53%รับฝุ่นพ่นพิษ ป้อมสั่ง‘เหล่าทัพ’ หั่นโซนเร่งแก้ไข


เพิ่มเพื่อน    

 คนกรุงส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบฝุ่นพิษ หายใจไม่สะดวก โวยรถควันดำ-ก่อสร้างต้นเหตุ ฝนหลวงไม่สำเร็จ ลุ้น 19 ม.ค. ทำใหม่หวังลดวิกฤติฝุ่น "บิ๊กป้อม" สั่งเหล่าทัพแบ่งโซนแก้ปัญหา พร้อมบิ๊กคลีนนิ่งวันอาทิตย์นี้ ขสมก.เร่งตรวจเมล์ 2 พันคัน ยันสัปดาห์หน้าปลอดรถควันดำ ศิริราชแนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรับมือ 3 เดือน

    เมื่อวันที่ 18 มกราคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ปัญหาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-17 ม.ค. 2562 กรณีศึกษาจากประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,253 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.31 ระบุว่าได้รับผลกระทบ ขณะที่ร้อยละ 46.69 ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบ ในจำนวนผู้ที่ระบุว่าได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.05 ระบุว่าหายใจไม่สะดวก รองลงมา ร้อยละ 41.47 ระบุว่าแสบจมูก, ร้อยละ 24.10 ระบุว่าระคายเคืองตา, ร้อยละ 10.18 ระบุว่าไอ จาม เจ็บคอ แสบคอ, ร้อยละ 9.43 ระบุว่า คันตามร่างกาย และร้อยละ 2.54 ระบุอื่นๆ ได้แก่ เป็นหวัด น้ำมูกไหล และทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ค่อยดี 
    สำหรับหน่วยงานที่ต้องออกมารับผิดชอบในการแก้ปัญหาฝุ่นละออง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.31 ระบุว่ากรมควบคุมมลพิษ รองลงมา ร้อยละ 45.97 ระบุว่าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร, ร้อยละ 30.49 ระบุว่ากรมการขนส่งทางบก, ร้อยละ 30.41 ระบุว่ากรมอนามัย/กรมการแพทย์/กรมควบคุมโรค, ร้อยละ 22.67 ระบุว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), ร้อยละ 20.75 ระบุว่ากรมฝนหลวงและการบินเกษตร, ร้อยละ 17.72 ระบุว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ร้อยละ 13.97 ระบุว่ากรมอุตุนิยมวิทยา, ร้อยละ 1.68 ระบุอื่นๆ ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม ขณะที่บางส่วนระบุว่า รัฐบาล และร้อยละ 0.88 ระบุว่าไม่แน่ใจ           
    ด้านสาเหตุของปัญหาฝุ่นละออง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.05 ระบุว่ารถประจำทาง/รถบรรทุก/รถปิกอัพที่ปล่อยควันดำ รองลงมา ร้อยละ 29.77 ระบุว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้า/ใต้ดิน/ตึก/อาคาร, ร้อยละ 11.33 ระบุว่าโรงงานอุตสาหกรรม, ร้อยละ 9.66 ระบุว่ารถยนต์ส่วนบุคคล/แท็กซี่/รถจักรยานยนต์, ร้อยละ 4.23 ระบุว่าการเผาขยะในที่โล่งแจ้ง, ร้อยละ 0.80 ระบุอื่นๆ ได้แก่ เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ขณะที่บางส่วนระบุว่า เกิดจากการทำลายสิ่งแวดล้อม ตัดต้นไม้ และร้อยละ 0.16 ระบุว่าไม่แน่ใจ       
    ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ของภาครัฐ/รัฐบาล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.63 ระบุว่า ควบคุมมาตรฐานและตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในทุก ๆ ที่ที่มีการก่อสร้าง ไม่ให้ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน รองลงมา ร้อยละ 33.52 ระบุว่าการจัดการจราจรที่ดี ไม่ให้เกิดปัญหารถติด สาเหตุของการเกิดมลพิษบนท้องถนน, ร้อยละ 28.81 ระบุว่าให้มีมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองอย่างจริงจัง, ร้อยละ 24.34 ระบุว่าอนุมัติการก่อสร้างขนาดใหญ่ ให้เริ่มสร้างทีละโครงการ ไม่เริ่มก่อสร้างพร้อมๆ กัน, ร้อยละ 22.59 ระบุว่ารณรงค์ลดการใช้รถส่วนตัว หันมาใช้การเดินทางด้วยขนส่งมวลชน, ร้อยละ 15.00 ระบุว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น เพื่อดูดซับ และลดผลกระทบจากมลพิษในอากาศ เป็นต้น
    กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงเวลา 15.00 น.ว่า พื้นที่ริมถนน ตรวจวัดได้ระหว่าง 32-63 ไมโครกรัม (มคก.)/ ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 1 พื้นที่ ส่วนพื้นที่ทั่วไป ตรวจวัดได้ระหว่าง 29-46 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่ โดยรวมปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือประชาชน งดการเผาในที่โล่งทุกประเภท และงดการใช้รถยนต์ควันดำอย่างเด็ดขาด
ทำฝนหลวงไม่สำเร็จ
          นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.15 น. ได้ตัดสินใจให้หน่วยเคลื่อนที่เร็ว จ.ระยอง ใช้เครื่องบินคาซ่าสองลำ ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แม้ว่าวันนี้สถานการณ์ฝุ่นละอองค่อนจะดีขึ้น แต่จากการคาคการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 19 ม.ค. และวันต่อไปอาจเพิ่มค่าฝุ่นมากขึ้น เนื่องจากความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมภาคกลาง ส่งอิทธิพลมาถึงกรุงเทพฯ อาจทำให้ลมพัดเข้ามาบ้างได้ ทำให้ลดฝุ่นละอองไปส่วนหนึ่ง แต่ถ้าลมนิ่ง ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองจะเพิ่มขึ้น ถ้าการทำฝนหลวงประสบผลสำเร็จ จะทำให้วันที่ 19 ม.ค. ที่คาดว่าฝุ่นละอองจะมากขึ้นจะลดลงได้
          ต่อมาในช่วงเย็น นายสุรสีห์เปิดเผยว่า การขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงวันนี้ไม่สามารถทำเกิดฝนได้ อย่างไรก็ตาม จะพยายามทำต่อไป ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. จะติดตามค่าอากาศและฝุ่นละออง เพื่อมาตัดสินใจว่าจะขึ้นบินได้หรือไม่ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างใกล้ชิด ขอให้มั่นใจว่าเรามีความพร้อมตั้งใจการปฏิบัติงานครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้โดยไม่มีวันหยุดราชการ
    พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เปิดเผยว่า เหล่าทัพเตรียมบิ๊กคลีนนิ่งครั้งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค.นี้ โดยเฉพาะเส้นทางจัดกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำลังเรียกประชุมเพื่อบูรณาการร่วมมือในการลดปัญหาฝุ่นพิษโดยเฉพาะพื้นที่น่ากังวล โดยเหล่าทัพจะแบ่งพื้นที่ดำเนินการ รวมทั้งจะใช้เครื่องมือทั้งหมดทั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงหน่วยทหารเร่งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหน่วยทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาและไม่ควรที่จะสร้างปัญหามลพิษเพิ่มขึ้นในระยะเวลานี้
    ในช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้จะดีขึ้น จากความสำเร็จในการทำฝนเทียมหรืออื่นๆ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่เป็นปกติ ในส่วนของรัฐบาลได้บูรณาการกัน เร่งสำรวจ และแก้ไขที่ต้นตอ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วนและระยะยั่งยืน ซึ่งต้องขอความร่วมมือของประชาชนช่วยกันลดฝุ่นละอองด้วย ทั้งนี้ เราควรแสวงประโยชน์จากปรากฏการณ์ฝุ่นละอองในครั้งนี้ ให้ความรู้กับทุกๆ คน  ได้รู้วิธีการรับมืออย่างถูกต้องและเหมาะสม
ปรับพฤติกรรมรับมือ
    ที่ รพ.ศิริราช นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แถลงว่า คาดสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จะอยู่ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็มีมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา โดยประชาชนควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็น เอื้อต่อการทำให้อากาศปิด ฝุ่นละอองตกตะกอน ดังนั้นตลอด 3 เดือน ตั้งแต่ม.ค.ถึง มี.ค. ควรมีปรับตัว ลด ละ หลีก เลี่ยง ในพื้นที่เสี่ยงมีค่าฝุ่นละอองสูง ทั้งสีส้ม สีแดง ทั้งการออกกำลังกาย และสวมหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา 2 ชั้น หรือ N95 ป้องกันตนเอง ในกลุ่มเสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจทั้งหอบ หืด หัวใจและหลอดเลือด อยู่ในพื้นที่สีแดง อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว หรือใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนในที่อากาศโปร่งแทน 
    ส่วนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เริ่มได้ตั้งแต่ตัวเอง โดยก่อนออกจากบ้านควรดูที่แอปพลิเคชันที่วัดสภาพอากาศ เพื่อประเมินก่อนเดิน หรือทำกิจกรรม กรณีที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย หากเป็นพื้นที่สีแดง อย่าไปเด็ดขาด เพราะอากาศที่เข้าไปในปอด มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก  และสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้แต่การสวมหน้ากาก N95 ก็ลำบาก ขอแนะนำให้ผู้บริหารโรงเรียน ควรพิจารณาเลื่อนเวลาเข้าเรียน หรือการกิจกรรมหน้าเสาธง เป็นทำในห้องเรียนแทน  
    ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ทั้ง 8 ทีมเข้าตรวจสภาพรถ ขสมก.ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจำนวน 2,075 คัน จากจำนวนรถเมล์ที่ให้บริการทั้งหมด 2,815 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถเมล์ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) 740 คัน ซึ่งผลการตรวจควันดำรถเมล์กว่า 800 คัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ไม่พบปัญหาควันดำ ส่วนวันนี้ (18 ม.ค.) ที่เหลืออีกกว่า 1,000 คัน จะตรวจให้แล้วเสร็จและเร่งสรุปผลการตรวจต่อไป ทั้งนี้ไปกำชับทั้ง 8 เขตการเดินรถ ขสมก. ให้เข้มงวดตรวจรถควันดำ หากพบห้ามออกมาวิ่งให้บริการประชาชนเด็ดขาด และต้องไปจัดการซ่อมให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าจะไม่มีรถเมล์ ขสมก. ที่มีควันดำไปวิ่งเด็ดขาด หากเจอต้องหยุดวิ่งและเร่งซ่อมทันที 
    นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบและเฝ้าระวังโรงงานเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นและมลพิษทางอากาศทั่วประเทศ 7,700 โรงงาน สุ่มตรวจวัดมลพิษทางอากาศในพื้นที่เสี่ยง 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี และราชบุรี ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2562.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"