ตำรวจไม่กล้าพามือปืนฆ่า 5 ศพทำแผนจุดเกิดเหตุ หวั่นถูกสหบาทา เจ้าตัวอ้างไปทวงรถคืน พ่อตากับเมียพูดยั่วโทสะจนลืมตัว ไอ้ปุ๊งานงอก ที่แท้รวย 30 ล้านเป็นเงินที่ตุ๋นบาทหลวงมา มีการแจ้งความไว้แล้ว
มีรายงานว่า เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธีรพล หรือปุ๊ ปิ่นอมร มือปืนก่อคดียิง 5 ศพภรรยาและพร้อมครอบครัว เดินทางจากจังหวัดระนองไปคุมขังไว้ที่ สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยจัดกำลังคุ้มกันใกล้ชิด ขณะที่นายธีรพลมีท่าทีวิตกอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งถึงเช้าวันที่ 16 มกราคม เจ้าหน้าที่ได้นำนายธีรพลไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อทำแผนจำลองประกอบคำรับสารภาพ แทนที่จะไปทำยังจุดเกิดเหตุ เพราะเกรงว่าประชาชนและญาติผู้ตายจะเกิดความเจ็บแค้นรุมประชาทัณฑ์ นายธีรพลกล่าวว่า ที่ก่อคดีสะเทือนขวัญเพราะมีปัญหากับพ่อตาและภรรยา ซึ่งได้คุยกันว่าถ้าจะเลิกกันก็ต้องคืนรถที่ซื้อให้ ซึ่งพ่อตากลับท้าทายว่าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา ส่วนเมียก็ขู่ว่าถ้าเข้ามาในเขตบ้านจะแจ้งจับ ทำให้ตนโกรธจนขาดสติ ชักปืนยิงพ่อตา และภรรยา จากนั้นก็ไล่ยิงน้องเมีย
แล้ววกกลับมาหาพ่อตาซึ่งยังไม่เสียชีวิต และพูดว่าพรุ่งนี้จะเซ็นเอกสารให้ ตนจึงพูดสวนขึ้นว่า ทำไมตอนแรกไม่พูดแบบนี้ แล้วยิงซ้ำ ก่อนขับรถไปยิงแม่ยายกับคู่แฝดและพี่สาว
มีรายงานว่า ผลการชันสูตรศพนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว พบว่าตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ขัดกับคำให้การของนายธีรพลที่ว่าภรรยาเพิ่งมีประจำเดือน ไม่ได้ท้อง นอกจากนี้นายธีรพลให้การด้วยว่า ได้ซื้อปืนมาจากนายตั้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล
ในช่วงบ่าย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ที่เดินทางไปสอบปากคำนายธีรพล ได้มอบเหรียญทำความดีให้แก่ชุดจับกุม ระบุว่า คดีนี้เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการระหว่างทหารและตำรวจในพื้นที่ จ.ระนองและ จ.อุตรดิตถ์ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพถึงสาเหตุที่ก่อเหตุมาจากเรื่องความแค้นบันดาลโทสะ เนื่องจากที่ผ่านมามักทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยามาโดยตลอด จนลามมาถึงเรื่องทวงคืนทรัพย์สิน ทราบว่าเงิน 30 ล้านบาทที่อ้างว่าเอามาให้ฝ่ายภรรยา ได้มาจากคดีฉ้อโกงที่ จ.ชลบุรี ทำให้ตอนนี้กำลังตามตรวจสอบที่มาที่ไปของทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งบ้าน รถยนต์ รวมทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ในส่วนคนในครอบครัวและชาวบ้านที่หวาดผวา กลัวว่าสมุนนายปุ๊จะตามเก็บเพื่อแก้แค้นที่ลูกพี่ถูกจับ ขณะนี้ได้สั่งให้จัดกำลังไปดูแลคุ้มครองครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว
ปมเงิน 30 ล้านบาท พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2562 บาทหลวงยอแซฟ ไชโย กิจสกุล อายุ 66 ปี ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายธีรพล ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 30 ล้านบาท โดยเมื่อช่วงต้นปี 2557 นายธีรพลได้ขับรถมาหาบาทหลวงไชโย ซึ่งกำลังจัดกิจกรรมอบรมอยู่ที่โรงเรียนดาราสมุทร อ.ศรีราชา เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมกับนำเอกสารที่ดิน ระบุอยู่ในเขตอำเภอเมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งอ้างว่าเป็นของตนเอง และได้ขายที่ดินผืนดังกล่าวให้ผู้อื่นไปแล้วในราคา 35 ล้านบาท แต่ไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่อายัดเงินไว้ เพราะเคยมีคดีเก่าที่ญาติพี่น้องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ก่อนจะขอร้องบาทหลวงไชโยให้ช่วยหาเงินจำนวน 29,861,560 บาทให้ เพื่อนำไปใช้จ่ายในการดำเนินการเอาเงินจากการขายที่ดินจำนวน 35 ล้านบาทออกจากบัญชีธนาคารที่ถูกอายัดไว้ ปรากฏว่าบาทหลวง ยอแซฟ ไชโย หลงเชื่อ และโอนเงินให้นายธีรพล กระทั่งมารู้ภายหลังว่าถูกโกง จึงเข้าแจ้งความ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |