"คพ." แจ้งค่าฝุ่นละอองยังเกินมาตรฐาน 25 พื้นที่ "เมืองนครปฐม" มากสุด 75 มคก./ลบ.ม. "กทม." ริมถนนจรัญสนิทวงศ 63 มคก./ลบ.ม. เหตุอากาศปิดลมสงบ "รัฐบาล" ห่วงอีก 7 วันความกดอากาศจากจีนแผ่ลงมาส่งผล PM2.5 กระจายตัวช้า เร่งเตรียมแผนรับมือ มั่นใจคุมสถานการณ์ได้ เชื่อไม่เกิน ก.พ.ทุกอย่างดีขึ้น "ขสมก." เปลี่ยนรถเมล์ใช้น้ำมันดีเซล B20 "ปลอดประสพ" ชงวิธีแก้ปัญหารถอายุเกิน 10 ปีเลิกวิ่ง
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.62 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวันที่ 16 ม.ค. และทรงตัวในบางพื้นที่ ซึ่งยังสูงเกินมาตรฐานและมีผลต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ริมถนน ตรวจวัดได้ระหว่าง 41-72/มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 16 พื้นที่ สาเหตุมาจากการจราจร คาดว่าในวันที่ 18 ม.ค. จะอยู่ในระดับปานกลาง
ส่วนพื้นที่ทั่วไป ตรวจวัดได้ระหว่าง 41/75 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 9 พื้นที่ สาเหตุมาจากสภาพอากาศปิด มีหมอกในตอนเช้า ลมสงบ ทำให้การระบายฝุ่นละอองไม่ได้ดี คาดว่าวันที่ 18 ม.ค. จะอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง
สำหรับพื้นที่ซึ่งมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สูงเป็น 5 อันดับแรก ได้แก่ ต.นครปฐม อ.เมืองฯ จ.นครปฐม ปริมาณ PM2.5 75 มคก./ลบ.ม., ริมทางคู่ขนานถนนพระราม 2 อ.เมืองสมุทรสาคร ปริมาณ PM2.5 72 มคก./ลบ.ม., ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด ปริมาณ PM2.5 63 มคก./ลบ.ม., ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร ปริมาณ PM2.5 62 มคก./ลบ.ม., ริมถนนลาดพร้าว ซ.ลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง ปริมาณ PM2.5 59 มคก./ลบ.ม. และริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี ปริมาณ PM2.5 59/ลบ.ม.
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. เวลา 05.00 น. พบมีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐานคือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (เขตบางขุนเทียน และเขตวังทองหลาง), นนทบุรี (ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย), สมุทรสาคร (ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน) และนครปฐม (ตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม) มีค่า PM2.5 ระหว่าง 50-57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 100-118 ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
"ปภ.ได้ประสาน 3 จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยสนับสนุนปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่ริมทางหลวงให้เฝ้าระวังการเผาในเขตริมทางหลวงอย่างเข้มข้น" อธิบดี ปภ.กล่าว
มั่นใจคุมฝุ่นละอองได้
ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำตามนโยบายของรัฐบาลและเตรียมการมาตั้งแต่เดือน ส.ค.2561 แต่ขาดการสื่อสารกับประชาชน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหลายประเด็น จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานสื่อสารกับประชาชนอย่างชัดเจน ซึ่งการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ถ้าเดินผ่านตามท้องถนนในระยะเวลาสั้นไม่ได้เกิดปัญหากับร่างกายมากเกินไป ยกเว้นกรณีที่อยู่ในที่ที่ค่าฝุ่นละอองสูง ระยะเวลา 12 ชม. ซึ่งหลายหน่วยงานได้ดำเนินการป้องกันฝุ่นละออง ทั้งฉีดน้ำและปฏิบัติการฝนหลวง
"ในอีก 7 วันข้างหน้า ความกดอากาศจากจีนที่แผ่ลงมา จะมีผลทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กระจายตัวได้ช้าลง ซึ่งได้เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
ถามว่าจะต้องควบคุมร้านปิ้งย่างหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นจะต้องควบคุม แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยควัน เพราะไม่ใช่ทุกพื้นที่จะเกิดปัญหาฝุ่นละอองดังกล่าว จึงไม่ควรไปห้ามการทำมาหากินของประชาชน อีกทั้งกรมควบคุมมลพิษมีแผนดำเนินการอยู่แล้ว
รองนายกฯ กล่าวถึงการขึ้นราคาของหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ N95 ว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งราคาจำหน่ายต้องอยู่ที่ราคาไม่เกิน 50 บาท ซึ่งช่วงเช้ากระทรวงพาณิชย์ได้จับกุมผู้ค้าฝ่าฝืนแล้ว 2 ราย หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปตรวจสอบและดูเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยด้วย
"รัฐบาลได้เตรียมการเรื่องนี้มานานแล้ว และก็ให้ความสำคัญ พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดทำแผนระยะยาว เพื่อทำงานร่วมกัน เพราะแม้แต่ละหน่วยงานจะมีแผนของตัวเอง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุม ทั้งนี้คาดว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะลดลงไม่เกินเดือน ก.พ.2562" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสภาพรถ ขสมก.ก่อนให้บริการ เพื่อตรวจสอบค่าควันดำ โดยนายอาคมกล่าวว่า เท่าที่มีการตรวจสอบค่าควันดำของรถ ขสมก. มีค่าเฉลี่ยมันดำอยู่ที่ 15-20% ยังไม่เกิน 45% ของมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษกำหนด ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งตรวจเข้ม หากพบรถคันใดมีค่าควันดำเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด ให้งดวิ่งให้บริการทันที ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตรวจพบรถเมล์ 2 คันที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน จึงได้สั่งหยุดวิ่งบริการแล้ว
"เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ในเดือนม.ค.-ก.พ. ขสมก.จะเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซล B20 รวม 1,260 คัน จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ 815 คัน รวมเป็น 2,075 คัน ซึ่งจะลดผลกระทบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 15% ลดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ 33% ไฮโดรคาร์บอน 21% ลดฝุ่นละอองได้ 3.7% เมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลเดิม" นายอาคมกล่าว
ถามถึงการหยุดการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง รมว.คมนาคมกล่าวว่า ยังไม่มีคำสั่งให้ยกเลิกการก่อสร้างชั่วคราว แต่ได้สั่งการให้ปรับแผนในการลดหรืองดการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับดินที่จะมีผลต่อฝุ่นละออง
"ยืนยันจะไม่กระทบต่อระยะเวลาและสัญญาการก่อสร้างแน่นอน ขณะเดียวกันยังสั่งให้ทำความสะอาดรถบรรทุกดินในการวิ่งเข้า-ออกพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อลดปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจาย" รมว.คมนาคมกล่าว
เพื่อไทยชงรถ 10 ปีเลิกวิ่ง
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุข เปิดเวทีเสวนาเรื่อง ฝุ่นละออง PM 2.5 ปัญหาสุขภาพและแนวทางการแก้ไข
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาจะมีการรวบรวมข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลผลกระทบจากราชวิทยาลัยต่างๆ ส่งถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์หน้า ส่วนมาตรการระยะยาว อย่างเรื่องการปลูกต้นไม้ เช่น ต้นตะขบ ซึ่งใบจะมีขนจึงดูดซับฝุ่นได้ดี
นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้แทนราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คาดว่าเราต้องอยู่กับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 อย่างน้อยอาจจะปลายเดือน ก.พ.ถึงมี.ค. สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องระวัง 1.ประเมินตัวเองว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ เช่น คนมีโรคประจำตัว 2. ประเมินพื้นที่เสี่ยง
"ไม่อยากให้กังวลพื้นที่สีแดงสีส้มมาก เนื่องจากอยู่ไม่กี่เดือน แต่ในพื้นที่สีแดงหากอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป เป็นเวลา 1 ปี สีปอดจะเท่ากับคนสูบบุหรี่ 1 ซองในระยะเวลา 30 ปี ส่วนพื้นที่ส้มจะเท่ากับการสูบบุหรี่ครึ่งซองในระยะเวลา 30 ปี ทั้งนี้มีงานวิจัยในญี่ปุ่นพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเมื่อได้รับมลพิษเยอะ ทำให้เป็นโรคปอดบวมมากขึ้น ดังนั้นโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงควรมีการประเมิน ให้เด็กอนุบาลและประถมต้นเลื่อนเวลาการเข้าเรียน อาจจะเป็นช่วง 10 โมง ส่วนมาตรการการแจกหน้ากากควรแจกคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้า คนขับรถรับจ้างประเภทต่างๆ" ผู้แทนราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยกล่าว
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างร่วมคณะคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองที่กำลังส่งผลกระทบต่อคนกรุงเทพฯ ว่า ปัญหาฝุ่นละอองเป็นเรื่องใหญ่ จะนิ่งดูดายไม่ได้ มีผู้ใหญ่บางคนพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นได้ทุกปีคงไม่ใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นหากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง แก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน
"การแก้ปัญหาระยะสั้นพรรคเพื่อไทยขอเสนอ อย่าอยู่ในที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 เยอะ ใส่หน้ากาก ลดการใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซล ควบคุมการขนส่งซึ่งเป็นสาเหตุของฝุ่น เช่น รถบรรทุกกรวดทราย ส่วนระยะยาวขอเสนอ 5 เรื่องใหญ่ อาทิ จัดทำนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งรถอายุเกินกว่า 10 ปีต้องออกไปจากถนนลดจำนวนเครื่องยนต์ดีเซล และสนับสนุนรถไฟฟ้าไฮบริด กำหนดมาตรฐานทางกฎหมายที่เข้มงวดสำหรับการเผาในที่แจ้ง ตรวจสภาพเครื่องยนต์อย่างเข้มงวดในการตรวจสภาพประจำปี" นายปลอดประสพกล่าว
ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำชาว กทม. 41 คน เข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำเลยที่ 1 นายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2 และผู้ว่าฯ กทม. จำเลยที่ 3 ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ รวมทั้งไม่มีมาตรการหรือแผนงานที่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมในระยะยาวได้ หากปล่อยไป ก็อาจจะเกิดวังวนของปัญหาเช่นนี้กลับมาอีกในแต่ละปี ซึ่งจะกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |