ควันพิษว่าน่ากลัวแล้ว
    ทัศนคติที่เป็นพิษน่ากลัวกว่าเป็นร้อยเท่าทวีคูณ 
    หลายวันมานี้ ปัญหาควันพิษใน กทม.และปริมณฑล เป็นปัญหาใหญ่ สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว 
    ถึงขั้น หน้ากากอนามัยขาดตลาด!
    สาเหตุของปัญหา สังคมรับรู้ไปพร้อมๆ กันว่า มาจากฝุ่นละอองพิษที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ และสภาพอากาศที่ผิดเพี้ยน 
    เป็นหน้าหนาวที่ไม่มีลมหนาว 
    อากาศกลับนิ่ง ไร้ลม ราวกับว่า ธรรมชาติหยุดนิ่งเพื่อทดสอบมนุษย์ 
    ขาด "ลม" แล้วมนุษย์จะทำอย่างไร
    จะรู้สึกรู้สาแล้วหยุดทำร้ายธรรมชาติหรือไม่ 
    แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์เมินธรรมชาติ หันมาโทษมนุษย์ด้วยกัน 
    โทษว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ
    โทษว่า เพราะประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย 
    สุดแต่จะโทษกัน 
    แล้วจะมีกี่คนที่โทษตัวเอง 
    เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนสร้างปัญหาทั้งสิ้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม 
    รถทุกคัน กิจกรรมมนุษย์ทุกคน ล้วนก่อเกิดฝุ่นทั้งสิ้น มากน้อยแตกต่างกัน 
    ในโลกโซเชียล เอาแต่โทษว่า รัฐ ไร้ฝีมือ รัฐ ไม่มีปัญญา รัฐ เป็นคนก่อปัญหา
    กลับกันหากรัฐบาลประกาศห้ามใช้รถทะเบียนวันคู่วันคี่ จะมีสักกี่คนที่จะให้ความร่วมมือ โดยไม่อิดออด 
    เพราะมาตรการนี้สามารถลดคาร์บอนมอนอกไซด์จากรถยนต์ได้ทันทีครึ่งหนึ่ง 
    ถ้าทุกคนหยุดสูบบุหรี่ในช่วงที่ "ไร้ลม" ก็ลดคาร์บอนมอนอกไซด์จากการสูบบุหรี่ไปได้ทันที ๑๐๐% 
    ครับ...หากมาตรการเหล่านี้ออกมา มนุษย์ก็จะโอดครวญว่า ไม่มีรถก็เดินทางลำบาก เพราะระบบขนส่งมวลชน ไม่ครอบคลุม และไร้ประสิทธิภาพ 
    บ้างก็ว่า กระทบกับวิถีชีวิตปกติที่เคยปฏิบัติมาทุกวัน 
    ส่วนนักการเมืองที่คิดไปไกลว่าเพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง จะโจมตีอย่างหนักหน่วง ทำให้รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ 
    ราวกับว่าหากเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลจะเกรงใจประชาชนมากกว่ารัฐบาลเผด็จการ
    ใช่หรือ?
    สมัยรัฐบาลหนูไม่รู้ มีประชาชนเรือนล้านชุมนุม ก็ไม่เห็นหนังหน้ารัฐบาลจากการเลือกตั้งจะสะทกสะท้าน 
    ฝุ่นก็เหมือนประชาธิปไตย 
    ยามที่ไร้ลม ฝุ่นจะเป็นอันตราย ต่อสุขภาพมนุษย์ทุกคน
    เหมือนประชาธิปไตย ยามที่คนต้องการอำนาจแล้วอ้างประชาธิปไตย จะทำให้ประเทศตกอยู่ในอันตรายทันที 
    และวันนี้นักการเมืองที่ต้องการเข้าสู่อำนาจ กำลังใช้ประชาธิปไตยบังหน้า 
    เป็นนักการเมืองที่ร่วมขบวนการโกงในรัฐบาลก่อน ทำตัวราวโจรกลับใจแบบหลบใน 
    ฝุ่นควันพิษมาเดี๋ยวเดียวก็หาย 
    แต่ประชาธิปไตยเป็นพิษ จะต้องเลือกตั้งกันอีกกี่ครั้งคนโกงถึงจะหายไป?