2ครูสาวไปไม่ถึงรร. 18ล้อทับร่างดับคาที่


เพิ่มเพื่อน    


   2 ครูสาวจากอีสาน เพิ่งรับราชการที่สมุทรปราการ ซ้อนจักรยานยนต์จะไปสอนหนังสือ รถเกิดเสียหลักล้มมุดเข้าไปใต้ท้อง 18 ล้อ ถูกทับดับสยองทั้งคู่ อีกราย กระบะแหกเลนพุ่งชนดะ 3 คันรวด มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บระนาว ตีนผีคันก่อเหตุเผ่นแน่บ
    เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ร.ต.ท.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สุมทรปราการ รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณด้านหน้าตลาดตรอกถั่วงอก ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล หมู่ 1 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนทางกัน ที่เลนซ้ายขาเข้ามุ่งหน้าสามแยกพระสมุทรเจดีย์ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำ-ชมพู หมายเลขทะเบียน ขจข 22 กำแพงเพชร ล้มคว่ำอยู่บนพื้นถนน ใกล้กันมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนนในสภาพคนซ้อนท้ายกอดกับคนขี่รถจักรยานยนต์ ชื่อ น.ส.น้ำฝน บุญเต็ม อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 1 ต.กระออม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และ น.ส.เกษรกมล ดำทรัพย์ อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 46/7 หมู่ 4 ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร คนซ้อนท้าย ทั้งสองเป็นครูสอนหนังสือชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนวัดไตรมิตรวราราม 
    ห่างไปประมาณ 250 เมตร พบบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 81-4068 ประจวบคีรีขันธ์ ท้ายพ่วงหมายเลข 81-5767 ประจวบคีรีขันธ์ มีนายสมศักดิ์ ธิบดี อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 621 หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อคันดังกล่าวมาลงดินลูกรังบริเวณสถานที่ก่อสร้างถนนสายสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล บริเวณด้านหน้ากรมอู่ทหารเรือป้อมพระจุลจอมเกล้าตั้งแต่เวลา 05.30 น. เสร็จแล้วกำลังขับรถไปรับดินลูกรังบริเวณท่าเรือใน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ในระหว่างที่ตนขับรถบรรทุกมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณข้างรถฝั่งซ้าย ก่อนมีคนตะโกนว่าทับรถจักรยานยนต์ จึงรีบหยุดรถแล้วลงมาดู พบว่าบริเวณล้อหลังรถพ่วงได้ทับคนขี่รถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้าย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือ แต่ทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว
    ทางด้าน ร.ต.ท.ปิยวัฒน์สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักภายในซอยวัดแหลมฟ้าผ่า เพื่อจะไปสอนหนังสือที่โรงเรียนวัดไตรมิตรฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขี่รถจักรยานยนต์ขี่รถมาด้านซ้ายสุด พยายามแซงรถบรรทุกพ่วง แต่มาพบป้ายสัญญาณไฟและเสาติดตั้งกล้องวงจรปิดขวางทางอยู่ จึงตกใจพยายามเบรกเพื่อหยุดรถ แต่รถเสียหลักล้มลง ทำให้ร่างทั้ง 2 คนกระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถพอดี ถูกล้อรถทับร่างจนเสียชีวิตทั้งคู่ 
    ตำรวจได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติเวชฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ และประสานขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมนำตัวนายสมศักดิ์ คนขับรถบรรทุก ไปสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    ต่อมา นางวัชรี มีสร้อย อาจารย์ประจำ รร.วัดไตรมิตรฯ ได้มาดูศพ พร้อมเปิดเผยว่า ครูน้ำฝนและครูเกษรกมล เป็นครูบรรจุใหม่ที่เพิ่งผ่านเกณฑ์ประเมินการเป็นคุณครูปฏิบัติการ ทั้งคู่พักอยู่ที่บ้านพักครูของโรงเรียนย่านป้อมพระจุล ต่างเป็นคนเก่งและขยัน เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนครูและเด็กนักเรียน เหตุเกิดห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 100 เมตร จึงเป็นที่น่าเสียใจมาก
