มีโอกาสพูดคุยกับ "ซุน" สฐิพัจ สายวิวัฒน์ นักธุรกิจ และหนึ่งในคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ผันตัวจากสายนักธุรกิจ เข้าสู่เวทีการเมือง โดยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
0 เข้าสู่ถนนการเมืองได้อย่างไร?
การเมืองผมมองว่าเป็นเรื่องของการบริหารจัดการองค์กรหนึ่ง ปกติเราใช้สกิลในการบริหารองค์กร โดยที่ผ่านมาจะมีเรื่องการเมืองสอดแทรกมาบ้าง นโยบายรัฐบาลส่งผลต่อธุรกิจเรา ซึ่งที่ผ่านมาเราทำได้แค่บ่นหรือพูดกับเพื่อนว่า เรื่องนั้นดี-ไม่ดีอย่างไร แต่ตอนนี้เป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่ให้มา “สนใจไหม ลองเข้ามาดู” แต่เราก็ต้องเปลี่ยนสถานะจากคนที่เป็นแค่ผู้วิจารณ์ลองเข้ามาดูว่าเราสามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับประเทศได้บ้าง ก็เลยเลือกเข้ามาสู่งานการเมือง
0 ทำไมถึงเลือกพรรคพลังประชารัฐ?
เป็นพรรคเดียวที่ให้โอกาสเราอย่างชัดเจน มีฝั่งผู้ใหญ่ที่ได้มีการชวนผ่านพี่ๆ ที่รู้จักกัน พอคุยกันจริงๆ ทำให้เรารู้ว่าเขาเปิดโอกาสให้เราจริงๆ รับฟังเราจริงๆ จากสิ่งที่เราแชร์ไป รวมประสบการณ์ของเรา
0 ด้วยความที่มีประสบการณ์ด้านการบริหาร จะนำเรื่องสกิลบริหารของเรามาพัฒนาการเมืองประเทศไทยได้อย่างไร?
การเมืองคือการบริหารจัดการองค์กรระดับประเทศ จากสกิลที่เรามีสามารถปรับใช้กับองค์กรที่ใหญ่กว่าได้ พร้อมกับประสบการณ์ที่เราเรียนมา สิ่งที่เราได้เคยเห็นจากหลากหลายประเทศที่เราได้ไปสัมผัสมา ผมว่าจุดนี้เราสามารถรวบรวมและประยุกต์ใช้ให้กับประเทศเราเพื่อสร้างประโยชน์ต่อไปได้
0 มีความสนใจผลักดันพัฒนาอะไรในประเทศไทยเป็นสิ่งแรก?
สนใจด้านเกษตรและอาหาร เพราะว่าบ้านเรามีทรัพยากรเกี่ยวกับการเกษตรที่มีค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้รับการดูแลและพัฒนาเพียงพอให้เกิดผลิตผลสูงสุด เรามองว่าประเทศเรายังมีเทคโนโลยีที่มีองค์ความรู้ที่สามารถพัฒนาเรื่องนี้ได้ อีกด้านคือการคมนาคม ซึ่งเรื่องอาหารไม่ได้มีแค่การผลิตและแปรรูป แต่ระหว่างทางยังมีเรื่องการขนส่ง ซึ่งผมยังมองว่าการคมนาคมการขนส่งสินค้ายังสามารถพัฒนาได้อีกมาก
0 กลัวความกดดันไหม ถ้าสังคมภายนอกมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคของทหาร
ไม่กลัว เพราะคำว่าทหารไม่ได้มีแค่ด้านลบ แต่มีด้านบวกด้วย ทหารก็คือประชาชนคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นขาหนึ่งของประเทศที่อย่างไรก็ต้องมี ส่วนที่บอกทหารไม่ดีนั้น เป็นแค่วาทกรรมทางการเมือง ผมมองความเป็นจริงแล้วมันไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ในขณะนี้ยังไม่มีทหารที่อยู่ในพรรค ในพรรคล้วนมีนักการเมืองและนักธุรกิจ ฉะนั้นความกดดันที่ใครบอกว่าเป็นพรรคทหารนั้น ไม่ได้สร้างปัญหาด้านลบต่อพรรค เราเองก็ต้องสู้เพื่อจะได้ใจประชาชนนั้นก็คือเรื่องนโยบาย
0 คิดว่านโยบายของพรรคเรานั้นจะเป็นแค่นโยบายประชานิยมหรือไม่
เรามองเป็น 2 ส่วน 1.นโยบายระยะสั้น นโยบายของพรรคจะต้องเป็นนโยบายเร่งด่วนที่มาจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเราจะต้องเข้าไปช่วยในทันที ผมมองว่าประชาชนที่ยังเดือดร้อนนั้นก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด เราจะต้องทำให้เขาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ 2.นโยบายระยะยาว ที่เราจะต้องพัฒนาศักยภาพของประชาชน เพราะหลังจากที่เราใช้นโยบายระยะสั้นช่วยเหลือแล้ว ระยะยาวเราจะต้องให้เขาอยู่ได้ด้วยตนเอง
0 คิดถูกหรือไม่ที่มาเล่นการเมือง?
ถ้ากลัวคงไม่มา ผมได้คุยกับตัวเองแล้ว กับที่บ้านแล้ว ได้ลองดูว่าจริงๆ แล้วมุมมองเรากับมุมมองการเมืองนั้นเป็นอย่างไร เราก็ต้องเข้าใจว่าเวลาที่พูดถึงเรื่องการเมือง ก็มีแต่คนบอกว่าเบื่อ รู้สึกว่าการเมืองไทยไม่สะอาด ไม่ซื่อตรง แต่การเมืองคือการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่เมื่อคนเราคิดด้านลบทำให้องค์กรระดับประเทศต้องถูกทิ้งไป โดยมองว่าควรน่าจะปรับมุมมองความคิดสักหน่อย ว่าการเมืองคือสิ่งสำคัญมาก และเราจะต้องเข้าไป เรามีศักยภาพความรู้พอ อีกทั้งตัวเราก็ไม่ได้สกปรก แล้วมองว่ามีโอกาสแล้วเราก็ต้องเข้าไปลองดู การที่ได้พูดคุยกับพี่ๆทีมงานหลายคน ทำให้รู้ว่าทุกคนมาด้วยใจ และมีแรงผลักดันคล้ายกันที่อยากผลักดันประเทศเราให้ก้าวกระโดดออกไป สุดท้ายคนข้างนอกจะตัดสินใจอะไรด้วยอะไรก็ตาม ขอให้เรารู้ตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราสร้างประโยชน์จริงๆ หรือเปล่า ถ้าเราสร้างประโยชน์ มันก็เป็นของขวัญที่ผมอยากให้กับสังคม
การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน การใช้ชีวิตของเรา นโยบายที่ออกมามันกระทบเราอยู่แล้ว คุณภาพชีวิต คุณภาพขนส่งมวลชน ล้วนมาจากนโยบายที่ถูกส่งต่อมาจากคนข้างบน เพราะฉะนั้นเรื่องการเมืองอยู่กับเราทุกวินาที ผมอยากจะบอกว่า มาร่วมกันเถอะ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ลองหันมาว่าการเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นงานที่กระทบต่อคนทุกคน และสร้างประโยชน์ได้จริง.
-ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-ปริญญาโท เศรษฐศาสตร์และการตลาด ด้านธุรกิจอาหาร จากมหาวิทยาลัยเรดดิง ประเทศอังกฤษ
-ผู้ช่วยบริหารสื่อโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น ป้ายโฆษณา
-ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอาหาร
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |