“บีไอจี” พร้อมส่งน้ำแข็งแห้งบริสุทธิ์ ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำหรับปฏิบัติการทำฝนเทียมในเขตภาคตะวันออกเพื่อช่วยเหลือทั้งเกษตรกร และช่วยลดฝุ่น ในเขตกทม. และปริมณฑล เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ด้าน กพร.ตรวจเข้มเหมืองแร่ทำงานระวังการเกิดฝุ่น
17 ม.ค. 62- ปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจรของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการจัดส่งน้ำแข็งแห้งส่วนที่ยังคงเหลือจากโครงการส่งมอบน้ำแข็งแห้งเพื่อปฎิบัติการฝนหลวงให้แก่กรมฝนหลวงฯ ในปีที่ผ่านมาจำนวนทั้งสิ้น 70 ตันรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเพื่อตอบแทนสังคม (Corporate Social Responsibility) ของบริษัทฯ ในการเป็นส่วนหนึ่งของสนับสนุนการทำฝนเทียมในเขตภาคตะวันออกเพื่อลดปัญหาภัยแล้ง และในช่วงเวลานี้จะช่วยนำมาสู่การลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
“ปริมาณน้ำแข็งแห้งที่มีการส่งมอบในปีที่ผ่านมา ยังคงมีปริมาณคงเหลือที่สามารถนำไปใช้ทำฝนเทียมได้ บริษัทฯ จึงเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนเพื่อการปฎิบัติการดังกล่าว หากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีความต้องการนำไปใช้เพื่อทำฝนเทียม บริษัทฯ ยินดีจัดเตรียมน้ำแข็งแห้งเพื่อให้กรมฝนหลวงฯ สามารถนำไปใช้ได้ทันที อีกทั้งบีไอจียังเล็งเห็นถึงปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำทั้งเพื่อการอุปโภค บริโภค รวมถึงการเกษตรกรรมที่มักเกิดขึ้น จึงมีการสานต่อโครงการส่งมอบน้ำแข็งแห้งให้กับกรมฝนหลวงฯ ในปีถัด ๆ ไปอีกด้วย” นายปิยบุตรกล่าว
บีไอจีได้ทำการส่งมอบน้ำแข็งแห้งซึ่งเป็นผลผลิตจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทฯ และแปรรูปเป็นน้ำแข็งแห้งแบบเกล็ดละเอียด ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ สามารถนำไปใช้ปฏิบัติการทำฝนเทียมได้ทันที ซึ่งจะช่วยในการลดขั้นตอนการเตรียมน้ำแข็งแห้งสำหรับโปรยบริเวณกลุ่มเมฆในขั้นนตอนสุดท้าย (โจมตี) ของการทำฝนเทียม อีกทั้งยังง่ายต่อการขนส่งและจัดเก็บ
สำหรับแนวทางการทำฝนเทียมเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพและปริมณฑล บริษัทฯ ได้ปรึกษาร่วมกับกรมฝนหลวงฯ หาแนวทางความเป็นไปได้ในทางปฎิบัติการที่จะนำน้ำแข็งแห้งมาช่วยสนับสนุน โดยความเป็นไปได้คือการใช้น้ำแข็งแห้งในการช่วยสร้างเมฆฝนในเขตภาคตะวันออก และอาศัยลมจากทางภาคตะวันออกพัดนำกลุ่มเมฆเคลื่อนเข้าสู่เขตกรุงเทพและปริมณฑลตามลำดับ ซึ่งขณะนี้กรมฝนหลวงฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) กล่าวว่าจากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่เกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กพร. ได้กำชับให้สถานประกอบการเหมืองแร่ โรงแต่งแร่ และโรงประกอบโลหกรรมทั่วประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดฝุ่นละออง ประกอบกิจการด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและกำกับดูแลการประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการควบคุมไม่ให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้น
“นอกจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่มีความเข้มงวดในการตรวจสอบและเฝ้าระวังการประกอบการเหมืองแร่ โรงแต่งแร่ และโรงประกอบโลหกรรมให้มีการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างถูกต้องและปลอดภัยแล้ว ยังให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อให้สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้การประกอบการสร้างความเดือดร้อนด้านสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชนในพื้นที่” นายวิษณุ กล่าวทิ้งท้าย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |