“ประยุทธ์” โวยไม่เข้าใจกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมาขีดเส้นตายได้อย่างไร ชี้เป็นหน้าที่ กกต. “บิ๊กแดง” ฮึ่ม! อย่าล้ำเส้นกัน อัดขีดเส้นให้คนอื่นก็ต้องขีดเส้นตัวเองด้วย เผยอ่านเกมออกเพราะเห็นมาตั้งแต่ปี 2547 ก็คนกลุ่มเดิมๆ ซ้ำเลือกพื้นที่เคลื่อนไหวเหมือนยุคเผาบ้านเผาเมือง “ผบ.ทบ.” ชี้ส่งทหารประกบติดนักการเมืองลงพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัย แนะให้เกียรติกันและกัน อย่ามาซักไซ้เจ้าหน้าที่ โต้เดือดเป๋าตุง “อนุชา” จัดหนักเจ๊หน่อย ปูดซีทีเอ็กซ์หวังด่ากระทบนายเหลี่ยมหรือ
เมื่อวันอังคาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ขีดเส้นตายให้รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะเคลื่อนไหวในวันที่ 19 ม.ค.ว่า ที่ผ่านมาก็บอกมาโดยตลอดแล้วว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ส่วนที่กำหนดเส้นตายเงื่อนไขในวันที่ 19 ม.ค.นั้น อยากถามว่าขีดเส้นตายให้รัฐบาลได้หรือ เรื่องนี้ไม่เข้าใจ ทั้งหมดอยู่ในกำหนดการเดิม การเลือกตั้งภายใน 150 วัน คือวันที่ 9 พ.ค.2562 แต่เราให้มีการจัดการเลือกตั้งก่อน
“ผมไม่ได้ต้องการไปพูดอะไร เป็นหน้าที่การกำกับดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะกำหนดวันมา โดยการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ และสามารถดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้ เพียงแต่ต้องให้เวลาในการเตรียมการก่อนในระหว่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และกิจกรรมที่ประชาชนทั้งประเทศจะจัดถวายในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะนี่คือสถาบันหลักของประเทศ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
มีรายงานข่าวในที่ประชุม ครม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปรารภตอนหนึ่งเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ดูแลอยู่แล้ว ส่วนหน่วยงานอื่นต้องชี้แจงไปว่าการจะเลื่อนเลือกตั้งไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หากอยากทราบเหตุผลต้องไปสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งคือ กกต. จะมาสร้างเงื่อนไขต่อรองกับรัฐบาลไม่ได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีกลุ่มอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวในพื้นที่ กทม.ว่า มีเคลื่อนไหวอยู่แค่ 100-200 คน แล้วจะทำอย่างไรได้ เพราะต่างคนต่างความคิด คนที่ต้องการให้เลือกตั้งหลังพระราชพิธีก็มี เขาก็ออกมาเหมือนกัน มีทั้งสองฝั่ง
ถามถึงกรณีกลุ่มต้องการให้เลื่อนเลือกตั้งเคลื่อนไหว มีการมองว่าเป็นกลุ่มปิดปากประชาธิปไตย พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ปิดปากอะไร อย่างไรก็ต้องเลือกตั้งแน่ภายใน 150 วัน เพราะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว แล้วจะมาเอาอะไรอีกล่ะ”
ต่อข้อถามว่า ถ้าเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกจะกระทบความเชื่อมั่นของประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อ้าวก็มีพระราชพิธี แล้วจะเอาอย่างไรอีก ต้องดูว่าทับซ้อนกันหรือเปล่า ซึ่งถ้าทับซ้อนอาจต้องเลื่อนกันนิดหน่อยก็ได้ ส่วนจะเลื่อนไป 1-2 วัน หรือกี่วันก็ยังไม่รู้ แล้วแต่ กกต.ที่ต้องนำเรื่องพระราชพิธีไปเทียบกันแล้วกำหนด
ถามว่า ฝ่ายความมั่นคงจะปล่อยให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวในวันที่ 19 ม.ค. ตามที่ประกาศไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่เขา แต่เขาต้องขออนุญาต และอยู่ในกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย และเชื่อว่ามีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้า ที่ จะกระทบกระทั่งได้อย่างไร ตำรวจเขาเรียบร้อยจะตายไป ไม่มีหรอก
บิ๊กแดงอ่านเกมออก
ด้าน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นห่วง ถือเป็นสิทธิเสรีของเขาที่จะทำ แต่เสรีภาพการใช้ประชาธิปไตยควรอยู่ในกรอบ ซึ่งเป็นห่วงผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่รอบข้าง ภาพการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจะเข้าใจอย่างไร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงเคยเกิดบริเวณนั้นอยู่แล้ว สัญลักษณ์ของคนที่ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก็มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกันกับสิ่งที่เกิดที่ผ่านมาในอดีต
“สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจไปห้ามอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่บนสิทธิเสรีภาพบนแนวความคิดที่เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงเขาได้ ขอให้เห็นใจ ประชาชนที่สุจริตและประกอบอาชีพอยู่แถวนั้น ห้างร้านต่างๆ ก็หวาดระแวง นักท่องเที่ยวผ่านไปมา คนขับรถก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ในทางกลับกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายความมั่นคงต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุ และต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ขอให้อดทนจากการยั่วยุทุกประเภทที่จะเกิดขึ้น” พล.อ.อภิรัชต์ระบุ
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงทัศนคติที่ไม่ดีของ ผบ.ทบ.ต่อกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ไม่เคยบอกว่ามีทัศนคติที่ไม่ดี เพราะมีทัศนคติดี ต้องกลับไปถามว่ามีประสบการณ์อยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมมาหลายปี เพราะฉะนั้นพอจะอ่านเกมออก เขาอยากจะพูดอะไรถือเป็นสิทธิ์ คงไม่ไปโต้ตอบ และจะทำหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงอย่างตรงไปตรงมา พร้อมปฏิบัติธรรมตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา หากทุกคนไม่ล้ำเส้น อยู่ในกรอบในระบอบประชาธิปไตย ก็ไม่ว่ากัน
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวต่อว่า เหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่นั้น มีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายรัฐ เพราะรัฐบาลได้พยายามทำหน้าที่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็ทำหน้าที่ของท่านได้ดีที่สุด รวมถึง ครม.และ กกต. แต่บางอย่างเรียนมาคนละอาจารย์ เขาถูกปลูกฝังมาเช่นนี้ เขาก็คิดของเขาเช่นนี้ ต่อให้ใครมาพูดก็ไม่เชื่อ แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศคิดว่ามีเหตุผลและรับฟังว่าเหตุผลว่าคืออะไรในเรื่องปัญหาที่กำลังชุมนุมเรียกร้องกันอยู่ ในปัจจุบันประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวสารข้อมูลที่เชื่อถือได้ก็คงจะทราบดีว่าเหตุผลอะไร ซึ่งก็บอกหลายครั้งแล้วว่าจะไปเปลี่ยนความคิดของคนนั้นคงลำบาก
เมื่อถามว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการจัดงานพระราชพิธีฯ หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ แต่การดำเนินการใดๆ ก็ตาม ขอให้อยู่ในกรอบ เมื่อท่านมาขีดเส้นไว้ว่าคนนั้นต้องทำอย่างนั้น ท่านก็ต้องขีดเส้นตัวเองด้วย ไม่ใช่มาขีดเส้นให้คนโน้นคนนี้เดินอย่างเดียว เอาเส้นขาวหรือเส้นอะไรมาวางให้เขาเดิน ท่านก็ต้องขีดเส้นที่ตัวท่าน อย่ามาล้ำเส้นกัน ฝ่ายการเมืองก็เดินไป ฝ่ายความมั่นคงทำงานไป ก็จะเป็นระบบสอดคล้องกัน
“ผมพูดไปรับรองไม่เกินอีกครึ่งชั่วโมงก็จะมี feedback กลับมา แต่ผมก็พูดในฐานะที่มีบทบาทเข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2547 ผมคิดว่าประชาชนคงไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นอีก ทุกคนก็เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคือกลุ่มเดิม ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นและมีสิทธิ์ที่จะออกมาชุมนุมเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าขณะนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลของ คสช.เราก็ไม่ได้ดำเนินการมาตรการอะไรทั้งๆ ที่เรามีกฎหมายอำนาจของ คสช. เราก็ปล่อยให้แสดงความคิดเห็น ผมเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและเห็นใจรัฐบาล”พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
พท.โหนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า มีการแสดงความห่วงใยมามากเกี่ยวกับสีเสื้อที่ปรากฏในภาพการชุมนุมล่าสุดของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ขอยืนยันหลักการว่า พื้นที่แห่งประชาธิปไตยคือพื้นที่ของทุกคน และยินดีต้อนรับทุกคนที่พร้อมเดินร่วมกันบนแนวทางสันติวิธีเสมอมา และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของหลักการนี้ ในกิจกรรมวันที่ 16 ม.ค. จะใส่เสื้อสีที่ใส่บ่อยที่สุดคือ สีขาว ซึ่งสีขาวแห่งประชาธิปไตย จึงไม่ใช่ขาวเพราะความว่างเปล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่าง ซึ่งเป็นที่รวมทุกสีเข้าไว้ด้วยกัน ใครเห็นด้วยก็ใส่มาค่ะ
ด้านความคิดเห็นของนักการเมืองนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ความไม่ชัดเจนของกำหนดการการเลือกตั้งนั้น บั่นทอนความเชื่อมั่น และบั่นทอนความหวังของประชาชน จึงจำเป็นที่ต้องเร่งรัดให้เกิดความชัดเจนว่าการเลือกตั้งนั้นจะมีขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อใด หากปล่อยให้สถานการณ์ความคลุมเครือเช่นนี้เกิดขึ้น ย่อมไม่เป็นผลดีต่อประเทศแน่นอน และขอเป็นกำลังใจให้นักสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกคน เพราะการต่อสู้ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคน เป็นการต่อสู้เพื่อคืนความเชื่อมั่นให้ประเทศ คืนความหวังให้คนทั้งสังคม
ต่อมาพรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้งและยุติการใช้กลไกของรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง โดยได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์กำชับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง อย่าทำปากว่าตาขยิบ และขอให้ กกต.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ใช้อำนาจรัฐเพื่อเป็นคุณแก่พรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ และขอให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง และยุติการคุกคามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งด้วย เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพอันชอบธรรมของประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรคการเมืองและประชาชนอยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่อยากให้มีการตั้งคำถามและกระทบกับความเชื่อถือเชื่อมั่น เพราะทุกคนอยากเห็นการจัดงานพระราชพิธีที่เรียบร้อย ราบรื่น สมพระเกียรติ ไม่มีใครอยากสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความรับผิดชอบที่จะสร้างความชัดเจนให้ทุกฝ่ายมั่นใจ ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น หากใช้สิทธิ์เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญก็ทำได้ ส่วนคนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็มีสิทธิ์ที่แสดงความคิดเห็น แต่อย่าให้ลุกลามบานปลาย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งถือเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย โดยเฉพาะยิ่งเข้าสู่วาระใกล้เลือกตั้งที่ประชาชนรอมานาน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าการแสดงออกทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งถือว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีเจตนาดี และไม่คิดว่าจะนำสู่เงื่อนไขความรุนแรงหรือเกิดปั่นป่วนในสังคมแต่อย่างใด
สำหรับความเคลื่อนไหวในการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยใช้วาทกรรม “อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ” เดินสายหาเสียงนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปถามคุณหญิงสุดารัตน์กันเองแล้วกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำได้หรือไม่ได้ ก็ไม่รู้เหมือน
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองมองการประชุม ครม.สัญจรเป็นการหาเสียง เรียกร้องให้ยุติ ว่าพูดอยู่อย่างนี้ พูดไปเรื่อย อธิบายไปหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มาประชุมมารับฟังความคิดเห็นของประชาชน รับเรื่องร้องเรียนและขับเคลื่อนงาน ที่ผ่านมาตอนมีรัฐบาลเลือกตั้ง นักการเมืองไปพบก็เหมือนนั้นแหละ ไปพบคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ไปพบเฉพาะกลุ่ม รวมทั้งได้ถามผู้ว่าฯ มีการเกณฑ์ใครมาหรือเปล่า ซึ่งทุกคนมาด้วยความเต็มใจ ถ้าไม่เต็มใจคงไม่มีใครมาพูดดีหรอก และการเกณฑ์คนไปเกณฑ์ได้ที่ไหน ไม่ได้ไปจ้างวานใครเขามา สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะพิจารณาเองว่าทำอะไรเมื่อไหร่ อย่างไร ตราบใดที่ยังทำตามกฎหมายอยู่ได้ก็ทำ และทำได้ถึงเมื่อไหร่อย่างไรจะพิจารณาเอง
แนะให้เกียรติเจ้าหน้าที่
พล.อ.อภิรัชต์ยังกล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า เรื่องดังกล่าวเราติดตามความเคลื่อนไหว หรือเรียกว่าไปดูการหาเสียงของทุกพรรคอยู่แล้ว ไม่ได้เว้นพรรคใดพรรคหนึ่ง และที่ติดตามก็ไม่ได้มีเจตนาไปจับผิดฝ่ายการเมือง ในทางกลับกันอยากให้มองว่าฝ่ายการเมืองก็มีคู่แข่ง มีคนได้และเสียประโยชน์ หากเกิดเหตุความวุ่นวาย ซึ่งฝ่ายทหารก็ต้องตกเป็นเป้าอยู่ดี และจะมาโยนความผิดให้ เพราะบางครั้งฝ่ายทหารอยู่เฉยๆ ก็มีคนมาใส่ร้ายป้ายสี ฝ่ายรัฐบาล ทหารและตำรวจอยู่เสมอ
“ขอให้ท่านได้สบายใจว่าการที่มีทั้งทหารและตำรวจไปเพื่อเป็นความปรารถนาดี และเราดำเนินการเช่นเดียวกันทุกพรรค และได้เน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ต้องให้เกียรติผู้ที่เข้ามาดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง และในทางกลับกัน ฝ่ายการเมืองก็กรุณาให้เกียรติเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ไปดูหมิ่นดูแคลนซักไซ้ไล่เลียงเจ้าหน้าที่ที่เขามาติดตาม และอำนวยความสะดวกเรื่องการรักษาความปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่จำเป็นต้องไปแนะนำตัวกับฝ่ายการเมืองด้วย” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว
วันเดียวกัน ยังคงมีการตอบโต้ทางการเมือง โดยเฉพาะการปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และคุณหญิงสุดารัตน์ โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้เป็นคนเก่งกาจอะไร ค่อนข้างขี้ขลาดเสียด้วยซ้ำ เห็นได้ว่าตั้งแต่มีการยึดอำนาจ ร.ต.อ.เฉลิมเงียบเป็นเป่าสาก ร.ต.อ.เฉลิมเพิ่งปากกล้าขึ้นมาหน่อยก็ตอน คสช.เขาปลดล็อกทางการเมือง ประเภทรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ในสายตาแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมมีความขี้ขลาดอยู่ในสันดาน
“คุณเฉลิมพูดว่าหากไม่มีการเลือกตั้งสงครามเกิดแน่นอน เป็นคำพูดที่ทำให้คนตื่นตระหนก ท่าน ผบ.ทบ.ไม่ลองเรียกคุณเฉลิมมาถามหน่อยหรือครับว่าสงครามที่พูดจะเกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน ชาวบ้านจะได้เตรียมรับมือสงครามได้ ผมว่าถ้า ผบ.ทบ.เรียกคุณเฉลิมมาสอบถามที่กองทัพบก คุณเฉลิมต้องใส่แพมเพิร์ส 2 ชั้นมาหาท่าน ผบ.ทบ.เลยทีเดียว เพราะคงเยี่ยวราดมาตั้งแต่บางบอนถึงกองทัพบกเลย” นายนิพิฏฐ์กล่าว
ส่วนนายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรค ปชป. แถลงตอบโต้กรณี ร.ต.อ.เฉลิมพาดพิงนายอภิสิทธิ์ ที่ร่วมเป่านกหวีดกับกลุ่ม กปปส.ว่า ขอทบทวนความจำของ ร.ต.อ.เฉลิม สาเหตุมาจากรัฐบาลสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้แก้ไขธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ของพรรคพวกและคนรอบข้าง รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งพรรค ปชป.เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนทั้งประเทศก็คัดค้าน
นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะอดีตเลขานุการนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์พาดพิงนายสุริยะว่ากระเป๋าตุงช่วงซีทีเอ็กซ์ โครงการดังกล่าวคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) มีนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเป็นประธานพิจารณาเห็นชอบ และที่สำคัญคดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาหลักก็คือนายทักษิณ ส่วนนายสุริยะเป็นผู้มีส่วนร่วม การที่คุณหญิงสุดารัตน์ออกมาพูดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง กำลังเป็นการให้ร้ายนายทักษิณ ซึ่งเป็นนายของตัวเอง ดีไม่ดีอาจถูกนายทักษิณปลดออกจากตำแหน่งว่าที่ผู้ชิงนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญ บางพรรคน่าจะหมดความชอบธรรมที่จะพูดถึงเรื่องทุจริตแล้ว เพราะอดีตผู้นำถึง 2 ท่านหนีออกนอกประเทศ เพราะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนกับการทุจริตใช่หรือไม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |