‘ก.ล.ต.’ลงดาบ ‘หมอเสริฐ-ลูก’ ปั่นราคาหุ้นBA


เพิ่มเพื่อน    

  “ก.ล.ต.” จัดหนัก “หมอเสริฐพร้อมลูกสาว” ซื้อขายปั่นราคาหุ้นการบินกรุงเทพ ปรับเฉียด 500 ล้านบาท พ่วงห้ามนั่งเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทในตลาด 

เมื่อวันศุกร์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ฉบับที่ 6/2562 เรื่อง ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น BA โดยมีเนื้อหาว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1.นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 2.น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ บุตรสาวนายปราเสริฐ และ 3.นางนฤมล ใจหนักแน่น กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA) เจ้าของสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 499.45 ล้านบาท และสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน 
    โดย ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 13 พ.ย.2558 ถึงวันที่ 12 ม.ค.2559 นายปราเสริฐ, น.ส.ปรมาภรณ์ และนางนฤมล ร่วมกันซื้อขายหุ้น BA อย่างต่อเนื่อง และจับคู่ซื้อขายหลักทรัพย์ BA ระหว่างกันเองในลักษณะอำพรางการซื้อขาย ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งผลให้ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น BA ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด การกระทำของบุคคลทั้งสามเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) (2) ประกอบมาตรา 244 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และมาตรา 317/4 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2559  
    “คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต.นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย โดยกำหนดให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 499.45 ล้านบาท ซึ่งหากผู้กระทำความผิดทั้ง 3 รายไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต.จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด” เอกสาร ก.ล.ต.ระบุ
    ทั้งนี้ การที่ ค.ม.พ.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายปราเสริฐ, น.ส.ปรมาภรณ์ และนางนฤมล เป็นเหตุให้ผู้กระทำความผิดทั้งสามราย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.ที่ กจ. 3/2560 เรื่องการกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 ม.ค.2560 และต้องพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่กำหนดในหนังสือที่ ก.ล.ต. จะแจ้งการมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจดังกล่าวในขั้นตอนหลังจากนี้ต่อไป
    ปัจจุบัน นายปราเสริฐดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นในอันดับที่สามของการบินกรุงเทพ ด้วยจำนวนหุ้น 222,777,500 คิดเป็น 10.61% ส่วน น.ส.ปรมาภรณ์ ไม่มีตำแหน่งบริหารในบริษัท แต่ถือหุ้นอันดับ 4 ด้วยจำนวนหุ้น 136,250,000 หรือ 6.49%  ส่วนนางนฤมลไม่ปรากฏเป็นกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่
    ก่อนหน้านี้ นายปราเสริฐ หรือหมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ถูกจัดอันดับครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปี 2561 ซึ่งเป็นการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 77,129.32 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 13,602.02 ล้านบาท หรือ 21.41% โดยหุ้นที่ถือครองมี 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 18.47% รวมมูลค่า 73,786.86 ล้านบาท, การบินกรุงเทพ ถือหุ้น 10.61% มูลค่า 2,985.22 ล้านบาท, บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 75.48 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) 24.60% มูลค่า 281.75 ล้านบาท นอกจากนี้ ตระกูลปราสาททองโอสถยังเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และครองหุ้นรวมกันมีมูลค่าทะลุ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรกของทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"