ฆาตกร5ศพจนมุม ไม่สู้-รับกลัวตาย!


เพิ่มเพื่อน    


    จนมุมแล้ว ไอ้ปุ๊จอมอำมหิตฆ่ายกครัวเมีย 5 ศพ ทหารลากคอได้หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแสซุกอยู่ในสวนปาล์มชายด้านระนอง ก่อนที่จะข้ามไปเมียนมา ยึดปืนทูตมรณะพร้อมกระสุนครึ่งร้อย พรรคพวกอีก 4 ที่ช่วยเหลือเข้าปิ้งด้วย เปิดปากสารภาพหลังก่อเหตุให้เพื่อนขับรถไปรับมุ่งลงใต้ "เฉลิมเกียรติ" คุมทำแผน 16 ม.ค. ส่วนคดีไอ้ทรพีข่มขืนทำร้ายแม่ ตำรวจก็ตามจับได้แล้วเช่นกัน
    มีรายงานเมื่อวันที่ 15 มกราคมนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้บูรณาการกำลังเข้าจับกุมนายธีรพล หรือวีรพล หรือ ปุ๊ ปิ่นอมร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงคนในครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ศพ ในพื้นที่ ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ หลังหลบหนีไปอยู่ที่ขนำสวนปาล์มติดกับชายแดนเมียนมา ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง และเตรียมจะหลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คุมตัวไปสอบปากคำที่ ร้อย ร.2521 ฉก.ร.25 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมคนไทยอีก 4 คนที่ให้ความช่วยเหลือนายธีรพลในการหลบหนี
    นายธีรพลได้ก่อเหตุสะทือนขวัญขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. บุกยิงนางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ อายุ 45 ปี แม่ยาย นางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ อายุ 45 ปี คู่แฝด และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ อายุ 48 ปี พี่สาว เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 71/10 หมู่ 2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นได้ขับรถไปยังบ้านเลขที่ 177 หมู่ 1 ต.พญาแมน ยิงนายวิรัช กิ่งแก้ว อายุ 48 ปี พ่อตา และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยาที่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 เดือน เสียชีวิต สาเหตุเพราะแค้นใจที่ภรรยาไม่ยอมคืนดี
    พ.อ.ฐิติพงษ์ อินวะษา รอง ผบ.ฉก. ร.25 เปิดเผยว่า จากการสอบถามนายธีรพล หรือปุ๊ ในเบื้องต้น ได้เปิดเผยถึงเส้นทางหลบหนีว่า ภายหลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและครอบครัวของภรรยา ก็ได้ขับรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ หลบหนีจากพื้นที่อุตรดิตถ์ ไปพักที่โรงแรมเมญ่า เลขที่ 29 หมู่ 6 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ก่อนจอดทิ้งไว้หน้าห้องพักหมายเลข 9 จากนั้นได้ยืมรถจักรยานยนต์ของแม่บ้านโรงแรม หลบหนีไปที่คลอง 6 จ.ปทุมธานี ก่อนเรียกเพื่อนให้ขับรถโตโยต้าวีออส สีขาว มารับ โดยนั่งอยู่เบาะหลัง ให้เพื่อนขับมุ่งหน้าลงพื้นที่ภาคใต้ไปยัง จ.ระนอง และได้หลบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ก่อนให้เพื่อนส่งลงที่สวนปาล์มรอยต่อชุมพร-ระนอง เพื่อรอรถมารับเข้าพื้นที่ระนอง โดยจะหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเมียนมา กระทั่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารติดตามจับกุมได้ เนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ 
    พ.อ.ฐิติพงษ์กล่าวด้วยว่า ในการจับกุมนายธีรพงษ์ เจ้าหน้าที่สามารถยึดปืนพกขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนในแมกกาซีน 3 นัด และกระสุนที่เตรียมมาอีก 48 นัด เงินสด 1 หมื่นบาทเศษ สร้อยทองคำหนัก 5 บาท 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารได้เปิดเผยคลิปวิดีโอวินาทีเข้าจับกุม โดยมีการสอบถามนายธีรพลว่า "ทำไมไม่สู้" ซึ่งนายธีรพลตอบว่า "ถ้าสู้ก็ตาย" นอกจากนี้นายธีรพลระบุว่า ปืนที่พกติดตัวเป็นกระบอกเดียวกับที่ก่อเหตุยิง 5 ศพ
    พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายธีรพลได้ที่บริเวณแนวชายแดนประเทศไทย-ประเทศเมียนมา ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง พร้อมกับยึดปืน 1 กระบอก อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ยิง 5 ศพหรือไม่ ทั้งนี้ การจับกุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คนร้ายไม่มีการต่อสู้ขัดขืน โดย
วันที่ 16 ม.ค. ตนจะเดินทางลงพื้นที่ไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ขณะนี้ยังคงให้น้ำหนักการสังหารโหดไปที่ประเด็นชู้สาว ความหึงหวง โดยนายธีรพลและภรรยาอยู่กินกันมานานกว่า 1 ปี มีปากเสียงกันตลอด เนื่องจากผู้ต้องหาติดเหล้าและใช้ยาเสพติด แต่ไม่ยืนยันว่าภรรยาของผู้ต้องหาตั้งครรภ์หรือไม่ ต้องรอให้แพทย์ตรวจสอบ  
    รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนคนที่พาหนี ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 1 คน เนื่องจากวงจรปิดในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์จับภาพรถต้องสงสัย เป็นรถยนต์และกระบะ 2 คัน ที่มารับผู้ต้องหาหลบหนี มั่นใจจะจับกุมได้ ส่วนการตรวจยึดรถยนต์วีออส สีดำ พร้อมคนขับ อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการพานายธีรพล หลบหนีลงพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ 
    มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ จะไปรับตัวผู้ต้องหาที่ จ.ระนอง เพื่อนำกลับไปสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย และเตรียมชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 16 ม.ค. โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. จะเดินทางไปร่วมด้วย
    ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการจับกุมนายวีรพลแล้วเช่นกัน รวมทั้งจับกุมผู้ที่ช่วยเหลือเป็นชาวไทย 4 คน และยึดของกลางได้จำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวมายัง ภ.จว.ระนอง เพื่อทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
    ยังมีอีกคดีหนึ่งที่สั่นสะทือนขวัญประชาชน คือกรณีนายไชยา ต๊ะนา ที่สมัยเป็นเยาวชนได้ก่อเหตุฆ่าพ่อเสียชีวิต ถูกจับติดคุก แต่เมื่อพ้นโทษกลับก่อคดีซ้ำด้วยการทำร้ายแม่และข่มขืน ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดท้องที่ ตงแม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.นี้ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ. 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สอบสวน บช.ภ.5 และ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รอง ผบก.สืบสวน บช.ภ. 5 นำกำลังจับกุมนายไชยาได้แล้วที่บริเวณชายป่ากลางหมู่บ้านตลาดขี้เหล็ก ห่างจากบ้านของนายไชยาประมาณ 1 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่ช่วงเช้าตรู่วันเดียวกัน ชาวบ้านพบเห็นนายไชยานั่งกินข้าวอยู่กลางทุ่งนาประมาณ 3 กิโลเมตร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่จนจับกุมไว้ได้ โดยนายไชยาอยู่ในสภาพร่างกายอ่อนเพลียจนเดินไม่ไหว เนื่องจากหลบหนีอยู่ในป่านานกว่า 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ต้องหิ้วปีกขึ้นรถนำส่ง สภ.แม่โป่ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาข่มขืนบุพการีและทำร้ายร่างกายผู้อื่น จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ดเพื่อตรวจร่างกาย
    ด้านแม่นายไชยา หลังได้ข่าวลูกชายถูกจับ ก็บอกว่า ดีใจที่ลุกชายไม่ถูกยิงตาย และหากสำนึกผิดกลับตัวกลับใจได้ ก็พร้อมให้อภัยในสิ่งที่ทำลงไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"