ศาลฎีกาแก้ ลดโทษจำคุก "กำนันเซียะ-เมีย" เหลือ 56 เดือน บุกรุกที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ เมืองกาญจน์ ให้ออกหมายจับใหม่เพื่อนำตัวจำเลยทั้งสองมารับโทษ พร้อมสั่งให้บริวาร ลูกจ้าง คนงานของจำเลยออกจากที่ดินทันที เผยยังมีหมายจับอีก 2 คดี
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีบุกรุกที่ดินเมืองกาญจน์ หมายเลขดำ อ.4849/2554 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ ฟ้องนายประชา โพธิพิพิธ หรือ "กำนันเซียะ" และนางเขมพร ต่างใจเย็น สองสามีภรรยา เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกแผ้วถางที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ที่ ม.2 ต.ช่องด่าน และ ม.2 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เกินกว่า 50 ไร่ เมื่อระหว่างวันที่ 29 พ.ย.2544-8 ก.พ.2545 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ โดยจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 10 ปี 16 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยด้วย
วันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลังจำเลยทั้งสอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ จำเลยหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายจับ ปรับนายประกันไว้และเลื่อนการอ่านคำพิพากษามาแล้ว
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีประเด็นพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาบุกรุกแผ้วถางครอบครองที่ดินราชพัสดุตามฟ้อง และไม่รู้กฎหมายที่ดิน จึงขาดเจตนา คดีนี้ไม่มีการร้องทุกข์ ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการสั่งว่าไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด ไม่มีการสรุปสำนวนส่งอัยการพร้อมความเห็น อัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ศาลเห็นว่าคดีเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินเป็นความผิดต่อรัฐ พนักงานสอบสวนสอบสวนเองได้ อัยการมีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120, 140, 143 มีการบุกรุกที่ดินกว่า 50 ไร่ มีการใช้คนงาน บริวารเข้าบุกรุก จะถือว่าขาดเจตนาโดยเล็งเห็นผลไม่ได้ กฎหมายที่ดินใช้บังคับ จะอ้างไม่รู้เพื่อปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองผิดตามฟ้อง เป็นความผิดรวม 7 กรรม คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 ให้จำคุกคนละ 56 เดือน (4 ปี 8 เดือน) พร้อมนับโทษต่อจำเลยที่ 1 จากคดีแดงที่ 2936/2554 และแดง 3178/2548 ของศาลอาญา และจำเลยที่ 2 ให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่ 3178/2548 ด้วย ให้ยกเลิกหมายจับเดิมที่ให้ตามตัวมาฟังคำพิพากษา ให้ออกหมายจับใหม่เพื่อนำตัวจำเลยทั้งสองมารับโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดต่อไป และให้บริวาร ลูกจ้าง คนงานของจำเลยออกจากที่ดินทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำนันเซียะและภรรยานั้นยังมีหมายจับคดีฮั้วประมูลโครงการต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี ปี 2542-2544 หมายเลขดำ อ.4077/2546 ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ถือเป็นที่สุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2559 ให้จำคุกกำนันเซียะเป็นเวลา 5 ปี และนางเขมพรเป็นเวลา 4 ปีด้วย
นอกจากนั้น กำนันเซียะยังมีหมายจับตามตัวมารับโทษคดีหมายเลขดำ อ.55/2555 ที่อัยการฟ้องบุกรุกที่ราชพัสดุพื้นที่ ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันทั้งหมด รวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,199 ไร่ 2 ตารางวา 84 งานอีกด้วย ซึ่งมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 ให้จำคุกกำนันเซียะ 2 ปี 8 เดือน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |