18 ม.ค.62 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 44 ม.4 บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนายอรรถพล หรืออาร์ต ชัยสอน ฉายาอาร์ตลาย อายุ 22 ปี ผู้รับจ้างทวงหนี้ลูกหนี้ที่ค้างค่ายาเสพติด จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เทพโซโล" หรือ "เทพบุตรโซโล" ในราคา 5,000 บาท  โดยทำการทำร้ายร่างกายและ ถ่ายคลิป โพสต์ประจาน โดยพบกับนายประกอบ สอนชัย พ่อของนายอาร์ต และคนในครอบครัวยู่ภายในบ้าน

นายประกอบ กล่าวว่า ครอบครัวมีลูกชายสองคนคือ นายอาร์ตและนายอั๋น  โดยช่วงที่เป็นเยาวชน นายอาร์ตเคยถูกจับตรวจปัสสาวะในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัด  รักษาไปแล้ว และเมื่อกลับมาอยู่ที่ขอนแก่นก็ถูกจับในคดียาเสพติดอีกครั้ง โดยเมื่อพ้นโทษ นายอาร์ตก็มีนิสัยเปลี่ยนไป กลายเป็นคนก้าวร้าว ลักเล็กขโมยน้อย งัดบ้านเพื่อนบ้านจนเดือดร้อนไปทั่ว  ที่ผ่านมาครอบครัวได้ไปแจ้งความว่าลูกชายงัดบ้านเพื่อนบ้าน ตำรวจก็ไม่ดำเนินการใดๆให้บอกว่าเป็นเรื่องของพ่อกับลูก

"นอกจากนายอาร์ตจะมีนิสัยก้าวร้าวแล้ว ยังขโมยของในบ้านไปขาย และคบเพื่อนที่มีนิสัยเกเร เข้าออกบ้านไม่เป็นเวลา งานการก็ไม่ทำ ทั้งยังขู่บังคับเอาเงินกับแม่ เมื่อไม่ให้ก็จะทำร้าย จนกระทั่งช่วงก่อนสิ้นปี จึงไล่นายอาร์ตออกจากบ้าน  นายอาร์ตก็ออกไปและไม่กลับเข้าบ้าน จะกลับมาในช่วงที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพื่อแอบมาขโมยเอาของมีค่าในบ้านไปขาย"

นายประกอบ กล่าวต่อว่า ทั้งชีวิตเสียใจที่สุด  คือเมื่อนายอาร์ตได้มาชวนนายอั๋นน้องชายคนเล็กออกจากบ้านไปอยู่ด้วย ทั้งๆที่นายอั๋นเป็นเด็กดีมาตลอด ช่วยพ่อแม่ทำงาน แต่พอถูกนายอาร์ตพาออกไปร่วมแก๊งยาเสพติดด้วย นายอั๋นก็เปลี่ยนเป็นคนละคน สักลายที่ใบหน้าและตามร่างกาย เมื่อนายอั๋นกลับมาที่บ้านก็ถามถึงการสักลาย เพราะต้องการเตือนลูกว่าการสักลายที่ใบหน้าจะหางานที่ดีทำไม่ได้ สังคมไม่ยอมรับ นายอั๋นตอบว่า ไม่ได้สักเอง นายอาร์ตบังคับและสักให้ และไม่ต้องทำงานแล้ว นายอาร์ตมีงานให้ทำ และเลี้ยงตัวเองได้ จากนั้นไม่กี่วันก็เกิดเรื่องร้าย เพราะพี่ชายพาน้องชายไปรุมทำร้ายคนอื่นจนตาย

"ครอบครัวเห็นข่าวจากทางสื่อมวลชนและเห็นคลิปก็จำกางเกงและร้องเท้าได้ว่าคนในคลิปที่ทำร้ายคนตายนั้นคือนายอาร์ตลูกชายผมเอง ผมเจ็บปวดที่สุด รับไม่ได้ ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะจัดการกับลูกที่ไม่รักดี ส่วนนายอั๋นนั้น มีเพียงมารดาที่ไปเยี่ยม แต่จากการพูดคุยกับมารดาทราบว่า ถามอะไรลูกก็ไม่ตอบ พูดเพียงว่า พี่ชายสั่งให้ทำ ส่วนตัวไม่คิดที่จะไปเยี่ยมลูกเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่ลูกทำขึ้น ได้แต่หวังไว้ลึกๆว่า โทษที่ลูกชายทั้งสองคนได้รับในครั้งนี้ น่าจะเยียวยาให้กลับตัวเป็นคนดีได้ และออกมาอยู่กับพ่อแม่เหมือนครอบครัวอื่นๆ แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนนิสัย ยังเป็นแบบเดิมๆก็ตัดพ่อ ตัดลูก ไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีกเลย"