เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Jirapong Jeewarongkakul โพสต์ข้อความว่า “ในขณะที่กระแสพรานเศรษฐีลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากำลังร้อนแรง อุทยานแห่งชาติทางทะเลอย่างหมู่เกาะสุรินทร์ก็มีปัญหาการลักลอบเข้าไปท่องเที่ยวในอ่าวแม่ยาย อ่าวที่มีการประกาศปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพแนวปะการังที่เสื่อมโทรมหลังเหตุการณ์ปะการังฟอกขาว แถมนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังทำกิจกรรมที่รบกวนแนวปะการังดังภาพ อย่าโชว์โง่ด้วยการบอกว่านั่งบนหิน ไม่ใช่ปะการัง เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันคือปะการัง
ที่ต่างจากกรณีล่าสัตว์คือ ครั้งนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการถ่ายรูปประจานตัวเองของกลุ่มนักท่องเที่ยวเองแม้มีบางคนเข้าไปตักเตือนในโพสต์ก็มิได้รู้สึกรู้สาอะไร
ชื่อเสียงเรียงนามปรากฏชัดเจนตามภาพ (แต่ขอปิดไว้ในนี้ก่อน) กรมอุทยานฯควรตามให้เจอ แล้วดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เขาสำนึกให้ได้นะครับ ควรดำเนินการอย่าให้น้อยหน้ากรณีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ...ปะการังกับเสือดำก็เป็นสัตว์คุ้มครองเหมือนกันและเป็นการกระทำผิดในเขตพื้นที่คุ้มครองเหมือนกัน จะติดตามฟังข่าว”
จากนั้น รศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า “สำหรับเรื่องสาวโพสต์ท่า กรมอุทยานฯทราบเรื่องแล้ว และผอ.สำนักอุทยานสั่งให้มีการตรวจสอบโดยด่วน
พื้นที่อ่าวแม่ยาย เดิมทีเป็นบริเวณที่มีดงปะการังมากมายที่สุดแห่งหนึ่งของไทย แต่ได้รับผลกระทบจากปะการังฟอกขาว จึงถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2538 การปิดไม่ให้มีการท่องเที่ยว ช่วยให้ตัวอ่อนปะการังสามารถลงเกาะและเจริญเติบโตได้
อย่างไรก็ตาม อ่าวแม่ยายเป็นอ่าวที่มีลักษณะภูมิประเทศแบบปิด มีธาตุอาหารสะสมมาก จึงเกิดกรณีสาหร่ายเห็ดหูหนูคลุมแนวปะการังเกือบทั้งหมด เป็นเวลานานหลายปี เมื่อมีการปิดต่อเนื่อง ธรรมชาติเริ่มฟื้นตัว สาหร่ายหายไปจากบางพื้นที่ ตัวอ่อนปะการังเริ่มลงเกาะใหม่ แต่ต้องเผชิญกับปะการังฟอกขาวอีกครั้งในปี 2553 จึงหายไป
เคราะห์ดีที่การปิดยังทำต่อ ตัวอ่อนปะการังรุ่นใหม่เริ่มลงสู่พื้นที่ และมีข้อมูลจากการสำรวจว่าเริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม หากเราเข้าไปในพื้นที่ปิด กระทำการใดๆ อาจส่งผลกระทบที่คาดไม่ถึงต่อปะการัง และต่อการฟื้นตัวอันยาวนานของปะการังที่อ่าวแม่ยาย ในพื้นที่นี้จึงไม่อนุญาตให้มีการทำกิจกรรมใดๆ เพื่อประโยชน์ของทะเล
นอกจากนี้ อยากจะบอกว่า หากเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ ไม่มีหินครับ มีแต่ปะการังตาย ซึ่งจะเป็นฐานให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ตาอาจมองไม่เห็นลงเกาะ รวมถึงตัวอ่อนน้อยๆ ของปะการัง
การเหยียบ นั่ง หรือโพสต์ท่าใดๆ ในแนวปะการัง จึงเป็นการรบกวนทั้งนั้น
ผมเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีสถานที่ให้โพสต์ท่าอีกมากมาย โดยไม่ต้องฝ่าฝืนกฎระเบียบหรืออาจทำร้ายเพื่อนตัวน้อยๆ ใต้ทะเลของเราครับ #ดูแลป่าดูแลทะเลต้องช่วยกันครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้โพสต์เฟซบุ๊คดังกล่าวเป็นกลุ่มนักดำน้ำใต้ทะเลและยังเปิดรับสมัครสาวพริตตี้ นางแบบเพื่อถ่ายภาพใต้น้ำอีกด้วย ล่าสุดได้ลบภาพและข้อความดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊คแล้ว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |