15 ม.ค.62-  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสุถานที่(ครม.สัญจร) จ.ลำปาง ถึงกรณีพรรคการเมืองมองการประชุมครม.สัญจรเป็นการหาเสียง เรียกร้องให้ยุติ ว่า การที่บอกว่าการประชุมครม.นอกสถานที่เป็นการหาเสียง ตนเห็นพูดอยู่อย่างนี้ พูดไปเรื่อย อธิบายไปหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มาประชุมมารับฟังความคิดเห็นของประชาชน รับเรื่องร้องเรียนและขับเคลื่อนงาน อย่างเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนมา 4-5 เรื่อง 

ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องที่ดิน หนี้นอกระบบและได้อธิบายไปแล้ว การมาประชุมแต่ละครั้งไม่ใช่มา 2 วันแล้วจบ ทุกส่วนราชการส่งคนลงมาทำงานในแต่ละแห่ง ไม่ใช่มาตามนายกฯอย่างเดียว ครม.ก็ช่วยกันตรวจงานประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งวันนี้เราต้องแก้ปัญหาใน 3 ระยะ คือ 1.มาตรการเร่งด่วนให้การช่วยเหลือ เช่นมาตรการช่วยเงินที่ให้ไปแล้ว ส่วนที่ 2 สร้างความเข้มแข็งและ3.การแก้ตามโครงสร้างซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บท

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้สำเนารายละเอียดต่างๆว่าได้มีการหารืออย่างไรและสั่งการอะไรไปแล้วบ้างให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด จะได้รู้ว่าท่านเสนออะไรมา และรัฐบาลมีคำตอบอย่างไร เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำข้อมูลไปชี้แจงต่อประชาชนได้ว่าที่ขอมาอะไรได้บ้าง เพราะประชุมอย่างเดียวไม่มีเอกสารไม่ได้ และขอบคุณในการจัดการประชุมครั้งนี้ที่ดูแลทุกอย่างให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย การลงพื้นที่ของนายกฯหากไม่พบปะประชาชนก็ไม่รู้ต้องการอะไร ที่ผ่านมาตอนที่มีรัฐบาลเลือกตั้งก็เป็นนักการเมืองไปพบก็เหมือนนั้นแหละ ไปพบคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ไปพบเฉพาะกลุ่ม เพราะฉะนั้นใครจะไปจะมาก็เรื่องของเขา 

"ผมก็ถามผู้ว่าฯมีการเกณฑ์ใครมาหรือเปล่า ซึ่งทุกคนมาด้วยความเต็มใจ ถ้าไม่เต็มใจคงไม่มีใครมาพูดดีกับผมหรอก และการเกณฑ์คนไปเกณฑ์ได้ที่ไหน ไม่ได้ไปจ้างวานใครเขามา สิ่งต่างๆเหล่านี้ผมจะพิจารณาเองว่า จะทำอะไรเมื่อไหร่อย่างไร ตราบใดที่ผมยังทำตามกฎหมายอยู่ได้ผมก็ทำ คืออะไรที่ทำได้และอะไรเหมาะสม ทำได้ถึงเมื่อไหร่อย่างไรผมจะพิจารณาเอง"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนและขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทั้งสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ ตนรู้ว่าทุกคนก็เสี่ยงในการนั่งรถ แต่ขอให้การทำงานครั้งนี้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ สร้างการรับรู้กับประชาชนในภาพรวม ซึ่งพร้อมที่จะมีความเห็นต่าง โดยรัฐบาลพยายามที่จะถือมาตรการที่เป็นตรงกลางให้ได้ โดยนำกฎหมายมาเป็นหลักและหาวิธีการที่เหมาะสมมาดำเนินการ ไม่ใช่ทำโน่นทำนี่ให้หมด มันเป็นไปไม่ได้.