    อีกราย ที่ จ.ชุมพร เหตุเกิดคืนวันพุธ ร.ต.อ.อิทธิภัทธิ์ วัฒนอมร รอง สว. (สอบสวน) สภ.วิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์วิ่งข้ามเลนชนกัน มีคนตายและบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณถนนเอเชีย 41 หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งคา อ.เมืองชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องจราจร บริเวณช่องทางขาขึ้นพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กจ 9059 ชุมพร จอดอยู่ไหล่ถนน สภาพรถด้านขวาตั้งแต่หัวจนถึงกระบะท้ายพังยับเยินทั้งแถบ กระจกหน้าแตกละเอียด คนขับคือนายธีรพงษ์ แซ่จู อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 14 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร บาดเจ็บมีแผลที่ศีรษะ อาการสาหัส หมดสตินอนฟุบอยู่บนเบาะนั่งคนขับ หน่วยกู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ภายในรถมีผู้โดยสารอีก 2 คน เป็นผู้หญิงอายุ 40-50 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนในที่นั่งตอนหลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนางสุนันท์ ปานทอง อายุ 53 ปี อาชีพทำไร่สับปะรดและเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ในท่าแซะ โดนแรงกระแทกจนกะโหลกเปิด และมีผู้โดยสารที่นั่งมาในกระบะหลังอีก 2 คน เป็นผู้หญิงอายุ 50-55 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
    ห่างกันประมาณ 100 เมตร มีรถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ ตอนครึ่ง ทะเบียน ผฉ 8485 ขอนแก่น กระบะหลังติดหลังคากรงเหล็กบรรทุกสินค้ามาเต็มคัน สภาพรถด้านหน้าขวาจนถึงประตูคนขับพังทั้งแถบ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นคนขับผู้ชาย และผู้หญิงที่นั่งมาเบาะข้าง ยังไม่ทราบชื่อ หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลธนบุรี-ชุมพร และใกล้กันมีรถบรรทุกพ่วง 20 ล้อ ทะเบียนหน้า 70-1428 สุพรรณบุรี ทะเบียนพ่วง 70-1429 สุพรรณบุรี บริเวณพ่วงด้านขวามีรอยเฉี่ยวชนเสียหายไม่มาก อีกทั้งยังมีรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บค 3715 ชุมพร พลิกหงายท้องอยู่กลางถนน สภาพหลังคายุบพังยับเยิน ส่วนคนขับไม่ทราบชื่ออาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปก่อนแล้ว  
    จากการสอบสวนทราบว่า รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กจ 9059 ชุมพร มีนายธีรพงษ์ แซ่จู อายุ 52 ปี อาชีพทำอู่ซ่อมรถยนต์ ขับมาจากงานศพญาติใน อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อจะกลับบ้านที่ อ.ท่าแซะ โดยมีนางน้ำผึ้ง หอมจิตร อายุ 46 ปี ภรรยานั่งเบาะข้าง และเบาะตอนหลังมีญาตินั่งมาด้าย 1 คน ส่วนกระบะหลังมีเพื่อนบ้านนั่งมาอีก 3 คน รวมทั้งหมด 6 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บค 3715 ชุมพร ขับมาช่องทางขาล่องใต้ จู่ๆ ได้เสียหลักวิ่งพุ่งข้ามเลนมาด้วยความเร็วสูง ชนรถยนต์ที่นายธีรพงษ์ขับมาเต็มแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากนั้นรถต้นเหตุยังหมุนคว้างไปชนรถยนต์กระบะโตโยต้าและรถบรรทุกพ่วงที่กำลังวิ่งอยู่ในช่องทางขาขึ้นอีก 2 คัน ก่อนจะเสียหลักพลิกคว่ำลงในร่องกลางถนน คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามคนขับรถกระบะต้นเหตุมาดำเนินคดี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"