15 ม.ค.62 - ที่บริเวณหน้ามุข ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ได้มีนายสุทิตย์ ไชยา กำนันตำบลสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านในเขตพื้นที่ ต.สลักได กว่า 100 คนเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หลังได้รับความเดือดร้อนไม่มีน้ำอุปโภคบริโภคอย่างหนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรงผลิตน้ำดื่มที่ได้บ่อเจาะน้ำใต้ดินในเขตพื้นที่หมู่ 13 ต.สลักได ทำให้ไม่สามารถดูดน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวันได้มานานกว่า 1 ปี

ทั้งนี้ ชาวบ้านต้องใช้เครื่องปั๊มน้ำไฟฟ้า เพื่อดูดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ปรากฏว่า น้ำบาดาลมีแต่ลมทำสภาพชีวิตความเป็นอยู่เป็นของชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน กว่า 500 ครัวเรือนเดือดร้อนใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เพราะไม่มีระบบประปาหมู่บ้าน จำเป็นต้องใช้รถไปขนน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะระยะทางไกลกว่า 2 กม.

นางวิไล ปัญญางาม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 3 ต.สลักได กล่าวว่า ตนเดือดร้อนหนักจนต้องกู้เงิน ธกส. 50,000 บาท เจาะบาดาลไปกว่า 20,000 บาท น้ำไม่ออก ใช้น้ำบาดาลได้เพียงอาทิตย์เดียว เดือดร้อนต้องนำรถไถไปขนน้ำไกลกว่า 1-2 กม. ชาวบ้านบางคนพากันเอารถเข็น เอาแกลลอนไปใส่ขนน้ำกลับมาบ้านเพื่อใช้อุปโภค บริโภค

นางสาคร บรรณิ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 3 ต.สลักได กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่บ้านโคกกระชายกว่า 200 หลังคาเรือน มีความเดือดร้อนไม่มีน้ำกินน้ำใช้ เนื่องจากมีโรงผลิตน้ำดื่มส่งป้อนห้าง เวลาใช้ปั๊มน้ำไฟฟ้าสูบน้ำบาดาล ก็ไม่มีน้ำบาดาลออกมา ทีแรกเจาะ 2 นิ้วก็พอใช้ได้ แต่ต่อมาเจาะเพิ่มขนาด 3 นิ้วนึ้นไป ยังได้น้ำน้อยมาก ที่หมู่บ้านไม่มีระบบประปาหมู่บ้านใช้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเลยพากันมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ค่าไฟฟ้าตกเดือนละกว่า 1,000 บาทไม่ไหวแล้ว

ขณะเดียวกัน แกนนำชาวบ้าน ได้พากันยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว โดยมีนายนคพล บุญโสภา นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้เดินทางมารับหนังสือและรับทราบปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้าน พร้อมรับปากประสานงานหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 5 (นครราชสีมา) ลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ชาวบ้านต่อไป