์ หรือท๊อป ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปใน นั่งเล่นเกมอยู่บนที่นอน ใ
"ได้สอบวนน้องทีม (นามสมมุติ) น้องชายของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะนอนหลับอยู่บนที่นอนที่อยู่บริเวณห้องโถงของบ้าน พ่อก็มาปลุกให้ลูกๆไปกินข้าว น้องทีมจึงลุกไปล้างหน้า พอกลับออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงพ่อบ่นให้พี่ชาย พร้อมกับเอาน้ำใส่แก้วไปพรมใส่หน้าพี่ชายที่นอนอยู่บนที่นอน พี่ชายโมโหและมีอาการฉุนเฉียวทะเลาะกับพ่อ และเดินไปหลังบ้าน เอามีดมาฟันที่ศีรษะพ่อจนล้มลงกับพื้น และฟันซ้ำอีกหลายครั้ง น้องทีมกลัวจึงพาน้องสาววิ่งหนีออกนอกบ้านไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เมื่อเพื่อนบ้านไปถึงบ้าน ปรากฏว่า พ่อได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว"
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้ทำการควบคุมตัวนายท็อปผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน โดงไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหรือเกรงกลัวความผิด แต่กลับมีใบหน้าเรียบเฉย แสยะยิ้มเป็นบางครั้ง พูดคุยรู้เรื่อง ตลอดเวลา โดยหลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหนคงนั่งเล่นเกมอย่างไม่สะทกสะท้าน โดยนายท๊อปให้การรับสารพภาพว่า การก่อเหตุดังกล่าวเพราะถูกพ่อบ่นด่าทุกวัน เก็บกดสะสมมานาน เมื่อพ่อเอาน้ำมาพรมหน้าจึงเกิดความโมโห จึงเดินเข้าไปในครัวใช้มีดฟันคอพ่อจนตายคาที่และนั่งเล่นเกมรอมอบตัว ซึ่งภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี โดยที่ผู้ต้องหาไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบนางจุฑาทิพย์ คำพานาง อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ตายและเป็นมารดาของนายท็อป พร้อมเพื่อนบ้านได้ช่วยกันจัดสถานที่ภายในบริเวณบ้านเพื่อตั้งสวดอภิธรรมศพผู้ตายท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางจุฑาทิพย์ กล่าวว่า ที่บ้านอาศัยอยู่กันทั้งหมด 5 คน นายท็อปซึ่งเป็นลูกชายคนโตไม่ได้ทำงาน เพราะร่างกายและสมองไม่ปกติหลังจากประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2560 ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนเองทำกับข้าวให้สามีกับลูกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อถึงที่ทำงานก็มีเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งว่า ลูกชายฆ่าพ่อตายในบ้าน จึงรีบกลับบ้านก็พบศพสามีนอนอยู่กลางห้องโถง ส่วนนายท็อปถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ จึงถามลูกชายว่า ฆ่าพ่อทำไม ลูกชายตอบเพียงว่า ดุด่าทุกวันไม่ชอบ
"นายท็อปเป็นคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ช่วงเรียนหนังสือระดับประถม ถึงระดับมัธยม ก็ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง จนทนไม่ได้ออกจากโรงเรียนในช่วงที่กำลังเรียน ม.4 จากนั้นช่วงอายุ 16-17ปี นายท็อปก็ติดเพื่อน เสพยาเสพติด และไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับมาอยู่บ้านเมื่อปี 2560 ก็ประสบอุบัติจนขาหักสองท่อน ผ่าตัดสมอง รักษาตัวนานหลายเดือน เมื่อแข็งแรงก็กลับมาอยู่บ้าน เก็บตัวไม่ออกจากบ้าน วันๆเล่นแต่เกมไม่ค่อยกินข้าว กินเพียงวันละมื้อ ชอบนอนตื่นสายและสูบบุหรี่จัดมวนต่อมวน มีบ้างที่พ่อดุและบ่น เพราะอยากให้ลูกมีความเข้มแข็ง ซึ่งก่อนจะฆ่าพ่อตัวเอง พ่อมาเรียกท็อปไปกินข้าว แต่นายท็อปไม่ลุกจากที่นอน ยังคงนอนเล่นเกมอยู่ พ่อจึงเอาน้ำไปพรมหน้า ลูกจึงทำร้ายพ่อ และเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายลงมือฆ่าพ่อตัวเองมาจากความเครียดและความกดดันที่สะสมมานานจึงบันดาลโทสะฆ่าพ่อตัวเองตายในบ้านดังกล่าว"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |